[Review] ลำโพงเก่าๆ เก๋าๆ รหัส BA790

สวัสดีครับ วันนี้ผมมีเรื่องมาเล่าให้ฟังอีกเช่นเคย
เรื่องที่เล่านี้จะเป็นเรื่องราวของลำโพงที่มี DAC ในตัว
ลำโพงรุ่นนี้ยี่ห้อ Boston มีนามว่า BA790 เป็นลำโพงระบบ 2.1 channel
เนื่องจากลำโพงรุ่นนี้เป็นลำโพงที่เก่าแก่(มากพอสมควร) ดังนั้นจึงหาเวบต้นฉบับไม่ได้แล้ว(กระมัง)
เลยขออิงเสปคจากเวบที่หาได้นะครับ นั่นก็คือ
http://www.buycoms.com/upload/test/B...tal_BA790.html

เจ้า BA790 เป็นลำโพงรุ่นพี่ของเจ้า BA635 ซึ่งปัจจุบันทั้งสองตัวนี้ไม่สามารถหาซื้อมือ1ได้แล้ว
เนื่องจากทาง Boston ได้ยกเลิกการผลิตไปนานแล้วครับ
แต่เนื่องจากความโชคดีของผมซึ่งพี่พงษ์ Mujaarm ยอมให้ยืมสมบัติของรักของหวงมาทำการรีวิว
ซึ่งพี่พงษ์ใจดีมากๆครับ ขับรถเอามาให้ผมใกล้ๆบ้านเลย ต้องขอบคุณพี่พงษ์อีกครั้งนึงครับ _/l\_

มาเข้าเรื่องกันเลย
มาดูหน้าตา ตู็ซับวูฟเฟอร์กันก่อนดีกว่า

ตู้ซับเป็นตู้เปิด ท่อลมอยู่ด้านหน้า
นอกจากท่อลมอยู่ด้านหน้าแล้ว
Interface การใช้งานทั้งหมดยังอยู่ด้านหน้าอีกด้วยเช่นกัน


ลองมาดูกันชัดๆอีกซักรูปว่ารูไหนเป็นอะไร
เริ่มจากซ้ายสุดไปขวา
1. Input Coaxial
2. Analog Input (3.5mm)
3. Control
4. 12V in
จะเห็นได้ว่าลำโพงตัวนี้ค่อนข้างครบครันในเรื่อ Input มีทั้ง Coax และ Analog
ไม่ต้อง้อ DAC ไม่ต้องง้อการ์ดเสียง เนื่องจากมี DAC อยู่แล้วในตัว ประหยัดไปได้หายตังเลย


ไม่รู้ป้ายไหนเป็นป้ายไหน แต่ที่แน่ๆดูวันแปะวอย จะสังเกตุเห็นว่าตั้งแต่ปี 44
ลองคำนวนอายุของลำโพงตัวนี้ดูนะครับ เก่าแก่ขนาดไหน
แต่ลำโพงชุดนี้ที่ได้มา ของครบ สภาพสมบูรณ์
มีแค่อาการเหลืองและมีรอยเปื้อนบ้างนิดหน่อยตามอายุการใช้งาน
จึงถือว่าสภาพสวยมากๆสำหรับของเก่าขนาดนี้


ดูตู้ซับกันไปแล้ว แวะมาดูลำโพงลูกๆกันบ้าง

ลำโพงลูกๆสองตัวพร้อมขาตั้ง
ยังสมบูรณ์ดี ไม่มีรอยแตก บิ่นหรือหักใดๆทั้งสิ้น
ลำโพง Satellite ชุดนี้จะไม่มีดอก tweeter
แต่ถึงไม่มีดอก twister ลำโพงชุดนี้ก็ยังให้
ปลายเสียงแหลมทอดยาวได้อย่างไม่มีปัญหา


ดูกันจะๆ วอยชุดเดียวกันเป๊ะๆ
ดังนั้นชุดซับวูฟเฟอร์ กับชุด Satellite เป็นชุดเดียวกัน
อ่อลืมบอกไปครับ ลำโพงลูกๆทั้งสอง
จะเชื่อต่อกัน อธิบายเป็นภาพง่ายๆว่า ลำโพงซ้าย ต่อสายไปลำโพงขวา
หลังจากนั้นค่อยเสียบสาย Control จากลำโพงขวาไปที่ตู้ซับวูฟเฟอร์

Adapter ที่ให้มาก็เป็น Adapter ของ Boston แท้ๆ
แปะวอยมาอีกแล้ว ไม่รู้ทำไมแปะทุกชิ้นเลย -*-



ทีนี้มาดูสายพระเอกของเรากันครับ สาย Coax แบบบ้านๆ
ในเมื่อผมมีคอนเซปเทสแบบบ้านๆ
ก็ใช้ของตามบ้านๆเลย นั่นคือสาย AV ธรรมดา
หาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์ทั่วไป
หรือจะซื้อตามบ้านหม้อหรือคตลองถมก็ได้ เส้นนึงไม่กี่สิบบาทครับ ^^


จบ Part I
ตอนแรกว่าคืนนี้จะเอาให้จบ แต่ไม่ไหวแล้วคร๊าบบบ
ไปสอนแคลคูลัสมา หมดพลังอย่างแรง Part II และ Part III
ขอเอาไว้ต่อพรุ่งนี้ละกันนะครับ เสียงจากภาค Digital และ ภาค Analog จะเป็นอย่างไร
สาย Coax บ้านๆจะตอบสนองได้ดีขนาดไหน รอติดตามชมดูครับ

[superaot]

บทความดีๆมาอีกแว้ว

[ManiacMaew]

ได้มาจากคุณMujarm ระวังแอบโมมาแล้ว

[Sniperz]

อ้าว ว้าาาาาา ไปนอนซะแล้ว กางมุ้งรอดูต่อพรุ่งนี้เลยแล้วกัน ตื่นแล้วปลุกด้วยครับ ^^

[XsoeIIsJ]

ถ้าผมใด้มาจะไม่โมนะ เสียงอาจจะกระป๋อง แต่คงความเป็น orginal ใว้น่าจะรู้สึกดีกว่า

ซัพตัวนี้ผมมองทีไร นึกว่าด้านหน้าคือด้านหลังทุกที - -

ว่าแต่จัดฉากถ่ายยังกับสตูดิโอเลย หุหุ

[naraklive]

แนวๆ retro เดิมๆ ล้ำสมัยจริงๆ

[saensak]

รอชมครับ เห็นด้านหน้าซับรู้สึกตลอดว่าเป็นด้านหลัง...

บทความดีๆมาอีกแว้ว

ไม่ขนาดนั้นหรอกคร๊าบ

ได้มาจากคุณMujarm ระวังแอบโมมาแล้ว

เดี๋ยวรอดูแผงวงจรด้านในละกันครับ แต่เท่าที่ดูไม่น่าจะโมนะครับ น่าจะยังเดิมๆหมด

อ้าว ว้าาาาาา ไปนอนซะแล้ว กางมุ้งรอดูต่อพรุ่งนี้เลยแล้วกัน ตื่นแล้วปลุกด้วยครับ ^^

กินข้าวอยู่ เตรียมตื่นมาอ่านต่อได้แล้วครับ

ถ้าผมใด้มาจะไม่โมนะ เสียงอาจจะกระป๋อง แต่คงความเป็น orginal ใว้น่าจะรู้สึกดีกว่า

ซัพตัวนี้ผมมองทีไร นึกว่าด้านหน้าคือด้านหลังทุกที - -

ว่าแต่จัดฉากถ่ายยังกับสตูดิโอเลย หุหุ

เสียงไม่กระป๋องอะพี่หรอย แต่ขึ้นขอบไปนิด

แนวๆ retro เดิมๆ ล้ำสมัยจริงๆ

ใช่เลยครับ แต่เสียงยังดีอีกด้วย

เดี๋ยวขอกินข้าวก่อน แล้วค่อยมาต่อกันครับ

[mujaarm]

ได้มาจากคุณMujarm ระวังแอบโมมาแล้ว

ตัวเดิมๆ เพิ่งได้มาสะสม

เดี๋ยวพงก็จะถ่ายรูปวงจรภายในให้ดูครับ

มาต่อกันด้วยส่วนของภาควงจรกันก่อน ขอแอบลัดขั้นตอนครับ
(เพราะจริงๆตั้งใจว่าจะเล่าเรื่องเสียงก่อน แหะๆ)


แผงวงจรมีอยู่เล็กๆแค่นี้ครับ ก็คือส่วนตรงแผง interface ด้านหน้า แค่นั้นเองครับ
หมุนน็อตถอดออกแล้วจะมาเจอแบบนี้


ด้านนมีร่อยรองประทับตราแห่งความตราตรึงแห่งปี 2001 (พ.ศ. 2544)
มีบอกมันทุกชิ้นส่วนเลยจริงๆ
ส่วน A 022711 คืออะไรผมมิอาจทราบได้
หรือพี่พงษ์แอบแปะไว้ว่าได้รับมาเมื่อ
เดือน 2 วันที่ 27 ปี 2011 รึเปล่าหว่า ???




ตรงไหนเป็นอะไร บริการตนเองเลยนะครับ คิดซะว่าเป็นรูปของท่านๆเองละกันครับ






ถ่ายยากมากๆครับ เพราะสายเส้นสีแดงและดำสองเส้นนี้ถูกยึดติดไว้
ทำให้ดึงแผงนี้ออกมาได้แค่นิดเดียว ทำให้การถ่ายรูปไม่อิสระ
ต้องหมุนไปพลิกมา ใช้ท่ายากในการเข้าตี
กว่าจะได้รูปชัดๆออกมาก็ใช้ไปหลายกระบวนท่า



ยังไม่หมดครับ เรายังมีแถมให้อีกหลายภาพ







ใครเอาไปแทงหวยแล้วถูก ก็เอามาแบ่งเปอร์เซ็นให้ผมด้วยนะครับ
จะได้มีตังซื้อ B&W MM-1 ไม่ก็ Bose M2 มารีวิวกับเขามั่ง



สุดท้ายเปิดฝาหน้าออกทั้งหมด จะเห็นดอกซับวูฟเฟอร์และท่อลม
แต่เราจะเห็นแค่ครึ่งเดียว เพราะตัวตู้อีกส่วนนึง
ถูกแบ่งไปเป็นในส่วนตู้ของซับวูฟเฟอร์จริงๆเลย
พูดๆง่สยๆคือแบ่งเป็นสองส่วนหลักๆ
ส่วนแรกเป็นช่วงที่ไว้วางแผงวงจร ช่วงที่สองจะเป็นตัวต็ซับแท้ๆ
ขนาดของดอกซับ ผมวางเหรียญห้าไว้ให้เทียบแล้ด้วยครับ

Part II
ผมคงบรรยายอะไรมากไม่ได้ เพราะความรู้เรื่องอิเล็กทรอนิคนี่
ต้องบอกว่าเข้าใกล้ศูนย์มากๆครับ เลยต้องขอพูดน้อยๆและขอเล่าด้วยภาพแทนครับ
จึงขอจบส่วนสำหรับนัก DIY แต่เพียงเท่านี้
ใน Part III จะมาเล่าถึงเรื่องเสียงให้ฟังกัน ขอเวลาเรียงเรียงนิดครับ
เพราะส่วนนี้ยากที่สุด และตั้งใจจะทำให้ดีที่สุดครับ
เนื่องจากจุดประสงค์ของการใช้ลำโพง
คือการฟังเสียงที่ถ่ายทอดออกมาจากลำโพงนั่นเอง

[ManiacMaew]

ดูตู้แล้วงง ดอกมันหันเข้าในตัวเหรอ??

[Rev]

อันนี้เรียกว่าตุ้สูตร 4th Order หรือว่าแบบ Band Pass นะครับ

ถ้าเป็นตู้เปิดเราจะเห็นทั้งตัวลำโพงและท่อ

ไอซีภาคขยาย TDA 1554Q (4*11W, 2*22W) แต่ในที่นี้คงเอามาทำเป็น 2*11W(แซท)+1*22W(ซับ) ครีเอทีฟหลายๆ รุ่นก็ใช้ไอซีเบอร์นี้แหละ

แต่เสียงครีเอทีฟดันป๊องแป๊งกว่านี่แหละ ไหงงั้นหว่า?

มาถึงในส่วนสุดท้ายและสำคัญที่สุด คือเรื่องของเสียง
ผมได้ทำการทดสอบด้วยภาคอนาลอค และภาคดิจิตอล
ทั้งสองระแบบผมใช้ System นนระแบบอ้างอิงแบบ้านๆ
คือใครมีคอมก็อ้างอิงแบบผมได้ (ไม่ใช่การอ้างอิงแบบสากล 555)
ลองชมรูปได้เลยครับ

- ภาคอนาลอค ใช้ออนบอร์ด และสายสัญญาณแบบ 3.5mm
เป็นสายที่แถมมาใช้ชุดของ BA790(มั้ง)
- ภาคดิจิตอล ใช้ SPDIF แบบ Coax แบบ DIY ด้วยต้นทุนอันน้อยนิด
แต่เนื่องจากเครื่องไม้เครื่องมือไม่พร้อม เลยต้องรบกวนพี่เสือ Tiger X-Fi ในการจัดการมาให้
แต่พอได้ของมาผมก็ดันไม่พอใชจเนื่องจากฐานของขั้วตัวเมียใหญ่ไป
ผมเลยจัดการเปลี่ยนเองซะ มันก็เล็กลงและสามารถใช้งานได้ตามสะดวกผมล่ะครับ
ข้อดีคือถูกและประหยัด ข้อเสียคือมันบอบบางไปหน่อย
สาย Coax ก็บ้านๆ ตามที่กล่าวไปด้านบนว่าแล้วก็เสียบทั้งคู่เลย
สองรูคับแน่นพอดิบพอดี
- Software ใช้เหมือนเดิมครับ
Foobar 2000 version 1.1.1 + wasapi บน Win7 32bit

มาพูดถึงแนวเสียงของเจ้าลำโพงชุดนี้กันก่อนดีกว่า
แนวเสียงของลำโพงชุดนี้ มีลักษณะเบสคล้ายลำโพง 2.0 คอเบสคงจะไม่ถูกใจเป็นแน่แท้
เสียงกลางเปิดเผย เสียงสูงทำได้ดี บุคลิกจะเป็นลำโพงที่ออกแนวผ่อนคลาย
ให้รายละเอียดเสียงระยิบระยับ
ฟังง่ายฟังสบาย แต่ค่อนข้างเรื่องมากในการหาที่ตั้งของตู้ซับวูฟเฟอร์
ตั้งไม่ดีเบสบางมากๆ หากท่านใดเคยได้ลองฟังเพลงในระบบสเตอริโอมาก่อน
จะทราบว่าเนื้อเบสมีส่วนสำคัญเพียงใดในการฟังเพลง
ไม่ว่าจะด้วยเนื้อเบสหรือปริมาณของตัวเบสเอง จะทำให้ฟังเพลงได้อรรธรสมากขึ้น
ลองนึกสภาพว่าเพลงที่คุณฟังนั้นเป็นพีระมิด เสียงเบสจะเป็นฐาน
เสียงกลางจะเป็นช่วงกลางของพีระมิด และแน่นอนว่าเสียงสูงคือยิดพีระมิด
(ช่วงนี้อาจหน้าเบื่อหน่อยเพราะไม่มีรูปประกอบ)
อยากให้นึกถึงภาพพีระมิดที่ในอุดมคติไว้ก่อน แล้วลองมานึกภาพตามกันดูว่า
ถ้าเบสบาส เบสหาย พีระมิดของเราก็จะเป็นแบบ
ฐานแคบๆ แต่ดันไปป่องตรงกลาง พีระมิดก็จะไม่สวย ดังนั้นเพลงที่ฟังก็ขาดอรรถรส

ถ้าเสียงกลางไม่เปิดเผย หรือเสียงหลบๆ ก็จะเป็นพีระมิดที่ฐานนั้นสึกหรอ จะสวยงามไหน
พีระมิดแบบฐานใหญ่โต แต่กลางพีระมิดเป็นแท่งดินสอ (คงไม่งามน่าดูชมซักเท่าใด)

เสียงสูงกุดๆก็เหมือนพีระมิดโดยตัดยอด
แทนที่ยอดพีระมิดจะแหลมๆทำให้พีระมิดดูสวยสง่า
ก็กลายมาเป็นพีระมิดหัวหายซะได้
แบบนี้ก็เทียบประมาณแนวเสียงที่ขาดรายละเอียด
ขาดช่วงเสียงสูงไป

จริงๆมันก็เป็นแค่แนวทางในความสมดุลขอลเสียง
ตามแบบที่ผมพยายามสื่อออกมาให้เห็นภาพมากขึ้น
ตามความเข้าใจอันเล็กๆน้อยๆของผม ซึ่งมันก็ไม่ใช่ระดับที่อ้างอิงอะไรได้ครับ
และเป็นความเห็นส่วนตัว ดังนั้นใครจะเห็นต่างใครจะคิดต่างจากผม
หรือจะชอบไม่เหมือนผมก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะต่างคนก็ต่างรสนิยมครับ

อธิบายไปยาวเข้าเรื่องดีกว่า
ลำโพงชุดนี้เป็นลำโพงที่ฟังสบาย ไม่ล้าหู แต่ต้องเปิดดังพอสมควร
ใช้ภาคดิจิตัล เปิดวอลุ่มไปที่ประมาณ 11นาฬิกา
ซึ่งถือว่าเยอะพอสมควร แต่ก็ไม่ได้เยอะมากจนน่าเกลียดครับ
เมื่อเราหาตำแหน่งจัดว่งซับวูฟเฟอร์เรียบร้อยแล้ว
จะพบว่า เบสที่มีจะคล้ายเบสใน 2.0 ไม่ใช่เบสแบบ 2.1
ทำให้ผมชอบลำโพงชุดนี้ (ฟังเพลงอย่างเดียวนะ)
ที่บอกว่าชอบในการฟังเพลงอย่างเดียวเพราะฟังเพลงเพราะดี
แค่ดูหนังสอบตกขาดความหนังแน่น
ขาดความดุดัน ขาดพลังของซับวูฟเฟอร์
แค่สามอย่างนี้ก็ทำให้ดูหนังไม่ได้อรรถรสแล้ว ถือว่าสอบตกครับในเรื่องการดูหนัง
ว่าด้วยเรื่องเสียงกลาง เสียงกลางเปิดเผยโดดเด่น
ฟังง่ายไม่ขี้ฟ้อง มีความไหลลื่นดีพอสมควร
ที่สำคัญให้รายละเอียดในเรื่องการไล่ระดับความเบาคววามดังของเสียงได้ค่อนข้างดี
จะมีลำโพงมังติมีเดีย หรือที่เรียกสั้นๆง่ายๆว่าลำโพงคอมฯ
ในราคาไม่ถึง 5 พันบาทซักที่ตัวที่ทำได้ดีแบบนี้
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าลำโพงชุดนี้จะเทียบชั้นกับระบบเครื่องเสียงแยกชิ้นได้นะครับ
เสียงสูงนั้นให้รายละเอียดที่ดี อย่างเสียงเครื่องสายหรือเสียงนกร้อง
ก็มีความชัดเจนแต่ไม่บาดหู แม้จะขึ้นขอบไปบ้างก็ตาม
แต่ถ้าใครชอบเสียงจากสายกีต้าที่ดีดลอยตัวออกมา
รับรองจะไม่ผิดหวัง ส่วนเรื่องความสมดุลของเสียงในทุกย่านนั้น
ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เราจัดวางตู้ซับและปริมาณของเบสที่เราปรับเพิ่มลดตามชอบครับ
ในเรื่องการแยกแชลแนลซ้ายขวา ทำได้ดีพอสมควรอยู่ในเกณ์มาตรฐาน
ไม่ได้ตกหล่นแต่อย่างใด ส่วนมิติเวทีเสียงนั้น ทำได้ค่อนข้างดี
ถือว่าสอบผ่านอย่างสบายๆ ถึงจะไม่ได้กว้างขวางโอ่โถง
แต่ก็ไม่ได้อึดอัด คับแคบ แต่อย่างใด
ทำให้โดยรวมถือว่าลำโพงชุดนี้เหมาะแก่การฟังเพลงสบายๆ ไม่เหมาะกับแนวหนักๆ


เดี๋ยวจะเบื่อกันเลยแวะเอาภาพมาให้ชม ถ้าชุดลำโพงทำงาน ไฟสีเขียวจะสว่าง ดังรูป
วอลุ่มปรับประมาณ 11นาฬิกา เบสปรับประมาณครึ่งนึง
นี่ขนาดผมไม่ใช่ผู้ที่บริโภคเบส เพียงแต่มันต้องมี
ถ้ามันไม่มีพีระมิดของผมก็จะมีฐานที่ไม่แข็งแรง
เวลาฟังแล้วจะรู้สึกเหมือนว่า เสียงกลางและเสียงสูงมันลอยๆ
คือมันไม่ได้ลอยออกมา แต่เหมือนมันลอยเคว้งคว้าง
เพราะมันไม่มีพื้นฐาน ไม่มีเนื้อเสียงเบสเป็นฐานเป็นเวทีไว้รองรับ อะไรประมาณนั้นครับ
มาถึงช่วงท้ายที่สุดจริงๆแล้ว นั่นคือการเทียบเสียงของภาคดิจิตัลและเสียงจากภาคอนาลอค
ในส่วนนี้ผมจะขอเขียนไม่ละเอียดนัก จะพยายามลองเขียนให้สั้นๆได้ใจความ และเห็นภาพครับ
ในภาคอนาลอคจากออนบอร์ด จะให้เสียงที่เบากว่านิดหน่อย เนื้อเบสไม่กลมกล่อมเหมือนภาคดิจิตอล
เสียงกลางจะแหบแห้งและขาดพลังไปพอสมควร เปรียบกับนักร้องที่ปอดไม่มีพลังปอดในการร้องเพลง
ถ้าเป็นคนเล่นเครื่องเป่า ก็เปรียบเสมือนลมไม่พอในการเป่าโน๊ตตัวนั้นๆ
เสียงสูงจากภาคอนาลอคนั้นมีความใสที่น้อยกว่า ที่สำคัญคือมันหลบมากกว่า
เหมือนว่าเขยิบหลบเข้าไปด้านหลังของจอมอนิเตอร์
เมื่อเทียบกับภาคดิจิตอล ซึ่งจะไม่เกิดอาการดังกล่าว
สุดท้ายก็คงฝากรูปเห่ยๆที่ถ่ายด้วยตัวเองไว้ให้ชมอีกซักภาพละกันครับ
เนื่องจากเวลาของผมและตากล้อง(ม่อน) เวลาไม่ตรงกัน
เลยทำให้ทุกท่านต้องรับชมภาพถ่ายจากฝีมือเห่ยๆของผมไปก่อน



ฉบับหน้าคงจะป็นการเล่าเรื่องของลำโพงเก่าๆ เก๋าๆ รุ่นเล็กอย่าง BA635 ให้ฟังกันครับ วันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ

[tiger X-fi]

เห็นแล้ว...วิจารณ์ จขกท ดีกว่า
เหมาะมากเลยที่จะเขียนบทความ
ถ้าเป็นผมรับรอง ไม่เกิน 3บรรทัด
ขอบคุณครับ...สำหรับรีวิวดีๆ

ดูตู้แล้วงง ดอกมันหันเข้าในตัวเหรอ??

มันเป็นประมาณนี้ครับ


แผงวงจร
ท่อลม
ดอกซับ

อันนี้เรียกว่าตุ้สูตร 4th Order หรือว่าแบบ Band Pass นะครับ

ถ้าเป็นตู้เปิดเราจะเห็นทั้งตัวลำโพงและท่อ

ไอซีภาคขยาย TDA 1554Q (4*11W, 2*22W) แต่ในที่นี้คงเอามาทำเป็น 2*11W(แซท)+1*22W(ซับ) ครีเอทีฟหลายๆ รุ่นก็ใช้ไอซีเบอร์นี้แหละ

แต่เสียงครีเอทีฟดันป๊องแป๊งกว่านี่แหละ ไหงงั้นหว่า?

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ^^