D.I.Y.ตอน ต่อแอมป์ 40+40 w. ราคาไม่ถึงพัน

[ksurachai]

^
ทำงานที่โรงงานผลิตสวิทชิ่งพาวเวอร์ซัพพลาย
กล่องสวิทชิ่งพาวเวอร์ซัพพลาย นั่นน่ะครับ พวกตัวยาวๆ
เอามาทำกล่องแอมป์แจ๋มแน่ ยิ่งพวก(server) เหล็กอย่างหนา
บางตัวเป็นสเตนเลสด้วยยิ่งแจ๋ม
--------------
เดี๋ยวก็ขอซะเลย

เหนียวมากๆเลยครับเหล็กเคสท์ที่ว่า จริงๆก็คิดไว้นานละครับ เอามา 2-3รุ่น คิดไปคิดมาเกิดเปลี่ยนใจ น่าจะทำเองดีกว่า แผ่นเมกกาไล้ท์ คิดๆอยู่ว่าจะดีกว่ามั๊ยให้เพื่อนที่ช็อปทูลลิ่งทำให้(เป็นโรงกลึงขนาดใหญ่ๆโรงนึงเลยครับ แต่จะไปเอาแผ่นใหม่ๆเค้ามาทำมันก็ยังไงๆอยู่) อีกอย่างที่คิดคือไม้อัด ซื้อเลื่อยมาตัดแต่ง กระดาษทรายขัดๆทำโค้งลงแล็กดีกว่ามั๊ย คิดๆอยู่ครับ

เรื่องซัพพลายเดี๋ยวสิ้นเดือนผมส่งให้นะครับ ส่งที่อยูมาให้ผมละกันครับท่าน

[poh1998]

เมื้อกี้เอาถ่าน 9 v ต่อเข้า input ลำโพงคอม + จิ้ม - - จิ้ม + เสียงโครมครามๆๆ สนุกดี5555

[ksurachai]

จากกราฟ 0dB(ไม่มีเสียง)เริ่มที่กระแส0.5mA ไปจนถึง10mA แต่ไม่บอกค่ากระแสMaximum



Rm=ตัวกำหนดให้กระแสขา8 , Cm=ตัวกำหนดระยะเวลา ช่วงมีเสียง>ช่วงไม่มีเสียง หรือ ช่วงไม่มีเสียง>ช่วงมีเสียง



วงจรภายในของ3886 (ในกรอบสีเขียว คือ ส่วนของวงจรmuteภายในตัว3886)

- วงจรควบคุมการทำงานMute ใช้Diode+Rค่า1Kเพื่อทำหน้าที่กำหนดกระแสของขา8
- วงจรตัวอย่างของผู้ผลิต หรือ วงจรที่ทำๆกัน ส่วนใหญ่จะใช้Rตัวเดียว

จากจุดนี้ ทำยังงัยก็ได้ จะใช้อะไรก็ได้ เพียงแค่ให้ขา8มีกระแส0.5mAขึ้นไป

แต่ผลจากการเลือกใช้อะหลั่ย ทำให้เกิดผลต่างทางเสียงในขณะวงจรทำงานในภาวะปรกติ(มีเสียง)ด้วยแน่นอน
เพราะ
- การทำงานของวงจรMute+วงจรDriver จะเห็นว่าชุดMuteเป็นการควบคุมแรงดันไฟเลี้ยงทรานซิสเตอร์ชุดDriver
- ค่าอิมพิแดนซ์ของไฟเลี้ยงชุดDriver จะมีผลย้อนกลับไปมีผลกับค่าอิมพิแดนซ์ของPowersupplyด้วย

ทดลองได้ด้วยตัวเอง
- Cm ใช้Cฟิลม์ ค่าสูงสุดเท่าที่จะหาได้
- ใช้Cฟิลม์ต่อBi-CapตัวCm ส่วนใหญ่ใช้Cmแบบอิเลคทรอไลติคส์ (เสียงเปลี่ยนไปตามCmและCฟิลม์ที่ใช้)
- Rm ชอบเสียงของRยี่ห้อไรรุ่นไร ก็ใช้ตามนั้น (เสียงเปลี่ยนไปตามRที่ใช้)
- Diode2ตัว + Rค่า1K ชอบเสียงของไดโอดตัวไหนก็เอามาใช้ได้ (เสียงเปลี่ยนไปตามDและRที่ใช้)


คำเตือน
- การทดลองต่างๆย่อมทำให้เกิดภาวะคาดหวังและความเครียด
- ความสิ้นเปลืองต่างๆ จะเป็นภาระต่อกระเป๋าเงินของคุณ
- ผลต่างมากน้อยอยู่ที่คุณภาพของชุดที่คุณใช้
ฉะนั้นตัดสินใจให้ดีก่อนคิดจะลอง


ใครอยากรู้การทำงานแบบละเอียด ปรึกษาคุณdracoV

จดๆ ...

ขอบคุณครับสำหรับความรู้ที่ให้มา ที่เข้ามานี่ก็เพื่อมาถามและหาความรู้เพิ่มเติมเช่นกัน ว่างหรือมีเวลาและความรู้ก็รบกวนด้วยนะครับ ถามมากๆก็เกรงใจครับ กลัวจะหงุดหงิดรำคาญ จะพยายามหาเองให้มากที่สุดเพื่อรบกวนท่านๆให้น้อยที่สุด

[dracoV]

อ้อ ครับ lm3886 mute นี่สมการจริงมันต้องลบอีก 2.6V ด้วยนิ ไม่ได้อ่าน datasheet ละเอียดๆ
ยังไม่เคยลองตัว 3886 เลยยังไม่ได้ดูละเอียด ดูตารางแล้วประมาณเอาเลย
(แถ)เอาว่าใกล้เคียงน่ะ พอทำงานได้ อิอิ

สำหรับ IC นี่เวลาเราจะเอาไปใช้งาน ที่ปรึกษาแรกและสำคัญเลย ก็ datasheet นี่แหละครับ
รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆด้วย ไม่เว้นแม้แต่พวก R,C,L จะทำให้รู้การทำงานจริงของอุปกรณ์
ถ้าดูกราฟเป็นยิ่งดี เพราะนั่นคือแสดงการทำงานจริงของอุปกรณ์ วิเคราห์ดีๆ สามารถหาจุดที่รีดความสามารถ
ของอุปกรณ์ออกมาได้ด้วยนะ

------------
WM8805 นี่ก็อยากลองครับ แต่ตอนนี้ยังมี CS8416CZZ เหลืออยู่ตัว เอามาใช้ซะก่อน เสียดาย
รูปBlock diagram อันนั้นละครับ คล้ายๆกับที่ผมคิดว่าจะลองทำprojectหน้า ใช้ WM8740 2ตัว
(@คุณkeang ตัว PCB 8416ของผม ยังปรับวงจรกับPCBอีกนิดหน่อย เผื่อไว้ใส่อุปกรณ์คนละชนิด/ขนาด
เดี๋ยวเสร็จแล้วจะส่งรูปPCB/schematicให้ช่วยดูด้วยครับ เผื่อมีอะไรแนะนำเพิ่ม ผมเองยังไม่เคยทำ 192kHz
ไม่แน่ใจว่าลืมอะไรหรือเปล่า)

ผมก็ชอบแยกแผงวงจรเป็นส่วนๆนะ ลองเล่นอะไรได้เปลี่ยนได้ ยกแผงเก่าออกเอาใหม่ใส่ ง่ายดี

อืม.... หรือ ตัว Receiver ใช้ WM8805 ถ้ามีอยากได้กันหลายคน
มาช่วยกันออกแบบวงจร/PCB แล้วส่งไปกัดที่ วรา ไหม เผื่อคุ้ม ค่าsetup (แพงอยู่)

[poh1998]

10 pin ของ creative มีใครรู้มั้งครับ port ไหนเป็น s/pdif
ปล.ทุกอย่างด้วยเลยก็ดีครับ จะทำ frontpanal

[keang]

(@คุณkeang ตัว PCB 8416ของผม ยังปรับวงจรกับPCBอีกนิดหน่อย เผื่อไว้ใส่อุปกรณ์คนละชนิด/ขนาด
เดี๋ยวเสร็จแล้วจะส่งรูปPCB/schematicให้ช่วยดูด้วยครับ เผื่อมีอะไรแนะนำเพิ่ม ผมเองยังไม่เคยทำ 192kHz
ไม่แน่ใจว่าลืมอะไรหรือเปล่า)

5 5 5 ท่าทางจะคิดผิดแล้วละครับ

คุณdracoVกับเพื่อนอีกหลายคนในนี้ทำDACใช้งานได้สมบูรณ์กันมาแล้ว ทุกคนมีประสบการณ์จริงกันทั้งนั้น
ผมเองยังไม่เคยทำสักตัว แต่ผมชอบอ่านชอบหาความรู้เพิ่ม ผมชอบเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนอื่นอีกที
ท่องเวปไปเรื่อยทั้งในทั้งนอก ผมใช้เสิร์ชเอนจิ้น3ตัว จะมีลิ้งค์ที่ไม่ซ้ำกันให้เห็น ทำให้เราเห็นอะไรได้มากกว่าใช้เสิร์ชเอนจิ้นยอดนิยมตัวเดียว

เวปDIY พวกกระทู้ที่เริ่มจากศูยน์ ตั้งแต่คิดวงจรเอง ตั้งแต่เริ่มประกอบเอง เวลาประกอบแล้วมีปัญหา ช่วยกันแก้ปัญหา ช่วยกันหาจุดบกพร่อง
เวปพวกนี้ผมชอบมาก เพราะได้เห็นปัญหาและวิธีแก้ไข บางครั้งก็มีโอกาสได้เห็นจุดดีจุดด้อยของรูปแบบวงจร ของรูปแบบPCB ของอะหลั่ยคุณภาพดีแต่ไม่เหมาะสมกับการทำงาน

เวปเครื่องแบรนด์ หรือเวปService Manual บางทีจะมีวงจรให้เราดู แต่ไม่ได้ดูเพื่อซ่อม แต่ดูเพื่อหาจุดเด่นของยี่ห้อนั้นที่แฝงอยู่ในวงจร

แม้แต่เวปผู้ผลิตอะหลั่ยเอง บางเบอร์จะมีEVMให้เราดูเป็นตัวอย่างสำหรับการใช้งานจริงด้วย ซึ่งEVMนี่ช่วยได้เยอะมากในการเรียนรู้และทำความเข้าใจ
ผู้ผลิตหลายรายก็มีข้อมูลเรื่องเทคนิคการปรับปรุงคุณภาพการทำงาน เรื่องปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในวงจร ให้อ่านด้วย

WM8805 นี่ก็อยากลองครับ แต่ตอนนี้ยังมี CS8416CZZ เหลืออยู่ตัว เอามาใช้ซะก่อน เสียดาย
รูปBlock diagram อันนั้นละครับ คล้ายๆกับที่ผมคิดว่าจะลองทำprojectหน้า ใช้ WM8740 2ตัว

อืม.... หรือ ตัว Receiver ใช้ WM8805 ถ้ามีอยากได้กันหลายคน
มาช่วยกันออกแบบวงจร/PCB แล้วส่งไปกัดที่ วรา ไหม เผื่อคุ้ม ค่าsetup (แพงอยู่)

น่าสนใจครับ
แต่GBต้องให้คนที่สนใจมาพูดคุยว่าส่วนใหญ่ต้องการแบบไหน จะไปในทิศทางไหน จะใช้อะหลั่ยแบบไหน

ที่ผมเล็งๆไว้ ถ้ามีเวลามีโอกาสจะทำเล่นก็พวกWM8804, WM8805, TAS1020B
ถ้าเป็นส่วนของDACก็WM8740, PCM1794A (จริงๆอยากทำPCM1792Aมากกว่า แต่ต้องหาคนมาเขียนตัวคอนโทรล)
แต่ละแบบก็มีรูปแบบตัววงจรไว้อย่างละ4-5แบบ แต่ละแบบก็มีจุดดีต่างกันไป ถึงเวลาทำจริงก็ลองเอามาดัดแปลงให้เหมาะกับตัวเรา

ถึงเวลาทำจริงถ้ายังหาPCBแบบสำเร็จถูกใจไม่ได้ ผมก็ทำPCBเฉพาะตัวชิบไอซี+คริสตัล ที่เหลือก็ใช้วิธีไวร์ริ่งตัวอะหลั่ยกับขาไอซีบนPCBเอา

[ManiacMaew]

10 pin ของ creative มีใครรู้มั้งครับ port ไหนเป็น s/pdif
ปล.ทุกอย่างด้วยเลยก็ดีครับ จะทำ frontpanal

จะทำจากการ์ดsb0570 เหรอ?

การ์ดแต่ละรุ่นของครีเอทีฟให้ pin มาไม่เท่ากัน (ชุด 10pin ไป front panel จะเหมือนกัน เว้นแต่รุ่นใหม่ๆ จะแก้เป็น แบบhd audio)

sb0570 ไม่มี pin ของ s/pdif มาให้น่ะ และก็พวก pin สำหรับชุดfront x-fi หรือ frontของaudigy ที่เป็น bay ใหญ่ๆ ใส่ช่อง5.35" จะไม่มีมาให้นะ

[poh1998]

จะทำจากการ์ดsb0570 เหรอ?

การ์ดแต่ละรุ่นของครีเอทีฟให้ pin มาไม่เท่ากัน (ชุด 10pin ไป front panel จะเหมือนกัน เว้นแต่รุ่นใหม่ๆ จะแก้เป็น แบบhd audio)

sb0570 ไม่มี pin ของ s/pdif มาให้น่ะ และก็พวก pin สำหรับชุดfront x-fi หรือ frontของaudigy ที่เป็น bay ใหญ่ๆ ใส่ช่อง5.35" จะไม่มีมาให้นะ

แง่ววววววว อดไปครับ พอดีจะทำ s/pdif ออกไป dac อะครับ

[ManiacMaew]

แง่ววววววว อดไปครับ พอดีจะทำ s/pdif ออกไป dac อะครับ

มันมีหัว s/pdif แบบ3.5 อยู่แล้ว ใช้หัวแปลงเป็นrcaเอา ไม่อยากใช้หัวแปลง ก็หาจุดจั้มป์ในการ์ดไล่จากแจ็คที่เป็น s/pdif มาเอา

[poh1998]

มันมีหัว s/pdif แบบ3.5 อยู่แล้ว ใช้หัวแปลงเป็นrcaเอา ไม่อยากใช้หัวแปลง ก็หาจุดจั้มป์ในการ์ดไล่จากแจ็คที่เป็น s/pdif มาเอา

อ๋อครับ ลืมไป ใช้หัวแปลงละกัน
แต่ไล่วงจรนี่ งงมากครับ เมื่อวาน ถอดการ์ดมาดู งงมาก

[keang]

เครดิต RJ & US IMPORTS > ferrite suppression beads

Ferrite Suppression Beads


equivalent circuit of a bead (R and L) inserted between a source (ZS) and load (ZL)


Ferrite beads are used for decoupling (keeping out unwanted signals) on dc supply and some signal lines and provide attenuation of selected frequency bands. The physical shape of a bead is similar to a toroid, but the bead has a greater length to diameter ratio and usually a greater outside to inside diameter ratio than most toroid cores. Where the length to diameter ratio is even greater the bead is often referred to as a sleeve. Different size/shape beads of the same material have different degrees of suppression. Refer to bead comparison table. RF chokes are usually wound as a solenoid on a ferrite rod and can exhibit relatively high Q values and produce an external field which can have mutual coupling to other circuit elements. This is undesirable in many circuits and can lead to instability (unwanted oscillation). In contrast, the bead equivalent circuit looks like a series resistor and inductor, has a very low value of Q, and is self shielding. A plot of Z versus frequency for any particular bead will show that at the lower frequencies XL and R are similar, but as the frequency is increased the R dominates and XL drops away. This is the lower of the range of suppression frequencies. The upper suppression frequency is a property of the material, and the R value will eventually peak and also fall away. A bead is often used on transistor base leads and FET gate leads to provide stable operation of amplifier circuits by lowering the Q and or suppressing unwanted high frequency feedback. When used in conjunction with a bypass capacitor a bead can provide extremely good decoupling.


ใครที่คิดว่า Ferrite Suppression Beads เป็นแค่ลวดร้อยผ่านเฟอไรท์ ไม่น่ามีผลไรมากมาย (คิดผิดคิดใหม่ได้น่ะครับ)
ลองทำความรู้จักกับตัวนี้ดีๆ แล้วจะรู้ว่า นอกจากมีหลายยี่ห้อแล้วมันมีเบอร์ด้วย และเบอร์เยอะมาก แต่ละยี่ห้อแต่ละเบอร์มีขอบเขตอะไรแบบไหน
ใครอยากรู้ต้องตามไปอ่านรายละเอียดส่วนที่เหลือเอาเองครับ

[jinn]

ไปเจอ...มา...เลยเอามาฝาก..ได้ความรู้ดี

พอดี...จบออกแบบมา...เลยต้องหาความรู้...เพิ่มเติม

...........................................................................

อยากจะรู้ ถ้าไม่อ่านก็ไม่รู้ เบื้องต้นครับกับการก้าวสู้เส้นทาง DIY

http://www.thaidiyaudio.net/index.php/topic,85.0.html

เครดิต...คุณ pajonec

[dracoV]

@คุณkeang ไม่ผิดหรอกครับ ความรู้/ประสบการณ์/ช่วยๆกันดู นี่ช่วยได้มากครับ
อย่างที่คุณkeang ช่วยดูแล้วเจอ จุดใหญ่ด้วย วงจรเดิมผมใช้กับ PCM2706 เลยทำที่ 96k
ก๊อปของเก่ามาลืม เกือบเอาไปทำ 192k ซะแล่ว

--------------
เมื่อวานลองนั่งทำ BOM คร่าวๆของตัวที่กำลังจะทำนี่ DAC+Amplifier
-> http://www.overclockzone.com/forums/...1#post31716443


นับอุปกรณ์ นับไปนับมา 203 ชนิด 616 ตัว 555+ เดี๋ยวต้องไปไล่ๆดูอีกหน่อย
ตัดๆออกไปบ้าง ชักเยอะเกิน

[keang]

http://www.pavouk.org/hw/modulardac/en_i2sisolator.html

นับอุปกรณ์ นับไปนับมา 203 ชนิด 616 ตัว 555+ เดี๋ยวต้องไปไล่ๆดูอีกหน่อย
ตัดๆออกไปบ้าง ชักเยอะเกิน

เฉพาะค่าอะหลั่ย616ตัวมูลค่าไม่น้อยเลย ถ้าตัวละ5บาทก็3,080บาท

TLE2426 ไอซีVGเอามาใช้ส่วนไหนองวงจรครับ


---------------------------------------


ของฝาก
เครดิตเวปpavouk.org > I2S isolator

I2S isolator


Introduction
To avoid hum and interference in our high quality DAC we need to galvanically isolate him from a signal source and break potential unwanted ground loop. One possibility is to isolate DAC on input of the S/PDIF decoder with pulse transformer or connect him with optical TOSLINK. When we want to connect DAC directly from USB receiver via I2S bus, that we must use special integrated circuit which works like electrical isolator of TTL signals.

Circuit description
Circuit use specialised circuit IL715E which have on the one side four TTL inputs and on the opposite side corresponding outputs. It perfectly fits to I2S bus, where we have DATA, BCK, LRCK and SCK signals. Circuit requires dual supplying, one on the input and second on the output side. On the input is supply connected to +5V which I bring out them on the I2S connector for future use. Secondary side is supplied from small DC/DC converter. According to recommendations are around converter inductors L1 and L2 and filter and block capacitors. Their values correspond to changer from Aimtec company but probably parts will be acceptable for changers from other companies. For reliable function of converter is on the secondary side load resistor R1 which guarantee minimal current consumption about 20mA. Datasheet have informations about maximum data rate 100Mbps which is far away from our sample frequency 48kHz, where frequency of BCK is 3.072MHz and SCK is 12.288MHz with 4x oversampling. Circuit should work with 192kHz/24bit samples where frequency of SCK is higher 49.152MHz. DAC without oversampling doesn't use SCK signal that we must care only maximal BCK frequency. It is possible to use isolators from other vendors with same pinout, but we must check their maximum data rate and if they doesn't need ENABLE signal.

[dracoV]

TLE2426 ผมใช้ทำ ground channel สำหรับส่วน Analog output กับเป็น 0V reference สำหรับ op-amp ด้วย
ต้องการแยก ground output ออกจาก ground ระบบ และให้ 0V reference มันนิ่งๆน่ะครับ

แล้วก็ก็ออกแบบ PCB ไว้เผื่อลอง ใช้เป็น Ground plane ของส่วน Analog ตั้งแต่ออกจาก DAC ทั้งหมด บนบอร์ด DAC
ยังไม่แน่ใจว่าจะได้ผลดีหรือเสียมากกว่ากัน ลองดูก่อนถ้าผลไม่ค่อยดีก็ตัดสาย จั๊มลงกราวด์ระบบแทน

พวกอุปกรณ์โชคดีหน่อย(หรือเปล่า) มีเหลือๆอยู่พอสมควร พวก R, L, C, IC, Transistor, etc. บางตัวบางค่า
เพราะซื้อทีนึงก็หลักสิบ หลักร้อยตัว ผมไม่ค่อยชอบซื้อแบบพอดีตัวเท่าไหร่ กลัวเดี๋ยวเกิดมีเจ๊งมาสักตัวก็ต้องไปซื้อหรือสั่งใหม่
จะว่าไปก็เปลืองตังค์อยู่ แต่อาศัยว่าชอบทำนู่นๆนี่ๆเล่น ก็เลยพอหาเรื่องใช้ได้

ข้อดีอย่างนึงที่มีอุปกรณ์เยอะตัว ก็สามารถแมชค่ามันได้มากขึ้น เช่นพวก R พวก Transistor นี่ก็หาแมช hFE หรือ Idss ได้ง่ายหน่อย