เวนกรรม มีอัดกันแรงด้วย หรือว่าผมไม่เคยสังเกตุไม่ได้สนใจหว่า
คืองี้
ผมเห็นด้วยกับเรื่อง "เช็ดขาอะหลั่ยด้วยแอลกอฮอร์" เพื่อล้างคราบอ๊อกไซด์ ล้างคราบต่างๆที่เกาะตามผิวขาอะหลั่ย
แต่ที่ผมทักจะเป็นเรื่อง "กระดาษทรายขัดขาอะหลั่ย" หรือ "คัดเตอร์ขูดขาอะหลั่ย" หรือ "คัทเตอร์เหลาขาอะหลั่ยให้มีขนาดเล็กลง"
พอเราใช้พวกนี้ไปขัดขาขูดขาอะหลั่ย ผิวนอกสุดของขาอะหลั่ยมันจะไม่เรียบ ผิวจะขรุขระ (ลองเอาแว่นขยายส่องสูง)
ทางทฤษฎีทางเดินไฟ ไฟมันจะเดินทางผ่านผิวนอกได้ไม่สม่ำเสมอ เหมือนสะดุดตามพื้นผิวที่ขรุขระ
ผิวเรียบกับไม่เรียบ จะมีผลต่อเสียงด้วย ส่วนที่ว่าจะได้ผลแบบไหน ฟังออกไม่ออก ก็เป็นอีกประเด็นนึง
แต่ถ้าอยากลองแบบง่ายๆ ก็ลองกับพวกแอมป์หูฟังก็ได้ ลองเล่นกับขาอะหลั่ยตัวสุดท้ายของวงจร(Rเอ้าท์พุท หรือ Cเอ้าท์พุท)
จุดสังเกตุทางเสียง ให้ลองสังเกตุจากลักษณะของหางเสียง
เจตนาผมมีแค่นี้แหล่ะ
สมมุติฐานที่ใช้อ้างอิง
ถ้า "ขาอะหลั่ย" หรือ "สายไฟ" ที่เคลือบผิวด้วยทอง, เงิน, ดีบุก แล้วมีผลต่อเสียง
ก็แสดงว่า มีไฟหรือสัญญาณวิ่งผ่านที่พื้นผิวของสายไฟหรือขาอะหลั่ย
ดังนั้นลักษณะพื้นผิวของขาอะหลั่ย ย่อมได้รับผลกระทบแบบเดียวกัน
บางคนอาจมองว่า มันเป็นเรื่องหยุมหยิม ละเอียดและวุ่นวายเกินไปหรือเปล่า
ผลต่างมันคงน้อยจนฟังยาก ถ้าไม่ใช่พวกหูดีคงแยกไม่ได้หรอก เราฟังแค่เพลินๆไม่ต้งไปสนใจก็ได้มั้ง ฯลฯ
ผมกลับมองอีกแบบ
หากเราเข้าใจและรู้ผลกระทบจากตัวแปรต่างๆได้มากขึ้น เราจะมีโอกาสควบคุมรายละเอียดปลีกย่อยในแต่ละส่วนได้
ซึ่งจะช่วยให้เรามีโอกาสควบคุมแนวเสียง มีโอกาสกำหนดแนวเสียงได้ง่ายขึ้น
คืองี้
ผมเห็นด้วยกับเรื่อง "เช็ดขาอะหลั่ยด้วยแอลกอฮอร์" เพื่อล้างคราบอ๊อกไซด์ ล้างคราบต่างๆที่เกาะตามผิวขาอะหลั่ย
แต่ที่ผมทักจะเป็นเรื่อง "กระดาษทรายขัดขาอะหลั่ย" หรือ "คัดเตอร์ขูดขาอะหลั่ย" หรือ "คัทเตอร์เหลาขาอะหลั่ยให้มีขนาดเล็กลง"
พอเราใช้พวกนี้ไปขัดขาขูดขาอะหลั่ย ผิวนอกสุดของขาอะหลั่ยมันจะไม่เรียบ ผิวจะขรุขระ (ลองเอาแว่นขยายส่องสูง)
ทางทฤษฎีทางเดินไฟ ไฟมันจะเดินทางผ่านผิวนอกได้ไม่สม่ำเสมอ เหมือนสะดุดตามพื้นผิวที่ขรุขระ
ผิวเรียบกับไม่เรียบ จะมีผลต่อเสียงด้วย ส่วนที่ว่าจะได้ผลแบบไหน ฟังออกไม่ออก ก็เป็นอีกประเด็นนึง
แต่ถ้าอยากลองแบบง่ายๆ ก็ลองกับพวกแอมป์หูฟังก็ได้ ลองเล่นกับขาอะหลั่ยตัวสุดท้ายของวงจร(Rเอ้าท์พุท หรือ Cเอ้าท์พุท)
จุดสังเกตุทางเสียง ให้ลองสังเกตุจากลักษณะของหางเสียง
เจตนาผมมีแค่นี้แหล่ะ
สมมุติฐานที่ใช้อ้างอิง
ถ้า "ขาอะหลั่ย" หรือ "สายไฟ" ที่เคลือบผิวด้วยทอง, เงิน, ดีบุก แล้วมีผลต่อเสียง
ก็แสดงว่า มีไฟหรือสัญญาณวิ่งผ่านที่พื้นผิวของสายไฟหรือขาอะหลั่ย
ดังนั้นลักษณะพื้นผิวของขาอะหลั่ย ย่อมได้รับผลกระทบแบบเดียวกัน
บางคนอาจมองว่า มันเป็นเรื่องหยุมหยิม ละเอียดและวุ่นวายเกินไปหรือเปล่า
ผลต่างมันคงน้อยจนฟังยาก ถ้าไม่ใช่พวกหูดีคงแยกไม่ได้หรอก เราฟังแค่เพลินๆไม่ต้งไปสนใจก็ได้มั้ง ฯลฯ
ผมกลับมองอีกแบบ
หากเราเข้าใจและรู้ผลกระทบจากตัวแปรต่างๆได้มากขึ้น เราจะมีโอกาสควบคุมรายละเอียดปลีกย่อยในแต่ละส่วนได้
ซึ่งจะช่วยให้เรามีโอกาสควบคุมแนวเสียง มีโอกาสกำหนดแนวเสียงได้ง่ายขึ้น
Comment