พอดีกำลังจะซื้อ ram xms corsair utt เลยไปหาข้อมูลเจอบทความนี้ครับ เลยขอความเห็นเพื่อนๆว่ามันเป็นชิบที่ห่วยหรือป่าวครับ
......................................................................
UTT คืออะไร
UTT ย่อมากจาก Untested DRAM chip หมายถึง เป็น chip ที่ยังไม่ได้มีการทดสอบความเร็ว ดังนั้นการแยกประเภทจะขึ้นกับความถี่ และรูปแบบการใช้งานที่ซ่อนอยู่ หรือพูดง่ายๆคือ UTT มีในทุกรูปแบบของ DRAM Chip
มีการเข้าใจผิดอย่างมากกับ UTT memory ว่าเป็น Dram ความถี่สูงที่เป็นที่นิยมในตลาด แต่มันคือ Dram ที่ยังไม่ได้มีการทดสอบแต่อย่างใด ซึ่งผู้ผลิต DRAM หลายที่ได้ทำการจำหน่าย UTT DRAM Chip ออกสู่ตลาดไปแล้วจำนวนมาก ซึ่งมีหลายเหตุผลว่าทำไมผู้ผลิต DRAM จึงเลือกที่จะปล่อย UTT DRAM Chip ออกมาในตลาดของ DRAM
ซึ่งหนึ่งในเหตุผลนั้นก็คือ UTT DRAM จะสามารถประหยัดต้นทุนให้กับผู้ผลิต DRAM สูงถึง 20% เมื่อเทียบกับ DRAM Chip ทั่วไป เพราะ UTT จะข้ามการตรวจสอบและ Burn in เพื่อหา Reliability และการนำไปทดสอบในระดับสูง ซึ่งทำให้ประหยัดเวลาในการทดสอบการผลิตได้เป็นอย่างดีและทำให้รอบการผลิตสั้นลงอีกด้วย
จึงเดาได้ยากว่าชิพ UTT แต่ละตัวนั้นได้รับการทดสอบว่าดีหรือไม่ดีแล้วหรือยัง ใน DRAM Wafer (การผลิตชิพแต่ละครั้งจะทำเป็นลักษณะเป็นแผ่นใหญ่ๆ เรียกว่า Wafer) นั้น DRAM Wafer แต่ละแผ่นจะทำการทดสอบ เพื่อหาข้อบกพร่องต่างๆ ก่อนจะทำการบรรจุครั้งสุดท้าย Wafer ที่เจอข้อบกพร่องจะถูกทำเครื่องหมายไว้ และจะนำไปขายในรูปแบบของ UTT
แรมหรืออุปกรณ์ที่ใช้ DRAM Chipแบบ UTT นั้นไม่ค่อยจะมีราคาที่สูงมากนักหรือมีราคาที่ต่ำกว่า memory ทั่วไป ทั้งความถี่และการตอบสนองก็จะแตกต่างจากแรมที่ผ่านการทดสอบแล้ว ซึ่งแรมส่วนใหญ่ผลิตจากชิพแบบ UTT ซึ่งทำออกมาในรูปแบบของ DRAM เกรดต่ำราคาถูก
แรมส่วนใหญ่ที่ใช้ UTT Chip เหล่านี้มักจะใช้การทดสอบแค่การเสียบลงบนเมนบอร์ดเท่านั้น ซึ่งหลังจากผ่านการทดสอบแล้วจึงนำไปประทับตรายี่ห้อไม่ว่าจะวิธีใด ๆ ก็แล้วแต่ บางบริษัทก็รับแรมเหล่านี้มาแล้วทำการประทับตราใหม่อีกรอบเพื่อขายในยี่ห้อของตัวเอง
และเพื่อทำให้ UTT Chip ทำงานได้อย่างดี ผู้ผลิตหลายรายที่ผลิตแรมที่ใช้ UTT Chip จะใช้วิธีการใส่ Heat sink สำหรับแรม เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค จึงไม่แปลกที่จะเห็น แรมในรูปแบบ High performance ที่ผลิตจาก UTT Chip กำลังขายอยู่ในท้องตลาดในราคาที่สูงและใช้สำหรับ application ที่ต้องการแรม high performance มากๆ ในกรณีนี้บางบริษัทจึงมีแรมแบบ DDR500Mhz 184pin unbuffered DIMM memory ที่ run แบบ 2-2-2 ซึ่งเป็นค่าที่ให้ประสิทธิภาพสงสุด และยังต้องการไฟเลี้ยงขั้นต่ำ 2.6 ไปจนถึง 3.5 Volts เพื่อให้รองรับการใช้งานในค่าต่างๆเหล่านี้ โดยเจาะจงผู้ใช้ที่ใช้เมนบอร์ดยี่ห้อดังต่างๆเช่น MSI, Gigabytes, ASUS... ฯลฯ
ปัจจุบัน Chip ที่ถือว่าดังที่สุดก็ต้องเป็น Winbond BH-5 เพราะ สามารถเพิ่มความถี่ของแรมขึ้นได้ตามระดับไฟที่สูงขึ้น โดยสูงสุดคือ clocking ที่ 600MHz และค่า latencies ที่ต่ำอีกด้วย โดยมี ค่า latency ตามข้างล่างนี้:
เรียงลำดับดังนี้ CAS-tRCD-tRP
2-2-2 หมายถึง CAS2 tRCD2 tRP2
วิธีการหา RATE ในแบบ MHz จากค่า nS คือ 1/nS*1000
PC2700 = DDR333
PC3200 = DDR400
PC3500 = DDR433
PC3700 = DDR466
PC4000 = DDR500
PC4200 = DDR533
PC4400 = DDR550
PC4800 = DDR600
บริษัทผู้ผลิต DRAM ไม่ค่อยสนใจเรื่องราคาของ UTT มากเท่าไหร่นัก ตั้งแต่การหมุนเวียนของChip UTT ในช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านตลาดพ่อค้าคนกลางนั้นสามารถควบคุมได้โดยขึ้นอยู่กับ demand and supply ของ DRAM
ซึ่งในความเป็นจริงนั้น หน่วยความจำต่างๆที่ผลิตด้วย UTT Chip อาจจะทำงานได้ไม่เสถียรมากนัก เพราะฉะนั้นผู้บริโภคจึงควรจะหา memory module ที่มีความน่าเชื่อถือได้มากกว่า โดยจะต้องเป็น Chip คุณภาพดี และ 100% Tested ซึ่งจำเป็นต่อ application ที่ต้องการความเสถียร เช่น เซิฟเวอร์ หรือ Workstations ชั้นสูง
แล้วในตอนนี้มีแรม DDR2 ออกมา ก็ออกมาพร้อมกับคำถามที่ว่า แล้ว DDR2 มันจะมี UTT Chip หลุดออกมาผลิตด้วยรึเปล่าล่ะ? คำตอบคือ มีแน่นอน ซึ่งก็จะทำออกมาในรูปแบบ ของแรมเกรดต่ำแต่คุ้มค่าเหมือนเดิม และจะยังคงมีตลอดไม่ว่าจะมีแรมแบบไหนออกมา
ในครั้งต่อไปถ้าคุณกำลังจะอัพเกรดคอมพิวเตอร์ของคุณและพบโฆษณาที่ว่า เป็นแรมราคาประหยัด ถ้าคุณกำลังจะซื้อคุณอาจจะกำลังเสี่ยงกับการที่คุณจะได้เจอกับแรมที่ใช้ UTT Chip มาผลิตก็ได้ ดังนั้นอย่าเชื่อเรื่องอายุการใช้งานของโดยเด็ดขาด
......................................................................
UTT คืออะไร
UTT ย่อมากจาก Untested DRAM chip หมายถึง เป็น chip ที่ยังไม่ได้มีการทดสอบความเร็ว ดังนั้นการแยกประเภทจะขึ้นกับความถี่ และรูปแบบการใช้งานที่ซ่อนอยู่ หรือพูดง่ายๆคือ UTT มีในทุกรูปแบบของ DRAM Chip
มีการเข้าใจผิดอย่างมากกับ UTT memory ว่าเป็น Dram ความถี่สูงที่เป็นที่นิยมในตลาด แต่มันคือ Dram ที่ยังไม่ได้มีการทดสอบแต่อย่างใด ซึ่งผู้ผลิต DRAM หลายที่ได้ทำการจำหน่าย UTT DRAM Chip ออกสู่ตลาดไปแล้วจำนวนมาก ซึ่งมีหลายเหตุผลว่าทำไมผู้ผลิต DRAM จึงเลือกที่จะปล่อย UTT DRAM Chip ออกมาในตลาดของ DRAM
ซึ่งหนึ่งในเหตุผลนั้นก็คือ UTT DRAM จะสามารถประหยัดต้นทุนให้กับผู้ผลิต DRAM สูงถึง 20% เมื่อเทียบกับ DRAM Chip ทั่วไป เพราะ UTT จะข้ามการตรวจสอบและ Burn in เพื่อหา Reliability และการนำไปทดสอบในระดับสูง ซึ่งทำให้ประหยัดเวลาในการทดสอบการผลิตได้เป็นอย่างดีและทำให้รอบการผลิตสั้นลงอีกด้วย
จึงเดาได้ยากว่าชิพ UTT แต่ละตัวนั้นได้รับการทดสอบว่าดีหรือไม่ดีแล้วหรือยัง ใน DRAM Wafer (การผลิตชิพแต่ละครั้งจะทำเป็นลักษณะเป็นแผ่นใหญ่ๆ เรียกว่า Wafer) นั้น DRAM Wafer แต่ละแผ่นจะทำการทดสอบ เพื่อหาข้อบกพร่องต่างๆ ก่อนจะทำการบรรจุครั้งสุดท้าย Wafer ที่เจอข้อบกพร่องจะถูกทำเครื่องหมายไว้ และจะนำไปขายในรูปแบบของ UTT
แรมหรืออุปกรณ์ที่ใช้ DRAM Chipแบบ UTT นั้นไม่ค่อยจะมีราคาที่สูงมากนักหรือมีราคาที่ต่ำกว่า memory ทั่วไป ทั้งความถี่และการตอบสนองก็จะแตกต่างจากแรมที่ผ่านการทดสอบแล้ว ซึ่งแรมส่วนใหญ่ผลิตจากชิพแบบ UTT ซึ่งทำออกมาในรูปแบบของ DRAM เกรดต่ำราคาถูก
แรมส่วนใหญ่ที่ใช้ UTT Chip เหล่านี้มักจะใช้การทดสอบแค่การเสียบลงบนเมนบอร์ดเท่านั้น ซึ่งหลังจากผ่านการทดสอบแล้วจึงนำไปประทับตรายี่ห้อไม่ว่าจะวิธีใด ๆ ก็แล้วแต่ บางบริษัทก็รับแรมเหล่านี้มาแล้วทำการประทับตราใหม่อีกรอบเพื่อขายในยี่ห้อของตัวเอง
และเพื่อทำให้ UTT Chip ทำงานได้อย่างดี ผู้ผลิตหลายรายที่ผลิตแรมที่ใช้ UTT Chip จะใช้วิธีการใส่ Heat sink สำหรับแรม เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค จึงไม่แปลกที่จะเห็น แรมในรูปแบบ High performance ที่ผลิตจาก UTT Chip กำลังขายอยู่ในท้องตลาดในราคาที่สูงและใช้สำหรับ application ที่ต้องการแรม high performance มากๆ ในกรณีนี้บางบริษัทจึงมีแรมแบบ DDR500Mhz 184pin unbuffered DIMM memory ที่ run แบบ 2-2-2 ซึ่งเป็นค่าที่ให้ประสิทธิภาพสงสุด และยังต้องการไฟเลี้ยงขั้นต่ำ 2.6 ไปจนถึง 3.5 Volts เพื่อให้รองรับการใช้งานในค่าต่างๆเหล่านี้ โดยเจาะจงผู้ใช้ที่ใช้เมนบอร์ดยี่ห้อดังต่างๆเช่น MSI, Gigabytes, ASUS... ฯลฯ
ปัจจุบัน Chip ที่ถือว่าดังที่สุดก็ต้องเป็น Winbond BH-5 เพราะ สามารถเพิ่มความถี่ของแรมขึ้นได้ตามระดับไฟที่สูงขึ้น โดยสูงสุดคือ clocking ที่ 600MHz และค่า latencies ที่ต่ำอีกด้วย โดยมี ค่า latency ตามข้างล่างนี้:
เรียงลำดับดังนี้ CAS-tRCD-tRP
2-2-2 หมายถึง CAS2 tRCD2 tRP2
วิธีการหา RATE ในแบบ MHz จากค่า nS คือ 1/nS*1000
PC2700 = DDR333
PC3200 = DDR400
PC3500 = DDR433
PC3700 = DDR466
PC4000 = DDR500
PC4200 = DDR533
PC4400 = DDR550
PC4800 = DDR600
บริษัทผู้ผลิต DRAM ไม่ค่อยสนใจเรื่องราคาของ UTT มากเท่าไหร่นัก ตั้งแต่การหมุนเวียนของChip UTT ในช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านตลาดพ่อค้าคนกลางนั้นสามารถควบคุมได้โดยขึ้นอยู่กับ demand and supply ของ DRAM
ซึ่งในความเป็นจริงนั้น หน่วยความจำต่างๆที่ผลิตด้วย UTT Chip อาจจะทำงานได้ไม่เสถียรมากนัก เพราะฉะนั้นผู้บริโภคจึงควรจะหา memory module ที่มีความน่าเชื่อถือได้มากกว่า โดยจะต้องเป็น Chip คุณภาพดี และ 100% Tested ซึ่งจำเป็นต่อ application ที่ต้องการความเสถียร เช่น เซิฟเวอร์ หรือ Workstations ชั้นสูง
แล้วในตอนนี้มีแรม DDR2 ออกมา ก็ออกมาพร้อมกับคำถามที่ว่า แล้ว DDR2 มันจะมี UTT Chip หลุดออกมาผลิตด้วยรึเปล่าล่ะ? คำตอบคือ มีแน่นอน ซึ่งก็จะทำออกมาในรูปแบบ ของแรมเกรดต่ำแต่คุ้มค่าเหมือนเดิม และจะยังคงมีตลอดไม่ว่าจะมีแรมแบบไหนออกมา
ในครั้งต่อไปถ้าคุณกำลังจะอัพเกรดคอมพิวเตอร์ของคุณและพบโฆษณาที่ว่า เป็นแรมราคาประหยัด ถ้าคุณกำลังจะซื้อคุณอาจจะกำลังเสี่ยงกับการที่คุณจะได้เจอกับแรมที่ใช้ UTT Chip มาผลิตก็ได้ ดังนั้นอย่าเชื่อเรื่องอายุการใช้งานของโดยเด็ดขาด
Comment