Announcement

Collapse
No announcement yet.

SB0220 ตั้งตามนี้ครับ แล้วเสียงจะหวานเห่อๆๆ

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • #16
    และอีกข้อความหนึ่ง ผมจะได้หายโง่สักที
    MIDI เหมือนดาบสองคม ที่มีหนามแถวๆด้ามจับอีกต่างหาก
    ผมเชื่อแน่ว่าหลายๆคนคงค่อนข้างงุนงงปนๆสับสน กับไอ้เจ้า MIDI เนี่ย ผมก็คนหนึ่งล่ะครับ ที่บอกตัวเองอยู่เสมอว่า
    "รู้ไว้เท่าที่รู้ พอใช้งานได้ ก็พอแล้วกันนะ" ที่จริงก็อาจไม่ใช่วิธีคิดที่เหมาะเท่าไหร่นัก แต่มันค่อน ข้างซับซ้อนอย่างที่ว่า อาจต้องมานั่งอ่านอะไรประเภท data structure ถึงจะ รู้เรื่องพื้นฐานจริงๆ สำหรับคนที่มี เวลาและมีความตั้งใจจริงๆก็ สามารถ หาอ่านได้ครับ มีข้อมูลให้ศึกษาได้มากพอควรจาก web site ต่างๆ หรือ จากหนังสือที่เขียนถึงเรื่องนี้โดยเฉพาะ นี่เป็นตัวอย่างพื้นฐานต่างๆ เกี่ยวกับ MIDI ครับ

    1 Summary of MIDI Status & Data Bytes
    1 Status Bytes; Control and Mode Changes
    1 Specification Message Summary

    แต่สำหรับคนที่เห็นด้วยกับผม ("รู้ไว้เท่าที่รู้ พอใช้งานก็พอแล้วกันนะ") ก็ลองอ่านดูกันต่อไปครับ ว่าผมมีวิธี การเกี่ยวกับ MIDI ในการทำงาน ยังงัยครับ พูดง่ายๆเลย MIDI (Musical Instruments Digital Interface) ก็คือ กลุ่มชุดข้อมูลที่ทำหน้าที่ ติดต่อสื่อสารระหว่างเครื่องมือ 2 ชิ้นขึ้นไป เพื่อควบคุมการทำงานใน 3 ลักษณะใหญ่ๆ คือ Control,Timing และ Data Transmission ครับ สำหรับคนที่เริ่มทำงานเกี่ยวกับการทำเพลงใหม่ๆ หรือคนที่ สนใจในการแต่งเพลงด้วยคอมพิวเตอร์ คงคุ้นๆกับคำเหล่านี้ คือ Bank,Program,Channel,MIDI In,MIDI Out,MIDI Thru,....... แล้วก็คง จะรู้สึกไม่ค่อยเห็นด้วย กับผมเท่าไหร่ เพราะก็แค่ set MIDI Channel ให้ถูก ต้อง ต่อสาย MIDI In-Out ให้ถูก เลือก Program เสียงที่ต้องการ ทุกอย่างก็ OK จบ เริ่มต้นลงมือทำงานกันได้ มันก็จริงครับ ตรงนั้นน่ะมัน ไม่มีอะไรยุ่งยากเท่าไหร่ครับ เอาเป็นว่าลองดูวงจรอุบาทว์ ของ MIDI กันหน่อย ดีกว่าเผื่อจะเห็นภาพมากขึ้นครับ

    Step 1
    MIDI คืออะไรหว่า....อ๋อ โด่เอ้ย ไม่เห็นมีไรเลย... ง่ายจะตาย......
    จากที่ไม่เคยรู้อะไรเลย เราก็จะเริ่มเข้าใจว่า ในแหล่งผลิตเสียง ไม่ว่าจะ เป็น Sound Card,Sound Modual หรือ Synthesizer มันจะมี Program เสียงต่างๆอยู่มากมาย แบ่งออกเป็นชุดๆ เรียกว่า Bankอาจจะเป็น Bank 1,2 หรือ Bank A,B ก็แล้วแต่ ในแต่ละ Bank ก็จะมีเสียงต่างๆ 127 เสียง (Program)
    แล้วก็มี Channel มาตรา ฐานอยู่ 16 Channel ให้เราเลือก Program เสียงดนตรีได้พร้อมๆกันมากที่สุด 16 Programs เราก็เลือก เครื่องดนตรีต่างๆลงไปใน Channel ที่ต้องการ กำหนด MIDI In put,MIDI Out put ให้ถูกต้อง ก็เป็นอันเรียบร้อย จากนั้นก็ลงมือแต่งกันเลย ง่าย จริงๆครับ ตรงนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนครับ

    Step 2
    เอ๊ะทำไมเสียงมันแปลกๆ ไม่เหมือนเดิมแฮะ..เป็นไรวะเนี่ย.เอ.อ๋อ..เอ
    พอเริ่มทำงานเยอะขึ้น มีเพลงที่ทำเก็บไว้หลายเพลง บางทีก็ทำแล้วยังไม่ เสร็จ เลย save ไว้ก่อน กะว่าไว้มี เวลาก็ค่อย กลับมาทำใหม่ แต่พอเปิด เพลงเดิมขึ้นมา ก็... เอ ทำไมเสียงมันแปลกๆไป ไม่เหมือนเดิม เอาน่ะ ปิดไปก่อน ไม่ save ด้วย ลองเปิดขึ้นมาใหม่ อ๊ะ ก็ไม่เหมือนเดิมอีกน่ะ บางทีเปิดขึ้นมา 3-4 ครั้ง เครื่องดนตรี ชิ้นเดียวกัน program เดียวกัน ทำไมเสียงมันไม่เหมือนกันวะ (ปัญหาเริ่มมาแล้วครับ)หลังจากงมอยู่พัก นึง ก็พอจะจับได้เลาๆว่า มันมีคำสั่งเกี่ยวกับ MIDI บางอย่าง (MIDI Parameter) ค้างอยู่ในเพลงของเรา หรือบางที ก็ในเพลงก่อนหน้าที่เรา เพิ่งปิดมันไป คำสั่งเหล่านี้มักจะ ค้างอยู่ที่ program เสียงต่างๆ หรือใน MIDI channel หรือบางทีก็ในตัว effect ซึ่งเป็นทางผ่านของเสียง (Out put) ก็เลยทำให้เสียงมันเปลี่ยนไปนั่นเอง

    เมื่อลบคำสั่งที่ไม่ต้องการเหล่านั้นออกจนหมด เสียงต่างๆก็จะกลับมา เหมือนเดิม นี่ก็เป็นประตูบานแรกๆที่ ทำให้เรารู้ว่า MIDI มีอะไรซับซ้อน กว่าที่เราคิดไว้ และอย่างน้อยที่สุด เราก็รู้ว่าต้องทำยังงัย ให้เพลงที่ยังไม่ เสร็จของเรา เป็นเพลงๆ เดิมที่มีเสียงเหมือนเดิม......(จะได้ทำต่อได้)

    Step 3
    อ๋อ...อย่างงี้นี่เอง.........
    ในแหล่งกำเนิดเสียง ไม่ว่าจะเป็น Sound modual, Sound Card หรือ Synthesizer ก็แล้วแต่ แต่ละตัวมีแผงวงจรไฟฟ้า (curcit) เพื่อที่จะสร้าง เสียงต่างๆขึ้นมา ตัวแผงวงจรไฟฟ้านี้ เรียกว่า Oscillator ซึ่งก็จะมี parameter ต่างๆมากมาย เพื่อ กำหนดลักษณะของเสียงให้แตกต่างกัน ออกไป กลายเป็นเสียงสังเคราะห์ต่างๆ อย่างเสียง กลอง เสียงกีต้าร์ ฯลฯ นั่นเอง และค่า parameter เหล่านี้ เราสามารถจะกำหนดและเปลี่ยน แปลงมันได้ ง่าย และงงน้อยที่สุดก็โดยผ่านทาง sofeware ที่เราใช้แต่ง เพลง นั่นเองตัว Control ที่ใช้กันบ่อยๆก็อย่าง control number 7 : Volume, Number 10 : Pan หรีอ ,number 1 : Modulation

    ในกรณีที่ใช้ Sound modual ตัวเดียว เราก็จะเริ่มคุ้นเคยกัน controls number ต่างๆ ว่ามันสามารถจะเปลี่ยน แปลง ลักษณะเสียงไปได้อย่างไร บ้าง ช่วงนี้จะสนุกครับ เราสามารถปรับแต่งเสียงต่างๆได้อย่างใจ บางทีก็ ได้ เสียงแปลกๆ อย่าง ที่คิดไม่ถึงจะมีปัญหาบ้างก็ตรงที่บางทีได้เสียงอย่าง ที่อยากได้แล้ว บังเอิญไปทำอะไรเข้า แล้วเสียงมันเปลี่ยนไป ทำยังงัยจะ เอามันกลับมา.... ก็ว่ากันไป หรืออาจเจอปัญหาประเภทเสียงกระโดดไม่ เรียบเสมอกันช่วงเริ่มต้นเพลง นั่น ก็แก้ได้ด้วย การ set parameter ต่างๆ ที่เราสั่งไว้ให้เป็นค่ากลาง (default) ก่อนตอนต้นเพลงก่อนจะมีตัว note ใดๆ ก็ช่วยได้

    Step 4
    อ้าว....มันไม่เหมือนกันเหรอเนี่ย....
    หลังจากที่สนุกสนานกับการบรรจงใส่ค่า MIDI control ต่างๆลงในเพลง อย่างเมามันแล้ว ก็เริ่มจะใช้วิธีนี้กับแหล่งกำเนิด เสียงตัวอื่นๆบ้าง อย่าง sound modual ตัวใหม่ที่เพิ่งซื้อมา ซึ่งก็จะพบว่า MIDI Control parameter บางตัว (ที่จริงหลายตัว) มันไม่เหมือนกัน คือมันไม่ work พอสั่งให้มันทำ มันก็ไม่ทำ มันนิ่ง นิ่งเลย ก็เป็นอันว่า มันไม่ได้ใช้ตัว control number เดียวกันนั่นเอง ทีนี้ก็ต้องหาสิครับ หากันใหม่ โดยทั่วไปใน manual ของ เครื่องมือต่างๆที่ เกียวข้องกับ midi เนี่ย ก็จะมี ตารางที่เรียกว่า MIDI Implementation ซึ่งก็จะ บอกว่าเครื่องนั้น ใช้ number อะไร ในการ control Parameter อะไร ก็ต้อง จำเอาหรือจำไม่ไหวก็ต้องจดไว้น่ะนะ

    ทีนี้พอมีเครื่องมือทำงานหลายชิ้นเข้า ถ้ามันคนละยี่ห้อกัน (ซึ่งมันก็มักจะ เป็นอย่างนั้น เพราะเราควรจะเลือกซื้อยี่ห้อที่ต่างกัน มันจะได้ให้เสียงที่ แตกต่างกันด้วยนั่นเอง) มันก็จะมีอะไรที่แตกต่างกันไปอย่างที่ว่า ปัญหา เก่าๆก็จะเริ่มกลับมากวนใจอีก (ปัญหาใน step ที่ 2 และ 3) แต่คราวนี้มัน มาแบบเป็นทวีคูณ คือตามจำนวนที่เรามีเครื่องมือต่างๆนั่นเอง นอกจาก นั้นอาจจะยังมีปัญหาที่เกิดจากความสามารถของเครื่อง Computer ของเรา เองอีกด้วย อาจจะ เป็นเรื่อง Hardware อย่าง ความเร็วของเครื่องไม่พอ หรือ Port ต่างๆนั้นถูกเปิดไว้โดยไม่ได้ใช้งาน ทำให้ประสิทธิภาพของ เครื่องลดลง เกิดความสับสนของเครื่อง หรืออาจเป็นเพราะปัญหาด้าน Software อย่างการปรับแต่งระบบปฏิบัติการ (Os) ให้เหมาะสม หรือตัว Software ที่เราใช้แต่งเพลงนั้น ไม่เปิดโอกาสให้เราจัดการกับ MIDI Parameter ต่างๆได้อย่างเต็มที่ ทีนี้ก็ต้องมา นั่ง set ค่าต่างๆกันมากมาย กลายเป็นงานแก้ปัญหามากกว่างานสร้างสรรค์ นึกออกมั้ยครับ ที่จริงเรา กำลังทำงานแต่ง เพลง มันเป็นงาน สร้างสรรค์ ไม่ใช่มานั่งปรับแต่งค่า MIDI Control parameter อะไรต่างๆ นั่นน่าจะเป็นเรื่องของช่างเทคนิด ต่างๆ มากกว่า

    Step 5
    "รู้ไว้เท่าที่รู้ พอใช้งานได้ก็พอแล้วกันนะ"
    กลับมาสู่ประเด็นที่เป็น keyword ของเรา MIDI นั้นมีอะไรมากมายที่ช่วย ให้งานเราง่ายขึ้น น่าสนใจขึ้น ใน ขณะเดียวกัน ก็เป็นอะไรที่ซับซ้อน มาก จับไม่ค่อยอยู่ คอยจะหนีอยู่เรื่อย อะไรประมาณนั้น ยิ่งโดยเฉพาะ เวลาที่รีบๆน่ะ แย่เลย ก็ด้วย ความซับซ้อนและความละเอียดอ่อนของ parameter ต่างๆนี่ล่ะครับ
    ทำให้ผู้ผลิต เครื่องมือเกี่ยวกับ MIDI ต่างๆ ตกลงกัน และตั้งค่า General MIDI (GM) ขึ้นมาเพื่อลดปัญหาเรื่องความ แตกต่างของตัวแปรต่างๆ ระหว่างผลิตภัณฑ์ของตนกับของรายอื่นๆ และ เพื่อให้เป็นมาตราฐานกลางเดียวกันใน การกำหนดโปรแกรมเสียง และ ค่าการปรับแต่งต่างๆ หมายความ ว่าหากเรามีเพลงที่ทำไว้เป็น MIDI file เราสามารถกำหนดโปรแกรมเสียง และปรับแต่งเสียงต่างๆในมาตราฐาน กลาง ของ GM ได้ และไม่ว่าจะไปเปิดแหล่งกำเนิดเสียงใดๆ (Sound Modual,Sound Card etc.) ที่ support GM เพลงนั้นก็จะมี โครงสร้างและ ลักษณะเสียงเหมือนกันทั้งหมดครับ

    สำหรับตารางเสียงและค่าการปรับแต่งเสียงมาตราฐานของ GM ดูได้ที่นี่ ครับ ถึงแม้ว่าจะมีโปรแกรมเสียงและ ค่า parameter ไม่มากนัก แต่ก็ถือ ว่าเพียงพอเพื่อการฟังในเชิงโดยรวมครับ General MIDI

    คำแนะนำท้ายสุดเกี่ยวกับ MIDI
    โดยสรุปแล้ว MIDI เป็นเรื่องที่นักแต่งเพลงยุดใหม่ ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ครับ ยังงัยก็ต้องเข้าใจพื้นฐานของมันตามสมควร ไม่งั้นก็ไม่สามารถจัดการ แก้ปัญหาต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าต้องการเข้าใจและสามารถ ใช้งานมัน ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ก็คงต้องใช้เวลาและความตั้งใจสูงมากๆ ด้วยสาเหตุ ต่างๆอย่างที่ว่ามาใน step ต่างๆ ข้างบนน่ะนะครับ ดังนั้น คำแนะนำท้ายสุด เกี่ยวกับ MIDI ของผมก็คือ คุณจะต้องรู้เป้าหมายที่แท้ จริงในการทำงาน ของคุณเองก่อนว่าคุณ กำลังทำงานในลักษณะไหน เช่น

    1
    2
    3

    ถ้าคุณเป็น Composerแต่งเพลง เพียงคร่าวๆแล้วนำไปให้คนอื่นๆ เรียบเรียงต่อ ก็ไม่จำเป็นต้องไป เรียนรู้อะไรให้เสียเวลาการ สร้างสรรค์เปล่าๆ เพียงแค่กำ หนดโปรแกรมเสียง ต่างๆก็น่าจะ เพียงพอแล้ว เพราะเวลาทำงาน จริงๆ คนเรียบเรียงเขา ก็คงจะ ต้องไปจัดการ กับอะไรต่ออะไรอีก มากมายหลายตลบครับ หรือถ้าคุณเป็น นักทำเพลงแบบ MIDI เพื่อนำไปใช้ในงานทั่วๆไป เช่น ใน web หรือในการเล่นร่วม กับวงดนตรีตามร้านอาหารหรือ แหล่งบันเทิงอื่นๆ ก็ควรจะเน้น เรื่องGM ให้แม่นๆและเรียนรู้ การใช้ประโยชน์ จาก GM ให้ เกิดประสิทธิ ภาพมากที่สุดครับ เรื่องอื่นๆก็ไม่จำเป็นต้องไปเสีย เวลากับมันครับ และในกรณีสุดท้าย ถ้าคุณคิดว่า หรือหวังว่าอยากจะเป็น นักทำ เพลงอาชีพ ก็คงเหนื่อยหน่อย ครับ คง ต้องทำความเข้าใจ เครื่องมือในการทำงานของ คุณทุกๆ ชิ้นที่เกี่ยวข้องกับ MIDI ถึงแม้ว่าจะ งงๆ ยังงัยก็จำเป็นครับ เพราะถ้า สามารถเข้าใจมัน ได้อย่างถ่องแท้ เราก็สามารถ จะใช้งานมันได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ซึ่งท้ายที่สุดงานของเรา ก็จะออกมามีคุณภาพที่ดีนั่นเองครับ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนด้วยครับ

    จากตรงที่ผมลองเปลี่ยน ความต่างของเสียงน่าจะเกิดจากการเปลี่ยนbankของเสียงนี่เอง (ตรงข้อความแดงๆ)
    Last edited by fist007; 3 Dec 2007, 23:45:11.

    Comment


    • #17
      http://www.geocities.com/wisanustudi...idi.html#step2
      อ้างอิงจากเว็ปด้านบนนี้นะครับ ใครจะไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมก็ได้นะครับ

      Comment


      • #18
        มันไม่เกี่ยวกับดูหนังฟังเพลง หรอก ไม่ทำให้เสียงดีขึ้นใดๆทั้งสิ้น


        แต่มันเกี่ยวกับ Midi Karaoke



        และ... ไม่มีใครเขาใช้ SW synth หรอก เสียงมันบรมห่วย

        แต่เขาใช้ sound front Synth กัน

        Comment


        • #19
          ก็บอกแล้วไง ว่าความชอบในเสียงก็เหมือนกับศาสนา ใครจะนับถืออย่างไรก็แล้วแต่ความชอบ sound front Synth ท่านว่ามันดี มันก็อาจจะบรมห่วยสำหรับผมก็ได้

          Comment


          • #20
            เกี่ยวกันด้วยหรอว่า ทำไมลองแล้วเสียงไม่ต่าง

            Comment


            • #21
              มันเกี่ยวกันตรงไหนครับ

              ดูหนังฟังเพลงมันไม่ได้ใช้ MIDI Synth ซะหน่อย

              Comment


              • #22
                ดี้ ดี ดี้ ดี ดี้ ดีดี่ แต๊ดดด แต๊ด แต๊ดแต๊ด = midi
                ฉันนั่งตกปลาอยู่ริมตลิ่ง แปลกใจฉันจริงๆ...= -*-?????

                คือว่าผมก็ไม่ได้รู้ไรมากหรอกนะครับ แต่ไฟล์ miidi กะ ไฟล์เพลง หรือหนังที่เราดูๆกันเนี้ย มันแทบไม่เกี่ยวกันเลยไม่ไช่หรอครับ


                เมื่อก่อนผมอัดเพลงในห้องอัด ไช้พวกไฟล์ midi ไนการซ้อม และเก็บ หรือ กำหนด steb บางอย่าง ไนส่วนที่อัด และ หรือ เอามาทำ แบล็คอัฟหยาบๆได้ แต่ จากข้อความข้างต้น หาไม่ได้ไน mp3 เลยนี่ครับ

                แต่ถ้าลองปรับดูแล้วเสียงดีนี่ก็ น่าจะดีครับ ทำแล้วดี บอกต่อ โอเค ไครลองทำ ดีไม่ดีก็ว่ากันไป ไม่เสียหาย คลิ๊กไม่กี่ที
                (ผมไม่มีรุ่นนี้ไห้ลอง)

                Comment


                • #23
                  กรำครับ เอิกๆๆๆ

                  Comment


                  • #24
                    Guitar Pro ไงใ้ช้ MIDI

                    Comment


                    • #25
                      เรื่องไรอ่ะครับ.........อ่านแล้วตาลาย.......

                      Comment


                      • #26
                        ตามคุณ battlecruiser ครับ มันไม่เกี่ยวกันจริงๆ

                        ผมว่าคุณ fist007 ลองให้คนอื่นมาปรับสลับไปมากับอีกแบบนึง โดยที่คุณไม่รู้นะครับ แล้วคุณลองฟังเทียบกันดูว่ามันต่างหรือไม่?

                        บางทีใจเรามันคิดว่าดี มันก็มีผลต่อเสียงที่ได้ฟัง ทั้งๆที่ความเป็นจริงมันไม่ต่างกัน ยังไงให้ลองดูอีกทีตามที่ผมบอกนะครับ ว่าแยกออกหรือเปล่า (ต้องให้อีกคนปรับนะครับ แล้วคุณไม่รู้ว่าปรับเป็นอะไร)

                        Comment


                        • #27
                          ตัวนี้มัน่เป็นตัวเล่น(Driver) midiเฉยๆไม่ใช่เหรอครับ[โปรแกรมสังเคราะห์เสียงmidi]
                          ถ้าเลือกของ Microsoft GS Wavetable SW Synth

                          หรือ ของตัวsound card (sound font)

                          หรือว่าจะใช้ Roland Virtual Sound Canvas
                          หรือ YAMAHA XG SoftSynthesizer S-YXG50
                          หรือโปรแกรมสังเคราะห์ของค่ายอื่นๆซี่งแน่นอนครับ เวลาเล่นmidi เสียงย่อมดีกว่าของ Microsoft GS Wavetable SW Synth

                          แต่มันก็คนละส่วนกันกับตอนเล่นไฟล์เสียงเช่น wave mp3... นะครับ

                          เข้าใจผิดไม่เป็นไรครับไม่มีใครรู้ไปหมดทุกเรื่องหรอกครับผิดถูกก็แนะนำกันไปครับ
                          Last edited by namek; 5 Dec 2007, 21:44:12.

                          Comment


                          • #28
                            การ์ด sb live มันจะโผล่มาเพิ่ม 4ตัวครับ
                            1 Creatice SW synth เล่นไฟล์ *.ecw มรดกตกทอดมาจาก ENSONIQ
                            เป็น software synth พื้นฐาน มากับ driver
                            เหมือนกับที่ Microsoft GS sw synth เล่นไฟล์ GM.DLS

                            แต่โดยรวมสรุป ห่วย

                            2 Sound font Synth A
                            3 Sound font Synth B
                            4 Creative Gameport / Creative midi i/o
                            Last edited by battlecruiser; 4 Dec 2007, 21:43:20.

                            Comment


                            • #29
                              ถ้าเปิด file MIDI แล้วปรับตรงนั้น เสียงถึงจะเปลี่ยน แต่ถ้าเป็นเสียงอื่น ๆ ไม่น่าเปลี่ยนแปลงนะ

                              Comment


                              • #30
                                มือใหม่ งง ตรึบ เล่นกันยังงี้ เหอ เหอ

                                Comment

                                Working...
                                X