TIM อยู่เบื้องหลังอุณหภูมิ IVY BRIDGE ทั้งหมด
วันนี้เอารายงานจากเวปญี่ปุ่น pc.watch.impress.co.jp ได้ทำการแงะกระดองของเจ้า Ivy Bridge i7-3770K retial แล้วทำการทดสอบในเรื่องของสารนำความความร้อนหรือที่เราเรียกกันว่าซิลิโคน นั่นล่ะครับ โดยมาเทียบกันระหว่างการใช้งานนำความร้อนเดิมของ Intel ที่ใช้กับ Ivy Bridge และสารนำความร้อนอีก 2 ชนิดได้แก่ OCZ Freeze และ CooLaboratory Liquid Pro (ซิลิโคนโลหะชนิดเหลว) มาทำการทดสอบในเรื่องของอุณหภูมิ CPU จะเป็นเช่นไรนั้นเข้าเรามาชมกัน
ทำความเข้าใจในส่วนประกอบของตัว CPU ระหว่าง Core ของ CPU และกระดองที่ครอบอยู่ เนื่องด้วยจากจุด Contact ที่สัมผัสและนำความร้อนนั้นจะมี 2 จุด ตามรูปรอยต่อสีแดงดังภาพ จุดแรกคือ ระหว่าง Core กับกระดอง และจากกระดองไปยังตัว Heatsink ระบายความร้อน เท่ากับว่ามีจุดที่ต้องใช้สารนำความร้อนรวมถึง 2 จุดด้วยกัน
จัดการแงะกระดอง CPU ออกด้วย Cutter อย่างระมัดระวัง ท่านก็จะเห็นได้ว่า Intel ได้ใช้ซิลิโคนชนิดหนึ่งเนื้อสีเทาอ่อนๆ ทาไว้ระหว่างจุดสัมผัสของ Core และกระดอง
ดังนั้นเขาได้จัดการทำความสะอาด พร้อมกับใช้ ซิลิโคนชนิดต่างๆ ที่จะนำมาทดสอบเรื่องการนำความร้อน
ติดกาว 2 หน้าไว้ก่อนที่จะปิดกระดอง CPU คืนครับ
Temperature Results.
จากผลการทดสอบท่านจะเห็นได้ว่า เป็นเรื่องจริงที่ Intel ไม่ได้ใช้ Indium ในการเชื่อม Core กับกระดองเข้าด้วยกันเหมือนอย่าง CPU Sandy Bridge 32nm. ดังนั้นผลการทดสอบนี้จะทำให้เห็นได้ชัดเจนว่า เมื่อทำการเปลี่ยนซิลิโคนแล้วอุณหภูมิเย็นกว่าเดิม 10-20 องศาเซลเซียสในการทดสอบครับ เริ่มจากการใช้ซิลิโคน Freeze Extreme ของ OCZ ไม่รู้ตอนนี้ยังมีขายในไทยอยู่หรือไม่ เมื่อก่อนผมเคยนำมาขายอยู่
อุณหภูมิจากกราฟด้านบน CPU วิ่งอยู่ที่ความเร็ว 4.6Ghz Vcore 1.20v ความร้อนจากกระดองเดิม 84 องศาเลยทีเดียว และเมื่อใช้ Freeze Extreme แล้วเย็นลงถึง 15 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว นั่นไม่ใช่น้อยๆ เลยนะครับ Intel ใช้สารนำความร้อนมีประสิทธิภาพที่ต่ำมากๆ
เมื่อเทียบกับซิลิโคนชั้นดีในท้องตลาด
และเมื่อใช้สารนำความร้อนชนิดโลหะเหลว CooLaboratory : Liquid Pro ผมว่าคงใกล้เคียงกับ Indium มากที่สุดอย่างน้อยก็เป็นชนิดโลหะ ผลการทดสอบออกมาตอน Full Load เหลือเพียง 64 องศาเพียงเท่านั้นครับ เทียบจากของเดิมแล้ว 20 องศาเซลเซียส เลยทีเดียวนี่มันเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับเรื่องสารนำความร้อน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงเป็นอุปสรรค์ในการ Overclock ยิ่งนัก....
Credit : Techpowerup , PC Watch
วันนี้เอารายงานจากเวปญี่ปุ่น pc.watch.impress.co.jp ได้ทำการแงะกระดองของเจ้า Ivy Bridge i7-3770K retial แล้วทำการทดสอบในเรื่องของสารนำความความร้อนหรือที่เราเรียกกันว่าซิลิโคน นั่นล่ะครับ โดยมาเทียบกันระหว่างการใช้งานนำความร้อนเดิมของ Intel ที่ใช้กับ Ivy Bridge และสารนำความร้อนอีก 2 ชนิดได้แก่ OCZ Freeze และ CooLaboratory Liquid Pro (ซิลิโคนโลหะชนิดเหลว) มาทำการทดสอบในเรื่องของอุณหภูมิ CPU จะเป็นเช่นไรนั้นเข้าเรามาชมกัน
ทำความเข้าใจในส่วนประกอบของตัว CPU ระหว่าง Core ของ CPU และกระดองที่ครอบอยู่ เนื่องด้วยจากจุด Contact ที่สัมผัสและนำความร้อนนั้นจะมี 2 จุด ตามรูปรอยต่อสีแดงดังภาพ จุดแรกคือ ระหว่าง Core กับกระดอง และจากกระดองไปยังตัว Heatsink ระบายความร้อน เท่ากับว่ามีจุดที่ต้องใช้สารนำความร้อนรวมถึง 2 จุดด้วยกัน
จัดการแงะกระดอง CPU ออกด้วย Cutter อย่างระมัดระวัง ท่านก็จะเห็นได้ว่า Intel ได้ใช้ซิลิโคนชนิดหนึ่งเนื้อสีเทาอ่อนๆ ทาไว้ระหว่างจุดสัมผัสของ Core และกระดอง
ดังนั้นเขาได้จัดการทำความสะอาด พร้อมกับใช้ ซิลิโคนชนิดต่างๆ ที่จะนำมาทดสอบเรื่องการนำความร้อน
ติดกาว 2 หน้าไว้ก่อนที่จะปิดกระดอง CPU คืนครับ
Temperature Results.
จากผลการทดสอบท่านจะเห็นได้ว่า เป็นเรื่องจริงที่ Intel ไม่ได้ใช้ Indium ในการเชื่อม Core กับกระดองเข้าด้วยกันเหมือนอย่าง CPU Sandy Bridge 32nm. ดังนั้นผลการทดสอบนี้จะทำให้เห็นได้ชัดเจนว่า เมื่อทำการเปลี่ยนซิลิโคนแล้วอุณหภูมิเย็นกว่าเดิม 10-20 องศาเซลเซียสในการทดสอบครับ เริ่มจากการใช้ซิลิโคน Freeze Extreme ของ OCZ ไม่รู้ตอนนี้ยังมีขายในไทยอยู่หรือไม่ เมื่อก่อนผมเคยนำมาขายอยู่
อุณหภูมิจากกราฟด้านบน CPU วิ่งอยู่ที่ความเร็ว 4.6Ghz Vcore 1.20v ความร้อนจากกระดองเดิม 84 องศาเลยทีเดียว และเมื่อใช้ Freeze Extreme แล้วเย็นลงถึง 15 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว นั่นไม่ใช่น้อยๆ เลยนะครับ Intel ใช้สารนำความร้อนมีประสิทธิภาพที่ต่ำมากๆ
เมื่อเทียบกับซิลิโคนชั้นดีในท้องตลาด
และเมื่อใช้สารนำความร้อนชนิดโลหะเหลว CooLaboratory : Liquid Pro ผมว่าคงใกล้เคียงกับ Indium มากที่สุดอย่างน้อยก็เป็นชนิดโลหะ ผลการทดสอบออกมาตอน Full Load เหลือเพียง 64 องศาเพียงเท่านั้นครับ เทียบจากของเดิมแล้ว 20 องศาเซลเซียส เลยทีเดียวนี่มันเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับเรื่องสารนำความร้อน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงเป็นอุปสรรค์ในการ Overclock ยิ่งนัก....
Credit : Techpowerup , PC Watch
Comment