ตอนผมเห็นชื่อบริษัทประกัน Microware ใหม่ๆ ผมก็หลงอ่านผิด อ่านไปเป็น Microwave (ไมโครเวฟ)
พอนึกถึงชื่อ ไมโครเวฟก็ทำให้นึกถึงเรื่อง Printer ที่บ้านได้ครับ
เรื่องนี้รู้สึกเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว
เมื่อปีก่อน ผมจะเอา Printer ที่ไมได้ใช่มาราวๆ 3-4 ปีแล้วมาใช้หน่อย
พอเปิด Printer ขึ้นมาก็อนาถใจครับ ตลับหมึกมันแห้งหมดแล้ว สรุปคือต้องเปลี่ยนตลับหมึกใหม่
แต่ด้วยความที่ที่บ้านผมงกครับ แค่ตลับหมึก 300 กว่าก็เสียดายอ่ะ ยังน่าจะเอามาใช้ได้ แม่กับพี่ผมก็ร่วมมือกันโดยการ เตรียม หม้อ ใส่น้ำเต็มหม้อ 1 อัน แล้วทำให้น้ำเดือด ชนิด ปุดๆๆ เลย แล้วจับ ตลับหมึก ใส่เข้าหม้อนั่นแหละ
ทันใดนั้นจากน้ำขาวๆ ใสๆ บริสุทธิ์ก็เปลี่ยนสีเป็น สีดำไปทั้งหม้อเลย
และพอผ่านไปซักพัก ก็เอาตลับหมึกนั่นมาใส่ใน Printer ปรากฏว่าใช้ได้ อู้ว แม่เจ้า มันจอร์จมาก
แต่!!
หมึกมันใกล้หมดแล้ว ก็เลยต้องเติมหมึกดำไป
เรื่องมันเกิดขึ้นตรงนี้แหละครับ
เพราะหลังจากเอาเข้าหม้อมะกี้แล้ว น้ำมันก็เข้าไปขังอยู๋ใน ตลับค่อนข้างเยอะเหมือนกัน เริ่มแรงก็เอาเข็มฉีดยาของหมึกนะแหละครับ มาดูดน้ำออกๆๆ จนหมด เหลือติดอยู่นิดหน่อย
ทีนี้เหลืออยุ๋นิดๆก็ทำไรไมได้ก็ต้องเอาไป ตากแดดครับให้มันแห้ง
แต่ว่า ตากมาตั้ง 20 นาทีแล้วทำไมยังไม่แห้ง ผมก็คนใจร้อนด้วย
เลยคิดว่า ทำไงให้มันแห้งเร็วๆ ดีวะ ของเปียกๆ โดนความร้อนก็ต้องระเหยแล้วก็แห้งสืนะ งั้นต้องต้ม เอ้ะ ไม่ได้อีกเพราะถ้าต้มน้ำในหม้อก็ซึมเข้าไปในตลับอีก งั้นทำไงดีๆ ให้มันร้อน โดยที่ไม่ต้องจุ่มน้ำ
และแล้ว ไอเดียก็บันเจิดขึ้น ใช่แล้ว Microwave ไงล่ะ โคตรร้อนเลย ดีจริงๆ เอาตลับหมึกอบกับไมโครเวฟนี่แหละดีสุด ให้ความร้อนได้ดี รับรอง แห้งแน่ๆ
แต่แล้วไม่เปนอย่างที่คิดครับ มันไม่ใช่แค่แห่งครับ ผมใส่เข้าไมโครเวฟ เปิดเครื่องไม่ถึง 3 วิ มีเสียงดัง เปี้ยะๆ ออกมาแล้วก็มีสเก็ดไฟอยู่ในไมโครเวฟด้วย อู้หู ร้อนแรงดีแท้!!
ผมรีบเปิดไมโครเวฟออกมาปรากฏว่า .... -*- ขาของมันละลายเป็นน้ำหมดแล้ว แหยะๆ แถมเหม็นด้วย
พอต่อมาที่บ้านถามผมว่า ตลับหมึกไปไหนแล้ว ผมก็บอกว่า เติมหมึกไม่ได้ เอาไปทิ้งแล้ว (เติมไมได้แล้ว ก็มันเสียไงแต่ผมไมได้บอกว่าเอาเข้าไมโครเวฟแล้วพัง)
สรุปผมก็โดนด่าใหญ่ บอกตลับยังใช้ได้ทิ้งทำไมวะ (มันน่าเอาสภาพตลับหมึกให้ดูจริงๆ)
พอนึกถึงชื่อ ไมโครเวฟก็ทำให้นึกถึงเรื่อง Printer ที่บ้านได้ครับ
เรื่องนี้รู้สึกเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว
เมื่อปีก่อน ผมจะเอา Printer ที่ไมได้ใช่มาราวๆ 3-4 ปีแล้วมาใช้หน่อย
พอเปิด Printer ขึ้นมาก็อนาถใจครับ ตลับหมึกมันแห้งหมดแล้ว สรุปคือต้องเปลี่ยนตลับหมึกใหม่
แต่ด้วยความที่ที่บ้านผมงกครับ แค่ตลับหมึก 300 กว่าก็เสียดายอ่ะ ยังน่าจะเอามาใช้ได้ แม่กับพี่ผมก็ร่วมมือกันโดยการ เตรียม หม้อ ใส่น้ำเต็มหม้อ 1 อัน แล้วทำให้น้ำเดือด ชนิด ปุดๆๆ เลย แล้วจับ ตลับหมึก ใส่เข้าหม้อนั่นแหละ
ทันใดนั้นจากน้ำขาวๆ ใสๆ บริสุทธิ์ก็เปลี่ยนสีเป็น สีดำไปทั้งหม้อเลย
และพอผ่านไปซักพัก ก็เอาตลับหมึกนั่นมาใส่ใน Printer ปรากฏว่าใช้ได้ อู้ว แม่เจ้า มันจอร์จมาก
แต่!!
หมึกมันใกล้หมดแล้ว ก็เลยต้องเติมหมึกดำไป
เรื่องมันเกิดขึ้นตรงนี้แหละครับ
เพราะหลังจากเอาเข้าหม้อมะกี้แล้ว น้ำมันก็เข้าไปขังอยู๋ใน ตลับค่อนข้างเยอะเหมือนกัน เริ่มแรงก็เอาเข็มฉีดยาของหมึกนะแหละครับ มาดูดน้ำออกๆๆ จนหมด เหลือติดอยู่นิดหน่อย
ทีนี้เหลืออยุ๋นิดๆก็ทำไรไมได้ก็ต้องเอาไป ตากแดดครับให้มันแห้ง
แต่ว่า ตากมาตั้ง 20 นาทีแล้วทำไมยังไม่แห้ง ผมก็คนใจร้อนด้วย
เลยคิดว่า ทำไงให้มันแห้งเร็วๆ ดีวะ ของเปียกๆ โดนความร้อนก็ต้องระเหยแล้วก็แห้งสืนะ งั้นต้องต้ม เอ้ะ ไม่ได้อีกเพราะถ้าต้มน้ำในหม้อก็ซึมเข้าไปในตลับอีก งั้นทำไงดีๆ ให้มันร้อน โดยที่ไม่ต้องจุ่มน้ำ
และแล้ว ไอเดียก็บันเจิดขึ้น ใช่แล้ว Microwave ไงล่ะ โคตรร้อนเลย ดีจริงๆ เอาตลับหมึกอบกับไมโครเวฟนี่แหละดีสุด ให้ความร้อนได้ดี รับรอง แห้งแน่ๆ
แต่แล้วไม่เปนอย่างที่คิดครับ มันไม่ใช่แค่แห่งครับ ผมใส่เข้าไมโครเวฟ เปิดเครื่องไม่ถึง 3 วิ มีเสียงดัง เปี้ยะๆ ออกมาแล้วก็มีสเก็ดไฟอยู่ในไมโครเวฟด้วย อู้หู ร้อนแรงดีแท้!!
ผมรีบเปิดไมโครเวฟออกมาปรากฏว่า .... -*- ขาของมันละลายเป็นน้ำหมดแล้ว แหยะๆ แถมเหม็นด้วย
พอต่อมาที่บ้านถามผมว่า ตลับหมึกไปไหนแล้ว ผมก็บอกว่า เติมหมึกไม่ได้ เอาไปทิ้งแล้ว (เติมไมได้แล้ว ก็มันเสียไงแต่ผมไมได้บอกว่าเอาเข้าไมโครเวฟแล้วพัง)
สรุปผมก็โดนด่าใหญ่ บอกตลับยังใช้ได้ทิ้งทำไมวะ (มันน่าเอาสภาพตลับหมึกให้ดูจริงๆ)
Comment