Announcement

Collapse
No announcement yet.

A.A.C ตอนที่ 8 และ 9 Professional Graphics

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • A.A.C ตอนที่ 8 และ 9 Professional Graphics

    API คืออะไร

    ผมขออธิบายในภาษาชาวบ้านก็แล้วกันนะครับ API คือตัวที่กำหนดมาตรฐานการเชื่อมต่อ กับ Application ต่างๆ ครับ (หากงงก็ไม่เป็นไรครับ เดียวผมมีตัวอย่างให้ดู)

    ตัวอย่าง

    หาก เรามี Application A และต้องการให้มันทำการเชื่อมต่อกับ Application B เราจะต้องทราบวิธีการเชื่อมของ Application B ว่ามีวิธีการอย่างไรบ้าง ซึ่งวิธีการเหล่านั้นเราเรียกว่า API นั้นเองครับ

    ตัวอย่าง

    เช่น หากเราเป็นนักพัฒนาเกม 3D และเราต้องการให้ กราฟิกชิพ (GPU) แสดง Effect ต่างๆออกมา เราก็ใช้ชุดคำสั่งที่อยู่ใน OpenGL หรือ Direct3D ไปสั่งให้ GPU แสดง Effect ออกมา ซึ่ง OpenGL และ Direct3D ก็คือ API ที่ใช้เชื่อมต่อระหว่าง เกม 3D และ GPU นั้นเองครับ







    OpenGL และ Direct3D ต่างกันอย่างไร

    1. ระบบปฏิบัติการที่รองรับ

    a. OpenGL เป็น API เปิด สามารถให้ใช้ได้ทุกระบบปฏิบัติการ เช่น Wondows, UNIX, LINUX , Mac OS และอื่นๆ เป็นต้น

    b. Direct3D เป็นส่วนหนึ่งของ DirectX ซึ่งเป็น API ของ Microsoft ดังนั้น Dircet3D จะสามารถใช้ได้บนระบบปฏิบัติการที่ Microsoft อนุญาตเท่านั้นซึ่งปัจจุบันนี้ ผมก็เห็นแต่ Windows เท่านั้นที่ใช้ Direct3D

    2. จำนวนชุดคำสั่ง

    ในระยะแรกๆนั้น จำนวนชุดคำสั่งที่ใช้ในการทำงาน 3D ของ OpenGL นั้นจะมีจำนวนชุดคำสั่งเยอะกว่า Dircet3D ครับ และ OpenGL ก็มีประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่า Direct3D อีกด้วย ดังนั้นในสมัยก่อนเวลาทำงาน 3D ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สร้างเกม 3D, การทำงานออกแบบ 3D Modeling ก็มักจะใช้ OpenGL ครับ แต่เมื่อเวลาผ่านมาจนถึงยุคที่มีการใช้ DirectX 9 จำนวนชุดคำสั่งที่อยู่ใน OpenGL และ Direct3D ก็เริ่มที่จะมีจำนวนพอๆกันแล้วครับ และDirectX 11 ที่กำลังจะออกมาในอนาคต ก็ทำท่าว่าจะเหนือกว่า OpenGL เสียด้วยครับ แต่ถึงอย่างไรก็ตามจุดแข่งของ OpenGL ก็คือ ตัว OpenGL นั้นสามารถใช้งานได้หลายระบบปฏิบัติการครับ Application 3D หลายตัวยังคงสนับสนุนการทำงานของ OpenGL อยู่ครับ
    21
    เคย
    23.81%
    5
    ไม่เคย
    76.19%
    16

  • #2
    SGI (Silicon Graphics, Inc)

    ในสมัยก่อนนั้น SGI เป็นบริษัทที่ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ ชนิด Workstation ที่มีชื่อเสียงมากครับ SGI ผลิตทั้ง Hardwar และ Software ที่เกี่ยวกับงานกราฟฟิกครับ สมัยนั้นเครื่องคอมพิวเตอร์ของ SGI มีความโด่ดเดนทางด้านการนำไปใช้ในงานออกแบบกราฟฟิก 3D เป็นอย่างมากเลยครับ เรียกได้ว่า SGI เป็นที่ 1 ในวงการ 3D ในเวลานั้นเลยครับ

    SGI เป็นผู้นำเทคโนโลยีหลายอย่างมาใช้เป็นรายแรกๆครับ เช่น

    1. SGI ได้สร้าง Geometry Engine ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลทางเลขาคณิต(Geomatry) ตัวแรกของโลกครับ ซึ่ง Geometry Engine นี้สามารถแบ่งเบาการทำงานของ CPU ในการประมวลผลกราฟฟิก 3D ลงไปได้มากเลยครับ ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของ SGI โดดเด่นในเรื่องการทำงานกราฟฟิกเป็นอย่างมากครับ
    2. ใช้ เทคโนโลยีการประมวลแบบ 64 Bit เป็นรายแรก SGI ได้ใช้ซีพียูที่มีชื่อว่า R4000 ซึ่งเป็นซีพียูในตระกูล MIPS ครับ R4000 เป็นซีพียู RISC 64 bit ตัวแรก และในส่วนของระบบปฏิบัติการ SGI ใช้ระบบปฏิบัติการที่มีชื่อว่า IRIX 6.2 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่รองรับการประมวลผลแบบ 64 bitเติมรูปแบบตัวแรก (IRIX เป็นระบบปฏิบัติการที่ SGI พัฒนามาจาก UNIX อีกทีนึงครับ)
    3. SGI ได้สร้าง API สำหรับงานกราฟฟิกขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า IRIS GL แต่ เจ้า IRIS GL นี้มันใช้งานได้ยากมากเลยครับ ทาง SGI จึงได้นำ IRIS GL มาแก้ไขใหม่ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น และได้ตั้งชื่อให้ใหม่ว่า OpenGL และหลังจากนั้นมา OpenGL ก็กลายเป็น API สำหรับงานกราฟฟิก 3D ที่นิยมใช้มากสุดในการทำงาน 3D ครับ

    ใน ระยะเวลาต่อมาประสิทธิภาพในการทำงานด้านกราฟฟิกในเครื่อง PC มีมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีความใกล้เคียงกับเครื่อง WorkStation ที่ SGI กำลังทำตลาดอยู่ SGI จึงได้เปลี่ยนเป้าหมายไปทำเครื่องคอมพิวเตอร์ ชนิด Server แทนครับ เพราะหากยังอยู่ในตลาด WorkStation ต่อไปคงต้องตายแน่ๆ และผู้เชี่ยวชาญทางด้านกราฟฟิกของ SGI ต่างก็ลาออกจาก SGI มาอยู่กับทาง ATI และ NVIDIA ครับ

    เมื่อ SGI เปลี่ยนจากตลาด WorkStation มาทำตลาด Server ทาง SGI ก็ได้เปลี่ยน Logo ตัวเองจาก SGI มาเป็น sgi ครับ (SGI -----> sgi)

    ปัจจุบันนี้ SGI ยังคงจำหน่ายคอมพิวเตอร์ Server อยู่

    ส่วน ตัวของ OpenGL นั้นก็ยังได้รับการสนับสนุนต่อไปเรื่อยๆจากทาง SGI และ Khronos Group (ซึ่งประกอบไปด้วยบริษัทต่างเช่น Google, Blizzard, Orange, LG, Mitsubishi Electric, Panasonic และอื่นๆอีกมากหมาย)

    ว่าแล้วก่อนไปหัวข้อต่อไปเราลองมาดูรูปร่างหน้าตาของเครื่อง SGI ในสมัยก่อนกันดีไหมครับ




    ภาพด้านบน หน้าตา ถายนอกของเครื่อง Workstation SGI Onyx RE2









    ภาพด้านบน บอร์ดใส่ CPU พร้อมแรม 1 GB (คิดดูนะครับในปี 1993(พ.ศ. 2536) แรม 1 GB มันจะมีค่าขนาดไหน (ในเครื่องนี้ยังมีบอร์ดใส่ CPU และแรมอื่นๆอีกน่ะครับ อันนีเอามาให้ดูแค่อันเดียวพอเป็ตัวอย่าง)








    ภาพด้านบน นี้และครับ Geometry Engine ของ SGI ที่ช่วยในการประมวลผลทางด้านเลขาคณิต (โครงสร้าง 3D ส่วนมากมักเป็นรูปทรงเลขาคณิต)ครับ









    ภาพด้านบน นี้ก็คือ Raster Manager (หลังที่สร้างโครงสร้าง 3D หรือ Model 3D เสร็จแล้วเราก็ต้อง Render ภาพออกมาเป็น 2D ในรูปแบบของ Raster (Raster คือข้อมูลที่เป็นจุดๆ 1จุด ต่อ 1 pixel))








    ภาพด้านบน Display Generator(การ์ดจอนั้นแหละครับท่าน) เป็นไงครับ HD4870X2 ดูตัวเล็กไปเลยใช่ไหมครับ

    และ ในเครื่องนี้ยังบอร์ดอีกๆหลายบอร์ดที่ผมยังไม่ได้เอารูปมาให้เพื่อนๆดูครับ ส่วนราคาของเครื่องที่เพื่อนๆเห็นอยู่ในอดีต(1993) ราคาอยู่ที่ $750,000 (สมัยนั้น 1 USD เท่ากับ 25 บาทครับ)

    Comment


    • #3
      3DLabs

      เราก็รู้ดีอยู่แล้วว่าในสมัยก่อนนั้น OpenGL มีชุดคำสั้งที่ใช้ในการทำงาน 3D เยอะกว่า Direct3D มาก ดังนั้นคนที่ทำงานด้าน 3D เช่น โปรแกรมจำพวก CAD และ CAM ต่างๆ ก็ต้องการการ์ดจอที่มีความโดดเด่นทางด้าน OpenGL เป็นพิเศษครับ และ 3DLabs ก็คือผู้เชี่ยวชาญทางด้าน OpenGL ตัวจริงเสียด้วยสิ

      3DLabs ก็มีบทบาทเป็นอย่างมาก กับการให้ความช่วยเหลือในการพัฒนา OpenGL ครับ โดยเฉพาะตอนที่ DirectX 9 ที่มาพร้อมกับ HLSL ซึ่งเป็นภาษาระดับสูงสำหรับเขียน Shader (หรือ เป็นการเขียนโปรแกรมควบคุม GPU นั้นเองครับ) การมาถึงของ HLSL นั้นเรียกได้ว่าแทบจะจะทำให้ OpenGL หมดทางสู้เลยก็ว่าได้นะครับ แต่และแล้วพระเอกขี่หม้าสีทองก็เข้ามาช่วย OpenGL ไว้ได้ทันเวลา พระเอกผู้นั้นก็คือ 3DLabs ครับ 3DLabs ได้สร้าง GLSL ขึ้นมา โดย GLSL นี้ก็คือภาษาสำหรับเขียน Shader ของทางฝั่ง OpenGL นั้นเองครับ

      GLSL นี้ทำให้ OpenGL สามารถต่อกรกับ DirectX 9 ที่มี HLSL ได้เป็นอย่างดีเรียกว่าสูสีกันมากๆเลยครับ

      สาเหตุที่ 3DLabs ต้องเข้ามาช่วย OpenGL เอานั้นก็เพราะว่าการ์ดจอของ 3DLabs นั้นหากินกับ OpenGL นั้นเองครับ



      3DLabs เจ้าพอแห่งวงการ Profressional Graphices


      เราจะมาดูกันน่ะครับว่า 3DLabs ที่ได้ฉายาว่า "เจ้าพอแห่งวงการ CAD/CAM" นั้นมีการจออะไรที่หน้าสนใจบ้างนะครับ

      ดู จากฉายาของ 3DLabs แล้วเชื่อว่าหลายท่านคงสามารถรู้ได้ว่าการ์ดจอของ 3DLabs นั้นต้องออกแบบมาสำหรับการทำงาน 3D มากกว่าที่จะเอามาเล่นเกมแน่นอน

      และการทำงาน 3D ส่วนในอดีตจนถึงปัจจุบันก็ยังคงนิยมใช้ OpenGL กันเป็นส่วนมากอยู่ครับ

      เรามาดูการ์ดจอตัวแรกของ 3DLabs กันดีกว่าครับ

      ใน ปี 1994 3DLabs GLINT 300SX ที่ 3DLabs เป็นผู้ออกแบบชิพ และให้ทาง IBM เป็นผู้ผลิตชิพ GLINT 300SX นั้นจะถือว่าเป็นการ์ดจอตัวแรกที่รวมระบบการประมวลผล 2Dและ3D ทั้งหมดไว้บนการ์ดเพียงเดียวก็ได้(หากเทียบเจ้าตัวที่อยู่ด้านบนแล้ว 3DLabs GLINT ยังถือว่าเล็กกว่าเยอะครับ) GLINT 300SX ถูกออกแบบมาให้ทำงานกับ OpenGL โดยเฉพาะครับ แต่ 3DLabs GLINT 300SX ออกแบบมาสำหรับใช้งานกับเครื่อง WorkStation โดยเฉพาะทำให้การ์ดตัวนี้มีราคาแพงมาก แต่ก็ยังขายได้เพราะประสิทธิภาพที่ได้มานั้นถือว่าคุ้มมากครับ


      ภาพ 3DLabs GLINT 300SX






      ในปี 1995 3DLabs ได้ทำชิพราคาถูกออกมาชื่อ Gigi สำหรับขายผู้ใช้งานในระดับทั่วไป(สำหรับตลาด PC) ซึ่งประสิทธิภาพที่ได้จะด้อยกว่าชิพในตระกูลที่ 3DLabs ทำออกมาสำหรับตลาด WorkStation

      ช่วงปลายปี 1995 กราฟฟิกชิพในตลาดระดับ PC เริ่มมีออกมามากขึ้นเรื่อยๆ 3DLabs จึงได้นำ Gigi มาพัฒนาต่อเป็น Permedia

      3DLabs Permedia มีคู่แข่งคือ 3Dfx Voodoo, ATI Rage, S3 VIRGE 3D และ PowerVR PCX

      ใน เรื่องการเล่นเกม Permedia นั้นอยู่ระดับที่เรียกว่าดี แต่ยังไม่ดีที่สุด(แพ้ Voodoo) แต่ถ้าในแง่ของการทำงาน 3D ที่มีการใช้ OpenGL เป็นหลัก เช่นงานออกแบบจำพวก CAD/CAM นั้น ไม่ชิพกราฟฟิกตัวไหนสามารถเอาชนะ Permedia ได้เลย (เพราะการ์ดจอที่ใช้ชิพ 3DLabs Pemedia นั้นจะต้องมีชิพ 3DLabs GLINT Delta สำหรับการคำนวนเลขาคณิต(Geometry) ติดมาด้วยนั้นเองครับ)

      และแทนที่ Permedia จะได้รับความนิยมในตลาดเกม แต่กลับได้รับความนิยมในตลาด Workstation เป็นอยากมาก นั้นเพราะ Permedia นั้นมีราคาถูกมากหากเทียบกับการ์ดจอต่างๆที่มีอยู่ในระดับ Workstation ในเวลานั้นด้วยเหตุนี้ Permedia จึงเป็นการ์ดจอ Low-cost OpenGL ตัวแรกครับ


      ภาพ 3DLabs Permedia





      เกร็ดความรู้
      : S3 VIRGE 3D ได้รับสมยานามว่า Graphice De-accelerator



      ใน ช่วงปี 1996 3DLabs ได้ออกชิพ Permedia2 ซึ่งเป็นชิพกราฟฟิกตัวแรกที่มีการ integrade หน่วยประมวลผลทางด้าน Geometry เข้าไปไว้ในชิพตัวเดียวกับกราฟฟิกชิพ ได้สำเร็จเป็นตัวแรก สำหรับคู่แข่งของ Permedia2 นั้นได้แก่ NVIDIA RIVA 128, ATI RAGE PRO, Matrox Millenium II, PowerVR PCXII, Number Nine Ticked to Ride, 3dfx Voodoo และ 3dfx Voodoo Rush



      ภาพการ์ดจอ Diamond FireGL Pro1000 ซึ่งใช้ชิพกราฟฟิก 3DLabs Permedia2












      ภาพข้างบน เกม Motoracer ที่ได้จาก 3dfx Voodoo (คลิกรูป ดูภาพใหญ่)





      ภาพข้างบน เกม Motoracer ที่ได้จาก 3Dlabs Permedia2 สังเกตุที่การเกรียสีบนพื้นถนนจะทำได้ไม่เนียนเท่า 3dfx Voodoo (คลิกรูป ดูภาพใหญ่)







      สำหรับการทดสอบ Direct3D 3DLabs Permedia2 (Diamond FireGL 1000 Pro) ยังทำได้ไม่ดีนัก








      สำหรับในการทดสอบ ที่มีการใช้งาน OpenGL นั้นไม่มีชิฟกราฟฟิกตัวใดเทียบชั้นกับ 3DLabs Pemedia2(Diamond FireGL 1000 pro)ได้เลยครับ






      ปี 1998 3DLabs ได้ออกการ์ดจอ 3DLabs Pemedia 3 Creat! ซึ่งเป็นการ์ดจอระดับ Low-Cost ตัวสุดท้ายของ 3DLabs และก็เช่นเคยครับ การ์ดของ 3DLab นั้นเหมาะกับการ์ทำงาน 3D กับ OpenGL มากกว่า ที่จะเอามาเล่นเกม ดังนั้นหลังจากการ์ดรุ่นนี้แล้ว 3DLabs ก็หายไปจากวงการการ์ดจอสำหรับเล่นเกมเป็นเวลานานเลยครับ



      ภาพ การ์ดจอ 3DLabs Permedia 3 Create








      สำหรับการเล่นเกม 3DLabs ก็ยังทำได้ไม่ดีเช่นเคย








      แต่ในการทำงาน 3D นั้น 3DLabs ก็ยังคงเป็นการ์ดที่ใช้เวลาในการ Render น้อยที่สุดอยู่ดีครับ






      หลังจากที่ Permedia 3 Create ไม่ประสบความสำเร็จในตลาดเกม 3DLabs จึงได้รู้ตัวว่า ชิพกราฟฟิกของตนนั้นเหมาะกับการทำงานมากกว่า การที่จะนำมาเล่นเกม 3DLabs จึงยอมวางมือจากตลาดเกม และมุ่งทำตลาด WorkStation อย่างเดียว
      Last edited by IonRa; 23 Sep 2008, 04:17:39.

      Comment


      • #4
        ต่อมาเมื่อ NVIDIA ประสบความสำเร็จเป็นที่ 1 ในตลาดเกมด้วยชิพ GeForce 256 ทาง NVIDIA ได้นำชิพตัวนี้ไปปรับแต่งให้เป็นชิพกราฟฟิกระดับ WorkStation โดยใช้ชื่อว่า Quadro เตรียมบุกตลาดสำหรับคนทำงาน 3D ที่ทาง 3DLabs ครอบครองอยู่

        *หมายเหตุ ชิพ NVIDIA Quadro บางตัวก็ไม่ได้เกิดจากการปรับแต่งชิพ GeForce น่ะครับ เพราะว่าชิพ Quadro บางรุ่นก็ถูก NVIDIA ออกแบบมาให้เป็น Quadro โดยกำเนิดก็มีครับ

        แม้ในตลาดเกมจุดเด่นของ NVIDIA จะอยู่ที่คุณสมบัติ T&L ซึ่งมีอยู่ในตัว GeForce 256

        แต่ จุดของ NVIDIA ตรงนี้กลับไม่ใช่สิ่งใหม่เลยในตลาด Workstation นั้นเพราะชิพ GLINT Gamma ซึ่งเป็นชิพประมวลผลทาง Geometry ของ 3DLabs นั้นก็มีคุณสมบัติ T&L เช่นกัน

        และทาง 3DLabs ก็โจมตี Quadro ว่าการที่ Quadro ใช้ชิพเพียงตัวเดียวทำงานทั้งการ Render และคำนวณทาง Geometry นั้น จะมีประสิทธิภาพในการทำงานสู้ การ์ดจาก 3DLabs ที่ใช้ชิพ เฉพาะทางในการทำงานแต่ละด้านไม่ได้ (แม้ใน Permedia 2 และ 3 ซึ่งเป็นการ์ดจอ Low-cost จะใช้ชิพเพียงตัวเดียวทำงานทุกอย่าง แต่การ์ดในระดับ WorkStation ทาง 3DLabs ยังคงใช้ชิพต่างๆแยกกัน เพื่อแบ่งกันประมวลผลในแต่ละด้าน เช่นการ Render ก็จะใช้ชิพตัวนึง และการคำนวณทาง Geometry ก็จะใช้ชิพอีกตัวหนึ่ง)



        ทีนี้เราลองมาดูกันสิ ว่าแนวความคิดของ NVIDIA และ 3DLabs ใครจะดีกว่ากัน







        3DLabs Oxygen GVX1 ประกอบด้วยชิพ 2 ตัว ตัวที่อยู่ข้างบนคือ GLINT R3 ทำหน้าที่ในการ Render และตัวที่อยู่ด้านล้างคือ GLINT Gamma G1 สำหรับคำนวน Geometry (รวมถึง T&L เพราะการประมวลผล T&L ถือว่าเป็นการทำงานทาง Geometry อย่างนึงครับ)








        3DLabs Oxygen GVX210 ประกอบด้วยชิพ 3 ตัว ตัวที่มีพัดลม 2 ตัว คือ GLINT R3 ทำหน้าที่ในการ Render และตัวที่ใช้ sink สีดำ ไม่มี คือ GLINT Gamma G2 สำหรับคำนวน Geometry









        Diamond FireGL 1Pro ใช้ชิพ IBM Rasterizer 256 bit (เป็นชิพที่ทำหน้าที่ Render ภาพอย่างเดียว)







        E&S รุ่น Lighting 1200 มีชิพ 3 ตัว ตัวที่อยู่ใกล้ๆกับ D-sub คือ Ramdac ครับ(ของผู้ผลิตรายอื่นๆเขายัด Ramdac รวมไว้ในชิพตัวเดียวกับชิพที่ทำหน้าที่ Render ภาพกันหมดแล้ว) ส่วนตัวที่มีพัดลม คือชิพที่ทำหน้าที่คำนวณ Geometry ส่วนตัวที่อยู่ด้านบนของตัวที่มีพัดลมคือชิพที่ทำหน้าที่ Render ภาพ







        Elsa GLoria II ใช้ชิพ NVIDIA Quadro ชิพเดียวทำได้หมดทุกอย่าง





















        งานนี้เรียกได้ว่า เจ้าพ่อแห่งวงการกราฟฟิกระดับ WorkStation โดนน้องใหม่อย่าง NIVIDIA Quadro อัดเละเลยครับ
        Last edited by IonRa; 23 Sep 2008, 04:20:00.

        Comment


        • #5
          หลัง จากที่ทาง NVIDIA ได้ส่ง Quadro ซึ่งเป็นชิพที่เกิดจากการนำชิพ Geforce 256 มาปรับแต่ง ลงมาแข่งขันในตลาด WorkStation ซึ่งการมาถึงของ Quadro นั้นทำให้พวกรุ่นพี้ที่เคยครองตลาดการ์ดจอระดับ WorkStation มาก่อนถึงขั้นกระอักเลือดกันเป็นแถบๆ ร่วมถึงเจ้าพ่อแห่ง CAD อย่าง 3DLabs ด้วยครับ แน่นอนงานนี้ 3DLabs ต้องมีการล้างตาเอาคืนจาก NVIDIA แน่ๆครับ....เอาล่ะเรามาดูกันต่อ

          ในช่วงเวลาปี 2000 3DLabs ได้ซื้อกิจการของ intense3D ซึ่งเป็นผู้ผลิตการ์ดจอ และหลักจากนั้น 3DLabs ก็เริ่มผลิตการ์ดจอเองโดยเลิกส่งชิพให้ผู้ผลิตรายการ์ดจอรายอื่นๆ และ 3DLabs ก็เตรียมตัวทำการ์ดตัวใหม่ออกมาถวงบัลลังค์แห่ง OpenGL คืนจาก NVIDIA ครับ



          หลังจากที่ NVIDIA ได้รับความสำเร็จในตลาด Workstation จาก Quadro ไปแล้วทาง NVIDIA เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ส่ง Quadro 2 Pro ซึ่งเป็นชิพที่มีพื้นฐานทางเทคโนโลยีการผลิตเช่นเดียวกับ GeForce2 GTS ออกมาป้องกันแชมป์ครับ






          ภาพข้างบน การ์ดจอ Elsa GLoria III ที่ใช้ชิพ NVIDIA Quadro 2 Pro (มันมาตัวเดียวอีกแล้วครับท่าน)




          ประวัติความเป็นมาของ ATI FireGL

          ช่วงเวลาก่อน หน้านี้ ATi ได้ซื้อกิจการของ FireGL ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติ German ที่ออกแบบการ์ดจอสำหรับเครื่อง WorkStation ซึ่ง FireGL เคยมีชื่อเสียงจากการออกแบบการ์จอ Diamond FireGL series ให้กับทาง Diamond Multimedia มาก่อน ทาง ATi เห็นว่าบริษัท FireGL หน้าจะมีอนาคตที่ดี ATi จึงได้ตัดสินใจซื้อกิจการของ FireGL มาไว้ในครอบครอง

          FireGL เริ่มแรกตอนอยู่กับ Diamond Multimedia นั้น ได้ออกแบบการ์ดจอโดยใช้ชิฟกราฟฟิกของ 3DLabs หลังจากที่ 3DLabs ได้เปลี่ยนทิศทางมาผลิตการ์ดด้วยตัวเอง FireGL จึงได้หันหน้าไปใช้ชิพของทาง IBM แทนครับ ต่อมาเมื่อ FireGL มาอยู่กับ ATi ในระยะแรกๆนั้น ATi ยังไม่มีความสามารถที่จะผลิตชิพกราฟฟิกสำหรับตลาด WorkStation ด้วยตนเองได้ FireGL จึงเลือกใช้ชิพกราฟฟิกจาก IBM สำหรับการ์ด ATI FireGL รุ่นแรกๆไปก่อนครับ ต่อมาเมื่อ ATI สามารถผลิตชิพที่มีประสิทธิภาพสูง อย่าง Radeon 8500 ได้สำเร็จ ATi FireGL รุ่นต่อๆมาจึงใช้ชิพที่มีพื้นฐานทางเทคโนโลยีของ Radeon แทนชิพที่เคยใช้จาก IBM ครับ

          ATI FireGL 4 คือ การ์ดจอ ATi FireGL รุ่นแรกๆ และเป็นรุ่นที่ใช้ชิพจาก IBM ด้วยครับ





          ภาพข้างบน การ์ดจอ ATi FireGL 4




          ชิพ IBM ที่ ATI FireGL 4 นำมาใช้นั้นประกอบด้วยชิพ 2 ตัวนั้นได้แก่

          1. IBM GT 1000 เป็นชิพ Geometry Engine (ชิพตัวที่อยู่ใต้ชุดระบายความร้อนทองแดง)

          2. IBM RC 1000 เป็นชิพ Rasterizer ทำหน้าที่ Render ภาพ



          และ แล้ว ก็มาถึงการ์ดของ 3DLabs พระเอกของเรา (เฉพาะใน A.A.C ตอนที่ 8 และ 9) ก็เปิดตัวการ์ดจอ สุดอลังการณ์งานสร้างออกมาครับ นั้นก็คือ 3DLabs Wildcat II 5110 ซึ่ประกอบด้วย ชิพ Geometry Engine จำนวน 2 ตัว และ ชิพ Rasterizer 2 ตัว ร่วมกันเป็น 4 ตัว ครับ งานนี้ 3DLabs หมายจะเอาตำแหน่งการ์ดจอ WorkStation อันดับหนึ่งคืนมาให้ได้ครับ






          ภาพข้างบน การ์ดจอ 3DLabs Wildcat II 5110




          เอาล่ะเรามาดูการทดสอบกันดีกว่า





















          งานนี้เรียกว่าได้ว่า 3DLabs กับ ATi กด NVIDIA เสียจนโงหัวไม่ขึ้นเลยครับ ทั้งในเรื่องของคะแนน และขนาดของตัวการ์ด อิอิ

          แต่ ในทางกลับกันราคาของ Elsa GLoria ที่ใช้ชิพ NVIDIA Quadro 2 Pro นั้น ก็มีราคาถูกกว่า 3DLabs Wildcat II 5110 และ ATi FireGL4 ถึงเท่าตัวเลยที่เดียวครับ

          Comment


          • #6
            3DLabs ต้องยอมรับความจริงแล้วว่า การใช้ชิพประมวลผลหลายๆตัวนั้น เป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิตให้กับกราฟฟิกการ์ดของตน 3DLabs จึงได้เปลี่ยนแนวคิดมาใช้ชิพตัวเดียว เช่นเดียวกับที่ NVIDIA ทำอยู่

            3DLabs P9 เป็นการกลับมาอีกครั้งของชิพเดี่ยวจาก 3DLabs แต่ว่าหน้าเสียดายที่ผมไม่สามารถหาผลการทดสอบของการ์ดที่ใช้ Chip 3DLabs P9 มาให้ท่านชมได้ครับ

            3DLabs P10 นี้ก็เป็นชิพอีกตัวที่รวมหน่วยประมวลทางกราฟฟิดทั้งหมด ไว้ในชิพเพียงตัวเดียวของ 3DLabs ครับ




            ภาพชิพ 3DLabs P10


            3DLabs P10 นี้มีจุดเด่นอยู่ตรงที่มันสามารถนำหน่วยความจำหลักของระบบ หรือที่เราเรียกันว่า Ram มาช่วยในการประมวลผลได้ด้วยครับโดยมิวิธีการดังนี้





            ภาพแสดงการทำงานของ 3DLabs Virtual texture Memory





            3DLabs P10 จะนำเฉพาะข้อมูลที่ตาเราสามารถมองเห็นได้ มาเก็บไว้ที่หน่วยความจำบนตัวการ์ดจอครับ

            และ ส่วนข้อมูลที่ตาเราไม่สามารถมองที่จะเห็น แต่จะต้องใช้ประมวลผลในลำดับถัดไป หรือจะต้องแสดงออกมาใน Frame ถัดไป 3DLabs P10 ก็จะนำข้อมูลในส่วนนี้ไปเก็บไว้ในหน่วยความจำของระบบ หรือ Ram นั้นเองครับ

            การจัดการหน่วยความจำเช่นนี้จะทำให้ช่วยประหยัดการใช่งานหน่วยความจำบนตัวการจอเป็นอย่างมากครับ



            สำการ์ดในตระกูลที่ใช้ชิพ 3DLabs P10 นี้ ทาง 3DLabs เองก็ได้ทำออกมาทั้งรุ่นที่ใช้สำหรับตลาด Workstation และสำหรับตลาด Game ครับ








            ภาพของ 3DLabs Wildcat VP870 ความหวังของการกลับเข้ามาในตลาดเกมของ 3DLabs (คลิกที่รูปเพื่อดูภาพใหญ่)




            3Dlabs Wildcat VP870

            3Dlabs Wildcat VP870 เป็นการ์ดจอระดับกลางของทาง 3DLabs ครับ

            3DLabs Wildcat VP870 นี้นอกจากจะโดนวางตำแหน่งไว้เป็นการ์ดระดับกลางในตลาด Workstation แล้ว มันยังถูกวางตำแหน่งให้เป็นการ์ดระดับสูงในตลาดเกมอีกด้วยครับ

            ดู จากการวางตำแหน่งของเจ้า Wildcat VP870 คงพอที่จะเดากันได้ว่าแล้ว 3DLabs มีความต้องการที่ จะกลับเข้ามาลงแข่งขันในตลาดเกมอีกครั้งเป็นแน่แท้



            งั้นคราวนี้ เราลองมาดูกันซิว่า 3DLabs จะทำได้ดีขนาดไหนในการกลับมาลงแข่งขันในตลาดเกมครั้งนี้ ครับ














            ภาพข้างบน ภาพเกม The Elder Scrolls III: Morrowind ที่ได้จากชิพ 3DLabs P10 (Wildcat VP870) (คลิกที่รูปดูภาพใหญ่)






            ภาพข้างบน ภาพเกม The Elder Scrolls III: Morrowind ที่ได้จากชิพ Radeon 8500 (คลิกที่รูปดูภาพใหญ่)




            สำหรับในส่วนของการทด 3DMark 2001se ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ใช้ทดสอบความสามารถของการ์ดจอในการเล่นเกม ก็พอจะบอกได้ว่าการกลับมาในตลาดเกมของ 3DLabs ครั้งนี้คงไม่สำเร็จเป็นแน่ ครับ

            แต่สำหรับในส่วนของการทำงาน 3D นั้นทาง 3DLabs ก็ยังสามารถคงความโดดเด่นไว้ได้เหมือนเดิมครับ

            แน่นอนในการทดการทำงาน 3D เราก็ต้องเอาการ์ดสำหรับการทำงานมาทดสอบแข่งกันซิครับ โดยการ์ดสำหรับทำงานที่อยู่ในรุ่นเดียวกันประกอบด้วย





            ภาพ ATi FireGL 8800(คลิกที่รูปดูภาพใหญ่)

            FireGL 8x00 Series คือ ชิพที่ใช้พื้นฐานทางเทคโนโลยีของ Radeon 8500 เป็น FireGL รุ่นแรกที่ใช้ชิพของ ATi เองครับ (ก่อนหน้านี้ FireGL ใช้ชิพของ 3Dlabs และ IBM)





            ภาพ NVDIA Quadro4 900XGL(คลิกที่รูปดูภาพใหญ่)

            Quadro 4 series คือ ชิพที่ใช้พื้นฐานทางเทคโนโลยีของ NV 2X เช่นเดียวกับชิพในตระกูล GeForce 4


            สำหรับการกลับมาของ 3DLabs ในรุ่น VP Series นั้น 3DLabs ทำได้ดีมากๆครับ เพราะราคาของการ์ดในตระกูลนี้มีให้เลือกตั้งแต่ 200 USD - 500 USD(ใน VP series ประกอบด้วย VP 560, VP 760, VP 870, VP 970) ซึ่งการที่ 3DLabs ตั้งราคาแบบนี้ทำให้การ์ดของ 3DLabs สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้หลายระดับมากขึ้นครับ






            Last edited by IonRa; 24 Sep 2008, 03:04:54.

            Comment


            • #7
              นอกจากนี้ 3DLabs ยังได้นำ P10 มาทำเป็น MulltiVPU (MultiGPU) บนการ์ดเดียวกันด้วยครับ โดย 1 ในการ์ดหลายๆรุ่นที่ 3DLabs ทำเป็นเป็น MultiVPU ออกมาก็คือ Wildcat 4 7210 ที่มาพร้อมกับหน่วยความจำ 384 MB




              ภาพ 3DLabs Wildcat4 7210(คลิกรูปดูภาพใหญ่)






              ภาพ Quadro FX 3000 (คลิกรูปดูภาพใหญ่)





              แต่หน้าเสียดายครับ ตรงที่เมื่อยุคสมัยของ DirectX 9 ซึ่งใช้ Shader Model 2.0 มาถึงการ์ดของ 3DLabs ตัวนี้กลับไม่สามารถใช้คุณสมบัติของ Shader Model 2.0 ได้อย่างเติมที่ เหนื่องจากชิพในตระกูล P10 นั้นแม้จะรองรับ Vertex shader 2.0 แล้ว แต่ Pixel Shader นั้นกลับรองรับเพียงเวอร์ชั่น 1.2 เท่านั้นเอง และคู่แข่งของ Wildcat4 7210 ในเวลานั้นคือ NVIDIA Quadro FX3000 ที่มีพื้นฐานทางเทคโนโลยีมากจาก GeForce FX ซึ่งรองรับ Shader Model 2.0 อย่างเติมตัว สาเหตุนี้แม้ Wildcat4 7210 จะมีชิพ 2 ตัวก็ยังไม่สามารถเอาชนะ Quadro FX3000 ที่ใช้ชิพเพียงตัวเดียวได้ และที่สำคัญ Quadro FX3000 ก็มีราคาที่ถูกกว่าด้วย

              Wildcat4 7210 ราคา 1720 USD

              Quadro FX3000 ราคา 1370 USD

              *หมายเหตุ เวอร์ชั่นของ Shader Model ก็มีผลต่อความเร็วในการทำงาน เช่น การคำนวนแสง เป็นต้น

              ตัวอย่าง

              SM 1.X จะคำนวนแสง 8 รอบสํญญานนาฬิกา (Hz)

              SM 2.X จะคำนวนแสง 4 รอบสํญญานนาฬิกา (Hz)

              SM 3.0 จะคำนวนแสง 1 รอบสํญญานนาฬิกา (Hz)



              ผลการทดสอบ








              สังเกตเมื่อเปิด AA แล้ว ประสิทธิภาพของ 3DLabs จะตกลงเป็นอย่างมากเลยครับ (คลิกที่รูปดูภาพใหญ่)



              เรามาดูเรื่องคุณภาพของภาพดีกว่า






              การทดสอบสอบ WireFrame ใน 3D studio Max







              ภาพข้างบน ได้จาก 3DLabs Wildcat4 7210 ตอนที่ยังไม่เปิด AA (ซ้าย) และตอนเปิด AA (ขวา) คลิกที่รูปดูภาพใหญ่





              ภาพข้างบน ได้จาก NVIDIA Quadro FX 3000 ตอนที่ยังไม่เปิด AA (ซ้าย) และตอนเปิด AA (ขวา) คลิกที่รูปดูภาพใหญ่


              สำหรับเรื่องภาพนี้ก็แล้วแต่คนชอบก็แล้วกันนะครับ
              Last edited by IonRa; 23 Sep 2008, 04:03:54.

              Comment


              • #8
                3DLabs Wildcat Realizm Series (สงครามครั้งสุดท้ายของ 3DLabs)

                หลัง จากที่ประสบความล้มเหลวจาก P10 ทาง 3DLabs จึงได้ออกชิพตัวใหม่ที่มีความสามารถรองรับ Shader Model 2.0 เต็มรูปแบบออกมา ชิพตัวนั้นคือ P20 เจ้า P20 นี้โดนนำไปประกอบลงการ์ดจอ 3DLabs Wildcat Realizm Series ครับ

                *หมายเหตุ Shader Model ใน Wildcat Realizm Series นั้นลองรับดังนี้ Vertex Shader 2.0 และ Pixel Shader 3.0 ซึ่งผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไม่ 3DLabs ทำให้การ์ดของตัวเองรองรับ Shader Model แบบ ครึ่งๆกลางๆเช่นนี้

                สำหรับใน Series นี้ของ 3DLabs เท่าที่ผมพอจะหาผลการทดสอบมาให้ดูได้ก็จะมีเพียง Wildcat Realizm 200 และ Wildcat Realizm 800 ครับ

                สำหรับ Wildcat Realizm 200 นั้นจะใช้ชิพประมวลผลที่ชื่อว่า Wildcat Realizm หรืออีกชื่อนึงคือ P20 จำนวน 1 ตัว ครับ

                ส่วน Wildcat Realizm 800 นั้นจะใช้ชิพ Wildcat Realizm หรือ P20 จำนวน 2 ตัว ครับ







                ภาพบน การ์ดจอ Wildcat Realizm 800 (คลิกรูปดูภาพใหญ่)







                ภาพบน การ์ดจอ Wildcat Realizm 200 (คลิกรูปดูภาพใหญ่)







                ภาพบน การ์ดจอ Quadro FX 4000 (คลิกรูปดูภาพใหญ่)







                ภาพบน การ์ดจอ FireGL X3 (คลิกรูปดูภาพใหญ่)

















                ทดสอบการทำ trilinear and anisotropic filtering quality




                ข้างบน ภาพที่ได้จาก 3Dlabs Wildcat Realizm Series เปิด 8xAF applied(คลิกที่รูป ดูภาพใหญ่)







                ข้างบน ภาพที่ได้จาก NVIDIA Quadro FX4000 เปิด 16xAF applied(คลิกที่รูป ดูภาพใหญ่)







                ข้างบน ภาพที่ได้จาก ATi FireGL X3 เปิด 16xAF applied(คลิกที่รูป ดูภาพใหญ่)







                การทดสอบ Shadermark v2.1




                ข้างบน ภาพที่ได้จาก 3Dlabs Wildcat Realizm Series (คลิกที่รูป ดูภาพใหญ่)







                ข้างบน ภาพที่ได้จาก NVIDIA Quadro FX4000 (คลิกที่รูป ดูภาพใหญ่)








                ข้างบน ภาพที่ได้จาก ATi FireGL X3 (คลิกที่รูป ดูภาพใหญ่)


                แม้ว่าในด้านของประสิทธิภาพ 3Dlabs Wildcat Realizm Series จะทำผลงานออกมาได้หน้าประทับใจแต่การ์ดของ 3DLabs กลับขายได้น้อย นั้นอาจจะเป็นเพราะว่าการ์ดของ 3DLabs นั้นมีราคาที่แพง และชื่อเสียงของ 3DLabs ก็ไม่ดีเหมือนในสมัยก่อนแล้ว 3DLabs จึงตัดสินใจอำลาวงการชิพกราฟฟิก และหันหน้าไปทำชิพสำหรับอุปกรณ์ขนาดเล็กแทนครับ
                Last edited by IonRa; 24 Sep 2008, 00:48:44.

                Comment


                • #9
                  ผมมี 3dLabs Oxygen VX1 อยู่ตัวนึง เป็น agp

                  ท่านใดสนใจ แอบ PM มาได้นะคับ อิอิ

                  Comment


                  • #10
                    ได้อ่านบทความของคุณ IonRa ทีไรอ่านลืมมาม่าอืดทุกทีครับ
                    ขอบคุณอีกครั้งครับสำหรับบทความดีๆ

                    Comment


                    • #11
                      ยังสุดยอดเหมือนเดิม ท่าน IonRa

                      Comment


                      • #12
                        สุดๆเลย ครับ nVidia นี่ที่1ทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด

                        แต่ที่แน่ๆ สมัย 2536 แรม 1 GB. เลยโหดมากมาย

                        Wildcat Realizm 800 นี่มัน HD4870 X2 ในสมัยนั้นชัดๆครับ - -*
                        Last edited by Blue NarCiSs; 23 Sep 2008, 10:10:41.

                        Comment


                        • #13
                          Originally posted by zx430564 View Post
                          ผมมี 3dLabs Oxygen VX1 อยู่ตัวนึง เป็น agp

                          ท่านใดสนใจ แอบ PM มาได้นะคับ อิอิ

                          ผมเองก็มีการ์ดของ 3DLabs เหมือนกันครับ

                          ยี่ห้อ ELSA GLoria XL ครับ การ์ดตัวนี้ใช้ชิพ 3 ตัว
                          3DLabs GLINT MX (สำหรับ Render)
                          S3 Trio64 (แสดงผล 2D)
                          และ 3DLabs GLINT Delta (สำหรับ คำนวณ Geometry) ครับ

                          แต่ผมยังไม่เคยใช้มันเลย การ์ดตัวนี้พี้สาวผมไปเจอมันติดมากับ คอมพ์มือ 2 ครับ
                          เขาไม่รู้จะเอาไปทำอะไรดี ก็เลยเอามาให้ผมเก็บสะสมไว้ครับ

                          ส่วนเพื่อนๆคนไหนที่เคยใช้การ์ด 3DLabs FireGL และ Quadro มาก่อนก็มาคุยกันในกระทู้ได้นะครับ

                          Originally posted by papababa View Post
                          ได้อ่านบทความของคุณ IonRa ทีไรอ่านลืมมาม่าอืดทุกทีครับ
                          ขอบคุณอีกครั้งครับสำหรับบทความดีๆ

                          ขอบคุณมากๆครับ ท่าน papababa ที่ติดตามอ่านกระทู้ของกระผม แม้ว่าผมจะพิมพ์ผิดเยอะไปหน่อยก็ตามทีครับ ซึ่งก็อาจจะทำให้ท่านอ่านลำบากไปบ้าง แต่ผมก็จะพยายามแก้ไขครับ

                          Originally posted by kentauji View Post
                          ยังสุดยอดเหมือนเดิม ท่าน IonRa

                          ขอบคุณครับ และจะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นครับ โดยเฉพาะการสะกดคำครับ

                          Originally posted by Blue NarCiSs View Post
                          สุดๆเลย ครับ nVidia นี่ที่1ทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด

                          แต่ที่แน่ๆ สมัย 2536 แรม 1 GB. เลยโหดมากมาย

                          Wildcat Realizm 800 นี่มัน HD4870 X2 ในสมัยนั้นชัดๆครับ - -*

                          ผมคิดว่า Wildcat Realizm 800 เป็นการ์ดที่เท่ที่สุดเท่าที่ 3DLabs เคยมีมาเลยครับ
                          Last edited by IonRa; 24 Sep 2008, 01:02:06.

                          Comment


                          • #14
                            ขอเหมือนเดิม เซพกลับไปอ่าน เหอๆ

                            ปล. แต่พอมีวิธีไหนที่จะได้พวกภาพที่ต้องคลิ๊กให้ภาพใหญ่ขึ้นได้ไหมครับ ใช้Teleport pro มันก็เซพได้แค่หน้านั้นๆ

                            Comment


                            • #15
                              จำได้ว่าเมื่อก่อนตอนมีคอมพ์เครื่องแรก

                              การ์ดจอเสีย เลยเอาไปฝากร้านน้าซ่อม

                              ตอนนั้นยังไม่ประสา เห็นการ์ดจออะไร 3dlab ไม่รู้จักเฟ้ย!!

                              บ่นไปงั้นล่ะ ผมไม่เคยใช้หรอก เมื่อก่อน drivers คืออะไรยังไม่รู้เลย ใช้คอมพ์ 256สีซะตั้งนาน

                              ดันให้ครับ กระทู้ดีมีคุณภาพ ผมว่าน่าจะตั้งกระทู้รวม link แล้วปักหมุดนะ

                              ท่าน Mod คิดว่าไงขอรับ?

                              Comment

                              Working...
                              X