จาก Part 1 คราวนี้ผมจะมาแนะนำเพลงแจ๊สในรูปแบบที่เรียกว่า ฟิวชั่นแจ๊สบ้าง แท้จริงแล้ว smooth jazz ก็ถือเป้น fusion jazz ชนิดหนึ่งถ้ายึดความหมายที่ว่า fusion jazz คือ
การนำเอาเครื่องดนตรีไฟฟ้ามาประยุกต์ใช้ในวงดนตรี เพียงแต่ smooth jazz จะทำดนตรีให้เข้าถึงผู้ฟังได้ง่ายยิ่งขึ้นโดยอิงแนวทางเพลงป๊อปเสียส่วนใหญ่ แต่สำหรับคำว่า fusion jazz จริงๆแล้ว
คำนี้ได้อิทธิพลมาจากช่วงปลายยุค 60 กระแสดนตรีร็อกกำลังมาแรง นักดนตรีอย่าง Jimi Hendrix,The Beatles,UFO,Elvis Presley หรือวง hardrock ได้เป็นแรงบัลดาลใจ
ให้กับคนรุ่นใหม่ๆอย่างมากมาย ในขณะนั้นเอง Miles Davis ได้เป็นผู้บุกเบิกดนตรีแขนงนี้ขึ้นโดยการนำเอาเครื่องดนตรีไฟฟ้ามาประสมเข้ากับวงแจ๊สและจำกัดขนาดของวงให้มีนักดนตีน้อยลงพอๆกับวงดนตรีร๊อค เขาตัดสินใจทิ้งเครื่องดนตรีอย่างดับเบิ้ลเบสหรือเปียโน เพื่อนำเอาเครื่องดนตรีอย่างเบสไฟฟ้าหรือคีย์บอร์ดและเขายังนำเอากีต้าร์ไฟฟ้าเข้ามาใช้ในงานด้วย การเล่นของ Miles จะประยุกต์โดยละทิ้งการเล่นแบบสวิงหรือคือการเปลี่ยนคอร์ดไปมาอย่างมากมายเป้นใช้ทางคอร์ดไม่มากและเน้นส่วนของการอิมโพรไวส์เข้าไป จึงทำให้มีอิสระในการเล่นเป็นอย่างยิ่ง ลแะมีนักดนตรีรุ่นหลังได้นำแนวคิดนี้ไปต่อยอดเพื่อสร้างดนตรีในแบบฉบับของตัวเองอีกมากมาย แม้การกระทำของ Miles จะไม่เป็นที่พอใจของนักดนตรีแจ๊สรุ่นเก่านักเพราะหาว่าเขาเป็นตัวทำลายความสวยงามของดนตรีแจ็สที่เคยมี แต่มันก็ทำให้เกิดดนตรีแจ๊สสาขาใหม่ซึ่งถือเป้นสาาหลักสาขาหนึ่งของแจ๊ส เรียกว่ามีส่วนผสมทั้งร๊อคและแจีสเข้าด้วยกัน ทำให้ขยายกลุ่มคนฟังให้มากขึ้นไปอีก ถึงแม้จะมีส่วนผสมของริธึ่มอันหนักหน่วง แต่ก็มีเพลงช้าที่บรรเลงได้อย่างสุขุมนุ่มลึก คือจังหวะจะไม่เหมือนกับเพลงสมูธ แต่มันจะลงลึกไปถึงก้นบึ้งหัวใจมากกว่านั้น ซึ่งหมายความว่าคนฟังต้องเข้าถึงกาารถ่ายทอดบทเพลง
ของนักดนตรีด้วย ดนตรีแนวนี้จะค่อนข้างฟังยากและเล่นยาก กล่าวคือจะมีการงัดเทคนิคแปลกๆซึ่งผสมผสานระหว่างร๊อค แจ๊ส บลูส์ โซล ฟังก์ หรือดนตรีแขนงอื่นๆเข้ามา เนื่องจากไม่มีกฎตายตัว และมีการทดลองเล่นโดยเปลี่ยนรุปแบบการเล่นไปเรื่อยๆ ทำให้มีการใช้ทักษะการเล่นอย่างมาก สรุปว่า ยากทั้งเล่นและฟัง แต่อย่างไรก็ดี ถึงจะฟังแบบผ่านหูหรือเก็บรายละเอียด ผมว่ามันก็ทำให้ผู้ฟังได้อะไรที่แปลกและแตกต่างโดยมีความเป็นเอกลักษณ์ของ ตัวมันเองอยู่ คนแรกที่ผมจะแนะนำก็ไม่ใช่ที่ไหนนอกเสียจาก Miles Davis นั่นเอง ก็ลองไปฟังกันดูครับสำหรับตำนานศิลปินฟิวชันแจ๊สผิวดำผู้นี้ที่เป็นคนสร้างนักดนตรีฝีมือฉกาจอีกมากมาย และเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักดนตรีฟิวชั่นในยุคต่อมา[/RIGHT]
ถัดจากแจ๊สชั้นครู ก็จะขอนำเสนอวงฟิวชั่นแจ๊สจากญี่ปุ่นวงหน่งซึ่งบางท่านอาจจะรู้จักดีในชื่อ T-Square วงนี้เป็นวงฟิวชั่นที่โด่งดังของญี่ปุ่น (วงที่คล้ายวงนี้ก็คร่าวๆจะมี Side Steps Prism Naniwa Ottotrio เป็นต้น) ส่วนประวัติ ลองอ่านจาก
http://pirun.ku.ac.th/~b4908063/tsquare.htm ดูครับ ด้วยการเล่นของวงที่มีเอกลักษณ์ ทำให้ฟิวชั่นแจ๊สสไตล์ญี่ปุ่นเป้นที่รู้จักกันในหมู่ฝรั่งเรียกได้ว่าพอฟังปุ๊ปจะรู้ปั๊ปเลยว่าเป็นวงจากญี่ปุ่น เพราะดนตรีร๊อคของญี่ปุ่นเองก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยุ่แล้ว เมื่อบวกกับแจ๊ส ก็ทำให้เกิดสำเนียงที่โดดเด่นออกมา วงน้จึงเป้นแรงบันดาลใจของวงแจ๊สญี่ปุ่นหลายๆวงทีเดียว โดยเฉพาะ
หัวหน้าวงที่เล่นแซกโซโฟนด้วยสำเนียงที่ยอดเยี่ยมตามด้วยลูกทีมที่ฝีมือเยี่ยมไม่แพ้กัน เพลงของวงนี้ก็นำไปใช้ประกอบโฆษณาบ้าง และนำไปทำเพลงการ์ตูนบ้าง เห็นได้ว่าเป็นที่นิมของผู้ฟังอยุ่ไม่น้อยเลย ประกอบกับการแสดงสดที่น่าประทับใจ (จะมีวงอื่นๆมาแจมบ่อย และโดยเฉพาะหัวหน้าวงเปลี่ยนแซกเป็นว่าเล่นโดยทำเป็นรูปทรงแปลกไม่เหมือนใคร) ชุดหลังๆของพวกเขาจะเน้นร๊อคมากขึ้นคือจะเป็น Fusion Jazz Rock เต็มตัว สิ่งนี้บ่งบอกว่าแม้อายุของวงจะมากแล้ว แต่ความฟิตของนักดนตรีมีแต่จะเพิ่มขึ้นตลอดเวลา จึงอยากให้ลองฟังกันดูครับ (ดูจากใน visitor message ของผมได้ ถ้าผมมาลงเนื้อหาอะไรใหม่ๆ ก็จะไปลงเพลงไว้ที่นี่ครับ)
การนำเอาเครื่องดนตรีไฟฟ้ามาประยุกต์ใช้ในวงดนตรี เพียงแต่ smooth jazz จะทำดนตรีให้เข้าถึงผู้ฟังได้ง่ายยิ่งขึ้นโดยอิงแนวทางเพลงป๊อปเสียส่วนใหญ่ แต่สำหรับคำว่า fusion jazz จริงๆแล้ว
คำนี้ได้อิทธิพลมาจากช่วงปลายยุค 60 กระแสดนตรีร็อกกำลังมาแรง นักดนตรีอย่าง Jimi Hendrix,The Beatles,UFO,Elvis Presley หรือวง hardrock ได้เป็นแรงบัลดาลใจ
ให้กับคนรุ่นใหม่ๆอย่างมากมาย ในขณะนั้นเอง Miles Davis ได้เป็นผู้บุกเบิกดนตรีแขนงนี้ขึ้นโดยการนำเอาเครื่องดนตรีไฟฟ้ามาประสมเข้ากับวงแจ๊สและจำกัดขนาดของวงให้มีนักดนตีน้อยลงพอๆกับวงดนตรีร๊อค เขาตัดสินใจทิ้งเครื่องดนตรีอย่างดับเบิ้ลเบสหรือเปียโน เพื่อนำเอาเครื่องดนตรีอย่างเบสไฟฟ้าหรือคีย์บอร์ดและเขายังนำเอากีต้าร์ไฟฟ้าเข้ามาใช้ในงานด้วย การเล่นของ Miles จะประยุกต์โดยละทิ้งการเล่นแบบสวิงหรือคือการเปลี่ยนคอร์ดไปมาอย่างมากมายเป้นใช้ทางคอร์ดไม่มากและเน้นส่วนของการอิมโพรไวส์เข้าไป จึงทำให้มีอิสระในการเล่นเป็นอย่างยิ่ง ลแะมีนักดนตรีรุ่นหลังได้นำแนวคิดนี้ไปต่อยอดเพื่อสร้างดนตรีในแบบฉบับของตัวเองอีกมากมาย แม้การกระทำของ Miles จะไม่เป็นที่พอใจของนักดนตรีแจ๊สรุ่นเก่านักเพราะหาว่าเขาเป็นตัวทำลายความสวยงามของดนตรีแจ็สที่เคยมี แต่มันก็ทำให้เกิดดนตรีแจ๊สสาขาใหม่ซึ่งถือเป้นสาาหลักสาขาหนึ่งของแจ๊ส เรียกว่ามีส่วนผสมทั้งร๊อคและแจีสเข้าด้วยกัน ทำให้ขยายกลุ่มคนฟังให้มากขึ้นไปอีก ถึงแม้จะมีส่วนผสมของริธึ่มอันหนักหน่วง แต่ก็มีเพลงช้าที่บรรเลงได้อย่างสุขุมนุ่มลึก คือจังหวะจะไม่เหมือนกับเพลงสมูธ แต่มันจะลงลึกไปถึงก้นบึ้งหัวใจมากกว่านั้น ซึ่งหมายความว่าคนฟังต้องเข้าถึงกาารถ่ายทอดบทเพลง
ของนักดนตรีด้วย ดนตรีแนวนี้จะค่อนข้างฟังยากและเล่นยาก กล่าวคือจะมีการงัดเทคนิคแปลกๆซึ่งผสมผสานระหว่างร๊อค แจ๊ส บลูส์ โซล ฟังก์ หรือดนตรีแขนงอื่นๆเข้ามา เนื่องจากไม่มีกฎตายตัว และมีการทดลองเล่นโดยเปลี่ยนรุปแบบการเล่นไปเรื่อยๆ ทำให้มีการใช้ทักษะการเล่นอย่างมาก สรุปว่า ยากทั้งเล่นและฟัง แต่อย่างไรก็ดี ถึงจะฟังแบบผ่านหูหรือเก็บรายละเอียด ผมว่ามันก็ทำให้ผู้ฟังได้อะไรที่แปลกและแตกต่างโดยมีความเป็นเอกลักษณ์ของ ตัวมันเองอยู่ คนแรกที่ผมจะแนะนำก็ไม่ใช่ที่ไหนนอกเสียจาก Miles Davis นั่นเอง ก็ลองไปฟังกันดูครับสำหรับตำนานศิลปินฟิวชันแจ๊สผิวดำผู้นี้ที่เป็นคนสร้างนักดนตรีฝีมือฉกาจอีกมากมาย และเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักดนตรีฟิวชั่นในยุคต่อมา[/RIGHT]
ถัดจากแจ๊สชั้นครู ก็จะขอนำเสนอวงฟิวชั่นแจ๊สจากญี่ปุ่นวงหน่งซึ่งบางท่านอาจจะรู้จักดีในชื่อ T-Square วงนี้เป็นวงฟิวชั่นที่โด่งดังของญี่ปุ่น (วงที่คล้ายวงนี้ก็คร่าวๆจะมี Side Steps Prism Naniwa Ottotrio เป็นต้น) ส่วนประวัติ ลองอ่านจาก
http://pirun.ku.ac.th/~b4908063/tsquare.htm ดูครับ ด้วยการเล่นของวงที่มีเอกลักษณ์ ทำให้ฟิวชั่นแจ๊สสไตล์ญี่ปุ่นเป้นที่รู้จักกันในหมู่ฝรั่งเรียกได้ว่าพอฟังปุ๊ปจะรู้ปั๊ปเลยว่าเป็นวงจากญี่ปุ่น เพราะดนตรีร๊อคของญี่ปุ่นเองก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยุ่แล้ว เมื่อบวกกับแจ๊ส ก็ทำให้เกิดสำเนียงที่โดดเด่นออกมา วงน้จึงเป้นแรงบันดาลใจของวงแจ๊สญี่ปุ่นหลายๆวงทีเดียว โดยเฉพาะ
หัวหน้าวงที่เล่นแซกโซโฟนด้วยสำเนียงที่ยอดเยี่ยมตามด้วยลูกทีมที่ฝีมือเยี่ยมไม่แพ้กัน เพลงของวงนี้ก็นำไปใช้ประกอบโฆษณาบ้าง และนำไปทำเพลงการ์ตูนบ้าง เห็นได้ว่าเป็นที่นิมของผู้ฟังอยุ่ไม่น้อยเลย ประกอบกับการแสดงสดที่น่าประทับใจ (จะมีวงอื่นๆมาแจมบ่อย และโดยเฉพาะหัวหน้าวงเปลี่ยนแซกเป็นว่าเล่นโดยทำเป็นรูปทรงแปลกไม่เหมือนใคร) ชุดหลังๆของพวกเขาจะเน้นร๊อคมากขึ้นคือจะเป็น Fusion Jazz Rock เต็มตัว สิ่งนี้บ่งบอกว่าแม้อายุของวงจะมากแล้ว แต่ความฟิตของนักดนตรีมีแต่จะเพิ่มขึ้นตลอดเวลา จึงอยากให้ลองฟังกันดูครับ (ดูจากใน visitor message ของผมได้ ถ้าผมมาลงเนื้อหาอะไรใหม่ๆ ก็จะไปลงเพลงไว้ที่นี่ครับ)
Comment