Tweet
ความรู้ตลับหมึก HP 02 Refillable Cartridges
สำหรับคนที่ใช้ Hp 02 แล้วต้องการทางเลือกในการประหยัดหมึกนะครับ รุ่นนี้หาของยากมากเพราะไม่นิยมนำมาติดแทงค์กัน แต่ผมมีอีกทางเลือกนึงซึ่งอาจจะยุ่งยากตรงหาซื้อ แต่หลังจากลองใช้ดูแล้วก็ไม่พบปัญหาใดๆ (อยากได้ของดีต้องพยายาม)
Refillable Cartridge หมายถึง ตลับหมึกที่สามารถเติมหมึกได้ไม่จำกัด โดยแต่ละรุ่นก็จะมีลักษณะที่แตกต่างกันไป จะขออธิบายเฉพาะรุ่น HP 02 (Hewlett Packard) นะครับ เพราะว่าผมเป็นคนนึงที่ใช้รุ่นนี้อยู่แต่หาข้อมูลการติดตั้งแทงก์ หรือเติมหมึกทั่วไป ตามหน้า Google ไม่ค่อยเจอจึงนำมาบอกต่อสำหรับคนที่ใช้ตลับประเภทนี้อยู่
ตลับแท้ Hp02 มีทั้งหมด 6 สีด้วยกัน ตลับสีดำราคาประมาณ 450 บาท ส่วนสีอื่นๆ 350 บาท รวมทั้งชุดนี่ 2 พันกว่าๆ ถือว่าหนักเอาการสำหรับการเติมหมึกแต่ละที เติม 1 ชุด ได้เครื่องปริ๊นติดแทงถูกๆ 1 เครื่อง
หน้าตาเจ้า HP 02 ตลับสีแท้ ดูดีๆจะเห็นว่า Product of Malaysia โอ้ว!! นอกจากจะแพงเกินเหตุยังเป็นการส่งเงินออกนอกประเทศด้วยหรือนี่
ไม่มีหัวพิมพ์ติดที่ตลับ เป็นการใช้ระบบแรงดันดันที่ช่องบนอัดอากาศให้สีไหลออกที่ช่องล่าง ส่วนชิบที่ติดอยู่ด้านหลังเป็นระบบการป้องกันการนำกลับมาใช้ใหม่ สำหรับตลับสีดำถ้าหมึกหมดแล้วหรือจำนวนหน้าที่เราพิมพ์ถึงลิมิตที่กำหนดไว้(จำไม่ได้ว่ากี่พันหน้า) มันจะไม่สามารถนำตลับนั้นๆกลับมาใช้ได้อีก ส่วนตลับสีมันจะไม่มีหน้ากำหนดไว้ ในเว็บยูทูบของฝรั่งมีการบอกไว้ว่าตลับดำไม่สามารถเติมได้เพราะได้จำกัดจำนวนลิมิตของกระดาษที่พิมพ์ได้แต่ตลับสีสามารถเติมได้โดยการเจาะรูที่ตลับแล้วเติมสีลงไป แต่การเติมสีต้องเติมขณะที่สียังไม่หมดตลับ เพราะตัวเครื่องมันสามารถจำรหัสในชิบว่าตลับไหนสีหมดไปแล้ว อันนี้ผมไม่เคยลองทำนะครับ ผมเลือกที่จะซื้อแบบ refillable cartridges แทน
อันนี้ Link สำหรับเติมตลับแท้นะ http://www.youtube.com/watch?v=5BHr1Xxiuo4
ทีนี้เรามาดูเจ้า HP 02 refillable กันซะหน่อย ว่ามันมีหน้าตาและคุณสมบัติอย่างไรบ้าง
Jada !!!!
คุณสมบัติที่เห็นได้ชัดคือมีช่องเปิดปิดด้านหน้าตัวหมึกให้สามารถเติมหมึกได้ง่าย แถมยังใช้อคีลิคใสให้สามารถมองเห็นปริมาณหมึกที่เหลืออยู่ นอกจากนี้ตัว Chip ยังเป็นแบบ Unlimited คือ จะถอดเข้าถอดออกอย่างไรก็ได้ สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ตลอดเวลา จริงๆที่ต้องการก็คือตัว Chip นี่แหละ ถ้าตลับเสียหายก็สามารถถอด Chip ไปติดกับตลับแท้ได้แล้วก็เจาะรูเติมเอา
หลังจากค้นคว้าหาความรู้กันแล้วก็ถึงเวลาหาซื้อของ อย่างที่บอกว่ารุ่นนี้ไม่นิยมนำมาติดแทงกันเพราะใช้ตลับสีมากถึง 6 ตลับ (เป็นรุ่น Photo Smart นินาก็ต้องยอม) เลยไปลองหาดูใน Google ดูปรากฏว่ายังพอมีบ้างที่นำรุ่นนี้มาติดตั้งแท๊งราคาแค่ค่าตลับ+แทงนี่ปาไป 2500 จริงๆผมไม่เกี่ยงราคาเท่าไหร่ แต่ว่าต้องลองหาทางเลือกอื่นๆ หลังจากนั้นก็พยายามหาคนขายในบ้านเราซึ่งก็พอมีประกาศขายอยู่บ้างแต่ว่าเลิกขายกันไปแล้ว(สงสัยคนใช้รุ่นนี้น้อย) แล้วก็ไปเจอเว็ปไซด์ที่เกี่ยวกับ ชมรมคนใช้ตลับ hp 02 โอ้ว แบบนี้ก็มีด้วย (ตอนนี้เว็ปเค้าเข้าไม่ได้ไม่รู้ว่าเป็นอะไร) เค้าบอกว่าสั่งซื้อ Refillable ทาง Ebay สั่งตรงมาจากสหรัฐอเมริกา ตอนแรกเราก็มองว่ายุ่งยากพอสมควรต้องสมัคร Paypal อะไรอีก แต่ว่าต้องจำยอมเพราะว่าเสียค่าตลับแท้ไปเป็นหมื่นแล้วอ่ะ (ซื้อมาราวๆ 5 ชุดได้ ชุดละ 2200 รวมแล้วราวๆ 12000) อยากประหยัดบ้างต้องยอม ใช้เวลา 3 วันในการสมัครทุกอย่าง (1. พอดีมี ออมทรัพย์ของกสิกรเลยไปสมัคร K-web Shopping card เพิ่มเพื่อซื้อของในเว็ปได้ 2.สมัคร PayPal 3.สมัคร Ebay)
เสร็จแล้วก็เข้าไปค้นหาคนขายสัญชาติอเมริกาตามที่คนในชมรมบอก ตามลิงค์
http://cgi.ebay.com/6pk-ink-for-HP-0...3A2%7C294%3A50
ลองเมล์ไปถามเค้าดูว่าค่าส่งของมาที่เมืองไทยคิดเท่าไหร่ ปรากฏว่าเค้าตอบกลับมาว่า "Sorry, We do not ship to Thailand." โอ้ว!! แล้วทำไมคนในเว็ปนั้นซื้อได้ คนอเมริกามันมีกี่มาตรฐานกันแน่(ล้อเล่น จริงๆแล้วเค้าแปะราคาขนส่งมาเมืองไทยติดไว้แต่ตอนนั้นยังดูไม่เป็น ถ้าไม่เมล์ไปถามก่อนแล้วเราคลิ้กซื้อมันก็คงส่งให้แหละ เพราะตามมารยาทถ้าคนขายเลือกว่าจะส่งเมืองไทยไว้พอคนซื้อๆแล้วก็ควรส่งอ่ะไม่งั้นโดน Negative Feedback ได้ง่ายๆ แต่ผมดันไปเมล์ถามมัน พอมันเห็นว่าไกลก็เลยขี้เกียจส่งละมั้ง)
แต่ยังไม่ย่อท้อพยายามหาเจ้าอื่นที่น่าเชื่อถือ+ถูกสุด แล้วก็ไปเจอคนฮ่องกงขายอยู่ อัตราน่าเชื่อถือมาก (Positive Feedback 99.7% + แถมขายของมาเป็นพันชิ้นละ) แถมถูกสุดในเว็ปด้วย ราคาของ 17.99 เหรียญ = 630 บาท ค่าส่งมาเมืองไทย 12 เหรียญ = 420 บาท รวมแล้ว 1050 บาท เลยตัดสินใจสั่งของไป ตามลิงค์นี้นะลองดู http://cgi.ebay.com/Refillable-Cartr...3A1%7C294%3A50 ใครหา ได้ถูกกว่านี้ก็ลองดูนะ หรือใครไม่ใช้รุ่น Hp02 แล้วหาซื้อตลับเติมในไทยไม่ได้ก็ลองเข้าไปหาดูได้ แต่ต้องเลือกซื้อจากคนที่น่าเชื่อถือนะ พวกเปอร์เซ็นต์ตอบรับ 98%up ยิ่ง 99 ได้ยิ่งดี
หลังจากสั่งซื้อไป 7 วัน ของก็มาถึงบ้าน TaDa !! ประกอบไปด้วย 6 ตลับ + เข็ม 6 หลอด
จากนั้นก็ค้นคว้าหาหมึกว่าจะใช้หมึกยี่ห้อไหนดีมาเติม ตาม Google เว็ปอีกนั้นแหละ สรุป Comax แพงแต่ดี เราก็ไปถอยมา ขวดละ 250 บาท 110 ml ตลับ 02 สีจุได้ 10 ml ดังนั้นเติมได้ 11 ครั้ง
จากนั้นก็เริ่มเติมหมึกกันเรยดึกว่า ขั้นตอนไม่มีไรมาก เปิดจุก เติมสี ปิดจุก จบ!! เวลาเติมก็ไม่ต้องให้เต็มตลับชนิดหาอากาศในตลับไม่ได้เลยนะ เอา 10 ml ก็พอ ให้เหลืออากาศในตลับเพราะว่ารูด้านบนตลับมันต้องอัดอากาศเข้ามาอยู่แล้วเวลาจะพิมพ์
ข้อดีของ Comax คือ ขนาดเม็ดอนุภาคหมึกมันเล็ก 1พิโคลิตร ปัญหาการตันจึงเป็นไปได้น้อยมาก แต่ข้อเสียคือ มันไม่ผลิตหมึก สีฟ้าอ่อน กับสีแดงอ่อน สำหรับ HP นี่สิ มีแต่ของ Epson บางคนเค้าบอกใช้ปนกันไปเลยได้ แต่ผมไม่ใช้เพราะกลัวสีเพี้ยน พอดีพี่ผมทำงานเกี่ยวกับพวกกราฟฟิคด้วย งานที่ปริ้นมาจะเพี้ยนไม่ได้ แต่ก็มียี่ห้ออื่นนะที่ผลิตออกมาครบเลยสำหรับ HP แต่ไว้คราวหลังจะเอามาลองละกัน (ตันไม่กลัวกลัวเพี้ยนมากกว่า เพราะ HP D6160 PhotoSmart หัวพิมพ์มันเป็นระบบความร้อน แถมสามารถล้างหัวพิมพ์ได้ในตัว พวกตันจึงไม่ค่อยมี) ตอนนี้สีอ่อนเลยใช้ดูดเอาจากตลับแท้ไปก่อน พอดีซื้อค้างมาไว้ 1 ตลับ เลยเอามาดูดสีออกซะ 55+
เวลาดูดก็จิ้มเข็มไปที่รูบนด้วยเพราะว่า เราดูดน้ำออกมันจะกลายเป็นสุญญากาศด้านในทำให้ดูดออกยาก เลยต้องเอาอากาศเข้าไปแทนที่
จริงๆอยากรู้มานานละว่าทำไมสีมันถึงหมดเร็วจัง จริงๆมีสีในตลับกี่ ml กันแน่ ดูดออกมาปรากฏว่า ราวๆ 9 ml โอเคเลย HP เค้าก็ไม่ได้หลอกใส่สีมาครึ่งเดียว อิอิ
เอามาใส่ตลับใสซะ
ที่ต้องดูดจากตลับแท้มาใส่ตลับสีใส ทำไมไม่ใส่ตลับแท้ลงไปปนเลย เพราะว่าลองใส่ แท้+ปลอม ปนกันแล้วมันกลับใช้ไม่ได้แฮะ หรือว่าตอนเปลี่ยนตลับทำผิดขั้นตอนก็ไม่รู้อ่ะ เพราะเค้าบอกให้ปิดเครื่องก่อนเปลี่ยนไม่งั้นมันจะจำรหัสชิบไว้แล้ว พอผมถอดของแท้ออกใส่ของปลอม แล้วเอาของแท้มาใส่อีกทีมันกลับฟ้องว่าตลับแท้หมึกหมดไปแล้ว ทั้งๆที่เพิ่งแกะมาจากห่อเลย เลยต้องดูดออกมาใส่ตลับใส แล้วใช้ตลับใสทั้งชุด
ตลับใสจะถอดกี่รอบใส่กี่รอบก็ยังใช้ได้ แต่มันจะฟ้องว่าหมึกเต็มตลอด ไม่เป็นปัญหาเพราะตลับมันใสหนิ เราดูเอาก็ได้ว่าหมดหรือยัง
เสร็จทุกสีแล้วก็ใส่เครื่องรอทดสอบ อิอิ สีดำยังไม่ได้เติม Comax ให้เต็มเพราะว่ายังมีสีค้างในตลับแท้อันเก่า เรยดูดมาใช้ก่อน
เหนื่อยอีกละพักก่อน เด๋วพรุ่งนี้จะลองเอาผลการพิมพ์มาให้ดูกัน
ละก็จะมาสรุปว่ายอมเหนื่อยไปขนาดนี้แล้วคุ้มไม๊? ราคาต่อตลับหลังจากเปลี่ยนแล้วเหลือเท่าไหร่
ขออนุญาตไปดู Hong Gil Dong ก่อน 55+
Refillable Cartridge หมายถึง ตลับหมึกที่สามารถเติมหมึกได้ไม่จำกัด โดยแต่ละรุ่นก็จะมีลักษณะที่แตกต่างกันไป จะขออธิบายเฉพาะรุ่น HP 02 (Hewlett Packard) นะครับ เพราะว่าผมเป็นคนนึงที่ใช้รุ่นนี้อยู่แต่หาข้อมูลการติดตั้งแทงก์ หรือเติมหมึกทั่วไป ตามหน้า Google ไม่ค่อยเจอจึงนำมาบอกต่อสำหรับคนที่ใช้ตลับประเภทนี้อยู่
ตลับแท้ Hp02 มีทั้งหมด 6 สีด้วยกัน ตลับสีดำราคาประมาณ 450 บาท ส่วนสีอื่นๆ 350 บาท รวมทั้งชุดนี่ 2 พันกว่าๆ ถือว่าหนักเอาการสำหรับการเติมหมึกแต่ละที เติม 1 ชุด ได้เครื่องปริ๊นติดแทงถูกๆ 1 เครื่อง
หน้าตาเจ้า HP 02 ตลับสีแท้ ดูดีๆจะเห็นว่า Product of Malaysia โอ้ว!! นอกจากจะแพงเกินเหตุยังเป็นการส่งเงินออกนอกประเทศด้วยหรือนี่
ไม่มีหัวพิมพ์ติดที่ตลับ เป็นการใช้ระบบแรงดันดันที่ช่องบนอัดอากาศให้สีไหลออกที่ช่องล่าง ส่วนชิบที่ติดอยู่ด้านหลังเป็นระบบการป้องกันการนำกลับมาใช้ใหม่ สำหรับตลับสีดำถ้าหมึกหมดแล้วหรือจำนวนหน้าที่เราพิมพ์ถึงลิมิตที่กำหนดไว้(จำไม่ได้ว่ากี่พันหน้า) มันจะไม่สามารถนำตลับนั้นๆกลับมาใช้ได้อีก ส่วนตลับสีมันจะไม่มีหน้ากำหนดไว้ ในเว็บยูทูบของฝรั่งมีการบอกไว้ว่าตลับดำไม่สามารถเติมได้เพราะได้จำกัดจำนวนลิมิตของกระดาษที่พิมพ์ได้แต่ตลับสีสามารถเติมได้โดยการเจาะรูที่ตลับแล้วเติมสีลงไป แต่การเติมสีต้องเติมขณะที่สียังไม่หมดตลับ เพราะตัวเครื่องมันสามารถจำรหัสในชิบว่าตลับไหนสีหมดไปแล้ว อันนี้ผมไม่เคยลองทำนะครับ ผมเลือกที่จะซื้อแบบ refillable cartridges แทน
อันนี้ Link สำหรับเติมตลับแท้นะ http://www.youtube.com/watch?v=5BHr1Xxiuo4
ทีนี้เรามาดูเจ้า HP 02 refillable กันซะหน่อย ว่ามันมีหน้าตาและคุณสมบัติอย่างไรบ้าง
Jada !!!!
คุณสมบัติที่เห็นได้ชัดคือมีช่องเปิดปิดด้านหน้าตัวหมึกให้สามารถเติมหมึกได้ง่าย แถมยังใช้อคีลิคใสให้สามารถมองเห็นปริมาณหมึกที่เหลืออยู่ นอกจากนี้ตัว Chip ยังเป็นแบบ Unlimited คือ จะถอดเข้าถอดออกอย่างไรก็ได้ สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ตลอดเวลา จริงๆที่ต้องการก็คือตัว Chip นี่แหละ ถ้าตลับเสียหายก็สามารถถอด Chip ไปติดกับตลับแท้ได้แล้วก็เจาะรูเติมเอา
หลังจากค้นคว้าหาความรู้กันแล้วก็ถึงเวลาหาซื้อของ อย่างที่บอกว่ารุ่นนี้ไม่นิยมนำมาติดแทงกันเพราะใช้ตลับสีมากถึง 6 ตลับ (เป็นรุ่น Photo Smart นินาก็ต้องยอม) เลยไปลองหาดูใน Google ดูปรากฏว่ายังพอมีบ้างที่นำรุ่นนี้มาติดตั้งแท๊งราคาแค่ค่าตลับ+แทงนี่ปาไป 2500 จริงๆผมไม่เกี่ยงราคาเท่าไหร่ แต่ว่าต้องลองหาทางเลือกอื่นๆ หลังจากนั้นก็พยายามหาคนขายในบ้านเราซึ่งก็พอมีประกาศขายอยู่บ้างแต่ว่าเลิกขายกันไปแล้ว(สงสัยคนใช้รุ่นนี้น้อย) แล้วก็ไปเจอเว็ปไซด์ที่เกี่ยวกับ ชมรมคนใช้ตลับ hp 02 โอ้ว แบบนี้ก็มีด้วย (ตอนนี้เว็ปเค้าเข้าไม่ได้ไม่รู้ว่าเป็นอะไร) เค้าบอกว่าสั่งซื้อ Refillable ทาง Ebay สั่งตรงมาจากสหรัฐอเมริกา ตอนแรกเราก็มองว่ายุ่งยากพอสมควรต้องสมัคร Paypal อะไรอีก แต่ว่าต้องจำยอมเพราะว่าเสียค่าตลับแท้ไปเป็นหมื่นแล้วอ่ะ (ซื้อมาราวๆ 5 ชุดได้ ชุดละ 2200 รวมแล้วราวๆ 12000) อยากประหยัดบ้างต้องยอม ใช้เวลา 3 วันในการสมัครทุกอย่าง (1. พอดีมี ออมทรัพย์ของกสิกรเลยไปสมัคร K-web Shopping card เพิ่มเพื่อซื้อของในเว็ปได้ 2.สมัคร PayPal 3.สมัคร Ebay)
เสร็จแล้วก็เข้าไปค้นหาคนขายสัญชาติอเมริกาตามที่คนในชมรมบอก ตามลิงค์
http://cgi.ebay.com/6pk-ink-for-HP-0...3A2%7C294%3A50
ลองเมล์ไปถามเค้าดูว่าค่าส่งของมาที่เมืองไทยคิดเท่าไหร่ ปรากฏว่าเค้าตอบกลับมาว่า "Sorry, We do not ship to Thailand." โอ้ว!! แล้วทำไมคนในเว็ปนั้นซื้อได้ คนอเมริกามันมีกี่มาตรฐานกันแน่(ล้อเล่น จริงๆแล้วเค้าแปะราคาขนส่งมาเมืองไทยติดไว้แต่ตอนนั้นยังดูไม่เป็น ถ้าไม่เมล์ไปถามก่อนแล้วเราคลิ้กซื้อมันก็คงส่งให้แหละ เพราะตามมารยาทถ้าคนขายเลือกว่าจะส่งเมืองไทยไว้พอคนซื้อๆแล้วก็ควรส่งอ่ะไม่งั้นโดน Negative Feedback ได้ง่ายๆ แต่ผมดันไปเมล์ถามมัน พอมันเห็นว่าไกลก็เลยขี้เกียจส่งละมั้ง)
แต่ยังไม่ย่อท้อพยายามหาเจ้าอื่นที่น่าเชื่อถือ+ถูกสุด แล้วก็ไปเจอคนฮ่องกงขายอยู่ อัตราน่าเชื่อถือมาก (Positive Feedback 99.7% + แถมขายของมาเป็นพันชิ้นละ) แถมถูกสุดในเว็ปด้วย ราคาของ 17.99 เหรียญ = 630 บาท ค่าส่งมาเมืองไทย 12 เหรียญ = 420 บาท รวมแล้ว 1050 บาท เลยตัดสินใจสั่งของไป ตามลิงค์นี้นะลองดู http://cgi.ebay.com/Refillable-Cartr...3A1%7C294%3A50 ใครหา ได้ถูกกว่านี้ก็ลองดูนะ หรือใครไม่ใช้รุ่น Hp02 แล้วหาซื้อตลับเติมในไทยไม่ได้ก็ลองเข้าไปหาดูได้ แต่ต้องเลือกซื้อจากคนที่น่าเชื่อถือนะ พวกเปอร์เซ็นต์ตอบรับ 98%up ยิ่ง 99 ได้ยิ่งดี
หลังจากสั่งซื้อไป 7 วัน ของก็มาถึงบ้าน TaDa !! ประกอบไปด้วย 6 ตลับ + เข็ม 6 หลอด
จากนั้นก็ค้นคว้าหาหมึกว่าจะใช้หมึกยี่ห้อไหนดีมาเติม ตาม Google เว็ปอีกนั้นแหละ สรุป Comax แพงแต่ดี เราก็ไปถอยมา ขวดละ 250 บาท 110 ml ตลับ 02 สีจุได้ 10 ml ดังนั้นเติมได้ 11 ครั้ง
จากนั้นก็เริ่มเติมหมึกกันเรยดึกว่า ขั้นตอนไม่มีไรมาก เปิดจุก เติมสี ปิดจุก จบ!! เวลาเติมก็ไม่ต้องให้เต็มตลับชนิดหาอากาศในตลับไม่ได้เลยนะ เอา 10 ml ก็พอ ให้เหลืออากาศในตลับเพราะว่ารูด้านบนตลับมันต้องอัดอากาศเข้ามาอยู่แล้วเวลาจะพิมพ์
ข้อดีของ Comax คือ ขนาดเม็ดอนุภาคหมึกมันเล็ก 1พิโคลิตร ปัญหาการตันจึงเป็นไปได้น้อยมาก แต่ข้อเสียคือ มันไม่ผลิตหมึก สีฟ้าอ่อน กับสีแดงอ่อน สำหรับ HP นี่สิ มีแต่ของ Epson บางคนเค้าบอกใช้ปนกันไปเลยได้ แต่ผมไม่ใช้เพราะกลัวสีเพี้ยน พอดีพี่ผมทำงานเกี่ยวกับพวกกราฟฟิคด้วย งานที่ปริ้นมาจะเพี้ยนไม่ได้ แต่ก็มียี่ห้ออื่นนะที่ผลิตออกมาครบเลยสำหรับ HP แต่ไว้คราวหลังจะเอามาลองละกัน (ตันไม่กลัวกลัวเพี้ยนมากกว่า เพราะ HP D6160 PhotoSmart หัวพิมพ์มันเป็นระบบความร้อน แถมสามารถล้างหัวพิมพ์ได้ในตัว พวกตันจึงไม่ค่อยมี) ตอนนี้สีอ่อนเลยใช้ดูดเอาจากตลับแท้ไปก่อน พอดีซื้อค้างมาไว้ 1 ตลับ เลยเอามาดูดสีออกซะ 55+
เวลาดูดก็จิ้มเข็มไปที่รูบนด้วยเพราะว่า เราดูดน้ำออกมันจะกลายเป็นสุญญากาศด้านในทำให้ดูดออกยาก เลยต้องเอาอากาศเข้าไปแทนที่
จริงๆอยากรู้มานานละว่าทำไมสีมันถึงหมดเร็วจัง จริงๆมีสีในตลับกี่ ml กันแน่ ดูดออกมาปรากฏว่า ราวๆ 9 ml โอเคเลย HP เค้าก็ไม่ได้หลอกใส่สีมาครึ่งเดียว อิอิ
เอามาใส่ตลับใสซะ
ที่ต้องดูดจากตลับแท้มาใส่ตลับสีใส ทำไมไม่ใส่ตลับแท้ลงไปปนเลย เพราะว่าลองใส่ แท้+ปลอม ปนกันแล้วมันกลับใช้ไม่ได้แฮะ หรือว่าตอนเปลี่ยนตลับทำผิดขั้นตอนก็ไม่รู้อ่ะ เพราะเค้าบอกให้ปิดเครื่องก่อนเปลี่ยนไม่งั้นมันจะจำรหัสชิบไว้แล้ว พอผมถอดของแท้ออกใส่ของปลอม แล้วเอาของแท้มาใส่อีกทีมันกลับฟ้องว่าตลับแท้หมึกหมดไปแล้ว ทั้งๆที่เพิ่งแกะมาจากห่อเลย เลยต้องดูดออกมาใส่ตลับใส แล้วใช้ตลับใสทั้งชุด
ตลับใสจะถอดกี่รอบใส่กี่รอบก็ยังใช้ได้ แต่มันจะฟ้องว่าหมึกเต็มตลอด ไม่เป็นปัญหาเพราะตลับมันใสหนิ เราดูเอาก็ได้ว่าหมดหรือยัง
เสร็จทุกสีแล้วก็ใส่เครื่องรอทดสอบ อิอิ สีดำยังไม่ได้เติม Comax ให้เต็มเพราะว่ายังมีสีค้างในตลับแท้อันเก่า เรยดูดมาใช้ก่อน
เหนื่อยอีกละพักก่อน เด๋วพรุ่งนี้จะลองเอาผลการพิมพ์มาให้ดูกัน
ละก็จะมาสรุปว่ายอมเหนื่อยไปขนาดนี้แล้วคุ้มไม๊? ราคาต่อตลับหลังจากเปลี่ยนแล้วเหลือเท่าไหร่
ขออนุญาตไปดู Hong Gil Dong ก่อน 55+
Comment