Tweet
เตือนครั้งสุดท้าย12ก.ค.นี้ ผู้ใช้ 'วิส ต้า' ปลอมระวังจอดำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย. 2550 เป็นต้นไป บริษัท ไมโครซอฟต์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำระดับโลกด้านการบริการซอฟต์แวร์ ประกาศจะเริ่มใช้โปรแกรม Reduced Mode หรือ RFM จัดการกับการใช้งานซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ ทั้งนี้ โปรแกรม RFM เป็นโปรแกรมที่เกิดจากการอัพเดทอัตโนมัติของไมโครซอฟท์ที่จะมีผลกระทบกับผู้ใช้งานซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ โดยจะมีข้อความเตือนให้ผู้ใช้งานทราบก่อนล่วงหน้า 30 วัน ถึงสถานะของซอฟต์แวร์ว่า เป็นซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ และเปิดโอกาสให้เจ้าของได้ปรับเปลี่ยนมาใช้ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์
นายฐิตกร อุษยาพร ผู้อำนวยการด้านโออีเอ็ม บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไมโครซอฟท์ตระหนักดีว่า ผู้ใช้งานซอฟต์แวร์ที่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์มีความต้องการที่จะใช้ศักยภาพอย่างเต็มเปี่ยมจากซอฟต์แวร์ที่ลงทุนไป เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับการดำเนินธุรกิจ และการใช้งานรูปแบบอื่นๆ ที่ไมโครซอฟท์ได้พัฒนาประสิทธิภาพมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งผลิตภัณฑ์ไมโครซอฟท์วินโดวส์วิสต้า ดังนั้น โปรแกรม RFM นี้ จะให้ประโยชน์อย่างแท้จริงกับผู้ที่ต้องการใช้งานซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ที่อาจตกเป็นเหยื่อของการใช้งานของละเมิดลิขสิทธิ์โดยไม่รู้ตัว
ผู้อำนวยการด้านโออีเอ็ม บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) ผู้อำนวยการด้านโออีเอ็ม บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) กล่าวต่อว่า ไมโครซอฟท์จำเป็นจะต้องดำเนินการเพื่อปกป้องสิทธิ์ประโยชน์ของผู้ใช้งานซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ เพราะมีลูกค้าจำนวนมากที่ต้องการใช้งานซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ แต่ขาดความรู้ถึงวิธีการแยกแยะ ทำให้ตกเป็นเหยื่อการละเมิดลิขสิทธิ์โดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ ยังเป็นการรักษาประโยชน์ของบรรดาคู่ค้าที่จำหน่ายซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ ที่ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ระบบนิเวศน์ของอุตสาหกรรมแข็งแกร่งและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
นายฐิตกร กล่าวอีกว่า หลังจากโปรแกรม RFM เริ่มมีผลใช้งานในวันที่ 12 มิ.ย. 2550 เป็นต้นไป ผู้ใช้งานวินโดวส์ วิสต้าละเมิดลิขสิทธิ์จะพบว่า โปรแกรม RFM จะแสดงข้อความเตือนว่า ซอฟต์แวร์ที่กำลังใช้งานอยู่นั้นเป็นซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ พร้อมแจ้งให้ผู้ใช้เข้าไปซื้อซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ผ่านระบบออนไลน์ โดยจะแจ้งเตือนเป็นระยะๆ ภายใน 30 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงไปใช้งานซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ แต่หลังจาก 30 วัน แล้วหากยังไม่ติดตั้งซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ผู้ใช้จะไม่สามารถใช้งานโปแกรมต่างๆ รวมทั้งเข้าถึงข้อมูลภายในเครื่อง ยกเว้นโปรแกรมอินเทอร์เน็ต เอ็กซ์โพเลอร์
จาก ไทยรัฐ ครับ
**เอาอีกแล้ว**
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย. 2550 เป็นต้นไป บริษัท ไมโครซอฟต์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำระดับโลกด้านการบริการซอฟต์แวร์ ประกาศจะเริ่มใช้โปรแกรม Reduced Mode หรือ RFM จัดการกับการใช้งานซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ ทั้งนี้ โปรแกรม RFM เป็นโปรแกรมที่เกิดจากการอัพเดทอัตโนมัติของไมโครซอฟท์ที่จะมีผลกระทบกับผู้ใช้งานซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ โดยจะมีข้อความเตือนให้ผู้ใช้งานทราบก่อนล่วงหน้า 30 วัน ถึงสถานะของซอฟต์แวร์ว่า เป็นซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ และเปิดโอกาสให้เจ้าของได้ปรับเปลี่ยนมาใช้ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์
นายฐิตกร อุษยาพร ผู้อำนวยการด้านโออีเอ็ม บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไมโครซอฟท์ตระหนักดีว่า ผู้ใช้งานซอฟต์แวร์ที่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์มีความต้องการที่จะใช้ศักยภาพอย่างเต็มเปี่ยมจากซอฟต์แวร์ที่ลงทุนไป เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับการดำเนินธุรกิจ และการใช้งานรูปแบบอื่นๆ ที่ไมโครซอฟท์ได้พัฒนาประสิทธิภาพมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งผลิตภัณฑ์ไมโครซอฟท์วินโดวส์วิสต้า ดังนั้น โปรแกรม RFM นี้ จะให้ประโยชน์อย่างแท้จริงกับผู้ที่ต้องการใช้งานซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ที่อาจตกเป็นเหยื่อของการใช้งานของละเมิดลิขสิทธิ์โดยไม่รู้ตัว
ผู้อำนวยการด้านโออีเอ็ม บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) ผู้อำนวยการด้านโออีเอ็ม บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) กล่าวต่อว่า ไมโครซอฟท์จำเป็นจะต้องดำเนินการเพื่อปกป้องสิทธิ์ประโยชน์ของผู้ใช้งานซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ เพราะมีลูกค้าจำนวนมากที่ต้องการใช้งานซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ แต่ขาดความรู้ถึงวิธีการแยกแยะ ทำให้ตกเป็นเหยื่อการละเมิดลิขสิทธิ์โดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ ยังเป็นการรักษาประโยชน์ของบรรดาคู่ค้าที่จำหน่ายซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ ที่ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ระบบนิเวศน์ของอุตสาหกรรมแข็งแกร่งและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
นายฐิตกร กล่าวอีกว่า หลังจากโปรแกรม RFM เริ่มมีผลใช้งานในวันที่ 12 มิ.ย. 2550 เป็นต้นไป ผู้ใช้งานวินโดวส์ วิสต้าละเมิดลิขสิทธิ์จะพบว่า โปรแกรม RFM จะแสดงข้อความเตือนว่า ซอฟต์แวร์ที่กำลังใช้งานอยู่นั้นเป็นซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ พร้อมแจ้งให้ผู้ใช้เข้าไปซื้อซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ผ่านระบบออนไลน์ โดยจะแจ้งเตือนเป็นระยะๆ ภายใน 30 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงไปใช้งานซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ แต่หลังจาก 30 วัน แล้วหากยังไม่ติดตั้งซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ผู้ใช้จะไม่สามารถใช้งานโปแกรมต่างๆ รวมทั้งเข้าถึงข้อมูลภายในเครื่อง ยกเว้นโปรแกรมอินเทอร์เน็ต เอ็กซ์โพเลอร์
จาก ไทยรัฐ ครับ
**เอาอีกแล้ว**
Comment