Tweet
M2vsZAir.jpg
ไหนๆก็เพิ่งได้เจ้า Bose M2 มาหมาดๆ เลยขอพื้นที่ตรงนี้ทำ Mini reviews B&W Zeppelin Air vs Bose M2 เลยล่ะกันครับ เผื่อเพื่อนๆสนใจทั้งสองรุ่นนี้อยู่
ขอออกตัววก่อนเลยนะครับ ว่านี่เป็น review แรกของผม และผมก็ไม่ได้เป็นนักเล่นเครื่องเสียงหูทองมาจากที่ไหน ที่เขียนก็มาจากตามที่ได้ยินตรงๆครับ
ดังนั้นอาจจะผิดพลาดบ้าง ก็ขออภัยมาในที่นี้นะครับ
เริ่มเมื่อวานเพิ่งได้เจ้า M2 มาตัวเป็นๆมาเปิดลองวัดตัวๆกับเจ้า B&W Zeppelin Air ครับ (M2 นี้เบริน์ได้แค่ 10ชม นะครับ)
โดยเปิดเทียบเพลงเดียวกัน อย่างแรกที่สัมผัสๆได้ชัดๆเรื่องแรกเลยคือ บุคลิกเสียต่างกันครับ ต่างกันยังไงไปดูกัน??
B&W Zeppelin Air นั้นมีเบสที่ลงลึกต่ำทุ้มมากกว่า เบสแน่น และเสียงกลางที่หนาอวบ แนวมีมวลอบอุ่น แต่เสียงแหลมนี้ไปไม่ได้ไกลครับเหมือนอับๆ ฟังแล้วเหมือน flatๆ ผมฝั่งผ่าน iTune ต้องปรับ EQ เป็น Treble boot ถึงจะฟังงดูโอเคหน่อย
วันแรกที่เพิ่งได้เจ้า Air มาเนี้ย โห..อยากขายทิ้งเลย เสียงทึบอับ มาก พอ burn ไปสัก 200-300ชม นี้เริ่มโอเคขึ้นมาเยอะเลย
ส่วนเจ้า Bose M2 นี้อย่างแรกเลยคือเสียแหลมที่ฟังดูจัดจ้าน มีประกายมากกว่า รายละเอียดเสียงกรุ้งกริ่งออกมาครบและเด่น เสียงดีดสายกีต้าร์ หรือโน้ตเปียนโนในแต่ละตัวโน๊ต นี้สามารถสังเกตุได้ว่าจะเด่นออกมาเลย ส่วนเสียงกลางถือว่าเด่นมาก ส่วนเบสก็ได้ในย่านไม่ลึกมากแต่ถือว่ากับเพลง POP ทั้วไปถือว่าพอเพียงเลย(ถือว่าดีมากถ้าเทียบกับขนาดตัวลำโพง) แต่ถ้าไปอัดกับเพลง HipHop หรือเพลง Techno ที่มีเสียงเบสสังเคราห์ (ซินธิไซเซอร์) M2 จะลงไปไม่ได้ถึงความถี่ต่ำมากขนาดนั้น
ลองเทียบเพลงแรก
โดยใช้เพลง "ไม่รัก...จำได้" ของ Neko Jump ใช้ bit rate ที่ 320kbps
B&W Zeppelin Air นี้เสียงออกมาครบทุกย่านจะเด่นด้านเสียงกลาง และเบสที่มีมวลนุ่มนวลมีน้ำหนักและลงได้ลึก เสียงนักร้องจะข้างข่างเด่นกว่า M2 ครับ สรุปคือโดยรวมๆแล้วน่าฟังกว่า แต่เรื่องมิติแยก stage ซ้ายขวาหรือชิ้นดนตรีหรือโน๊ตที่เด่นๆออกมา สู้M2ไม่ได้ครับ
M2 เสียงช่วง intro ของงเพลงจะเด่นไปในช่วงเสียงแหลม โดยเฉพาะเสียงเปียนโน และกีต้าร์ แต่จะสู้เจ้าAir ไม่ได้ตอนช่วงเริ่มกลางๆเพลง เนื่องจากเบสและเสียงกลางไปไกล้ได้ไม่ถึง Air แต่ว่า มิติ ดีกว่า รายละเอียดเสียงชิ้นดนตรีฟังได้ชัดเจนกว่าครับ
ทดสอบเพลงที่2 แนว POP
ผมเทสโดยใช้เพลง " ไม่รัก...ไม่ต้อง" ของ นิว&จิ๋ว ไฟล์ที่ 128kpbs
M2 จะให้เสียงแหลมได้ชัดเจนและมีประกายดีมาก ยิ่งช่วงต้นเพลง เสียงเปียนโนและเสียงตีแฉแตกชิ้นเสียงเครื่องดนตรีได้ชัดมาก และหลังจากเริ่มมีเสียงกลองและเบสเล่น ตอนนี้ที่ Air จะทำได้เหนื่อกว่าในเรื่องเสียงโดยรวม
เนื่องจากเพลงนี้อัดเพลงโดยมีเสียงกลองและเบสซึ่งลงได้ค่อนข้างลึก Air จึงฟังดูแล้วได้ความเป็นดนตรีครบมากกว่า ในขณะ M2 เสียงนักร้องเด่นออกมามากๆ และเสียงแหลมเป็นประกายจัดจ้านกว่า Air มากกว่ารวมถึงเรื่องมิติ ซึ่ง Air สู้ไม่ได้เลย
ทดสอบเพลงที่3 มาลองแนว Acoustic POP กันบ้าง
ผมเทสโดยใช้เพลง "ทะเลสีดำ" ของ ลุลา ไฟล์ที่ 128kpbs
เพลงนี้ M2 สามาถแสดงศัยกภาพได้ออกมาแบบเต็มสูบมากๆ ในทุกตัวโน๊ตของช่วงเสียงเกากีต้าร์โปร่งตอนต้นเพลงและเสียงกีตาร์เล่นโน๊ตเสริมช่วงกลางเพลง M2 สามารถแสดงชิ้นดรตรีได้ clear และชัดมากๆ รวมถึงมิติเพลงซ้ายขวา สามารถบอกได้เลยว่าเสียงชิ้นดนตรีชิ้นนั้นมาจากทางไหน
ในขณะที่ Air สังงเกตุได้ว่าเรื่องแยกมิติซ้ายขวาา และชิ้นเสียงโน๊ตของเครื่องงดนตรีนั้นเบลอๆ แบนๆ ไม่สามารถแยกราลยะเอียดเสียงได้เท่ากับ M2
เหมือนเพลงแนว Acoustic หรือ POP ที่เน้นเสียงใสๆเบาๆ จะเป็นเพลงที่เหมาะกับ M2 มากๆ
ทดสอบเพลงที่4 มาลองแนว R&B กันบ้าง
ผมเทสโดยใช้เพลง " BACK AT ONE" ของ BRIAN MCKNIGHT ไฟล์ที่ 128kpbs
เพลงนี้ผลทดสอบชัดเจนมาก คือ M2 แพ้หลุดลุ่ย เนื่องจากเพลงนี้มีส่วนของเสียงเบสค่อนข้างเยอะ และเสียงชิ้นดนตรีหลักก็เป็น grand piano เสียง bass และกลอง ซึ่งเสียงย่านนี้ Air ทำได้ดีมากๆ คืออิ่มหนาอบอุ่น ฟังสบาย
ในขณะ M2 พอไปได้พอใช้ช่วง intro ตอนเดี่ยว Grand piano ก่อนขึ้นเพลงเท่านั้นครับ และหลังจากที่ขึ้นช่วงที่ BRIAN MCKNIGHT เริ่มร้องแล้ว เสียงมันแห้งๆผากๆ ไม่เหมือน Air ที่ทำได้หนานุ่มและน้ำเสียงอบอุ่นฟังสบาย บวกกับเบสที่ M2 แทบจะไม่ค่อยถึงเท่าไร
เปรียบเเทียบภาพให้เห็นง่ายๆคือเสียงของง B&W Air เหมือนคนตัววใหญ่ที่มีกล้ามโตดูมั่งคง แต่เสียงของ M2 นั้นเหมือนคนผอมแต่กระฉับกระเฉง
และผมทดสอบกับเพลง "ON BENDED KNEE" ของ BOY II MEN ซึ่งก็แนวๆ R&B เช่นกัน ผลทดสอบก็ชัดเจนว่า Bose M2 นี้เหมาะกับเพลงประเภท Pop ใสๆสบายๆมากกว่าเพลงแนว R&B หรือ Hip-Hop
และอีกสิ่ที่สัมผัสได้เด่นชัดอีกอย่างนึงของเข้า Bose M2 คือมันเป็นลำโพงที่ "ฟ้อง" มากๆครับ ไฟล์เพลงที่ bit rate หรืออัดมาไม่ดี เสียงพร่าของเสียงกลาง เสียเครือของเบสจะสังเกตุได้ชัดเจนมาก
บางเพลงผมฟังผ่าน Air หลายรอบก็ไม่ได้สังเกตุว่ามันมีเสียงเบสพร่าเครือๆ(ที่แตกคล้ายๆเสียงลำโพงแตก) แต่มาฟัง M2นี้ชัดเลยครับ พอลองเอากลับไปฟังผ่าน Airใหม่อีกรอบ ต้องฟังแบบจับผิดตั้งใจถึงจะฟังออก
สมกับชื่อ Music Monitor จริงๆครับ ไฟล์เสียงดีก็ออกมาดี ไฟล์มาแย่เสียงมาแย่ บางเพลงที่อัดเสียงมาแย่ๆ นี้ฟังแล้วรู้สสึกรำคาญมาก ฟังแล้วเสียงมันหนวกหูจนต้องเปลี่ยนเพลงไปเลยก็เยอะครับ (จริงๆเป็นเพลงที่ผมชอบมากๆซะด้วย)
สรุป
Bose M2 ถือเป็นลำโพงที่ performance เทียบกับขนาดตัวถือว่าเกินตัววไปเยอะมากๆ เด่นในเพลงแนวว Pop ใสๆ เบาๆ หรือเพลงที่เน้นรายละเอียดชิ้นดนตรี แนว Jazz M2จะทำได้ดีขณะเดียวกันเบสถ้าเทียบกับลำโพงขนาดเดียวกันก็ถือว่าไม่ได้ขี้เหล่
แต่ในครั้งนี้เราเอาไปเทียบกับลำโพงที่มี sub มาด้วยในตัววเลยดูเหมือนว่ามันด้อยลงไป
B&W Zeppelin Air จริงๆเป็นลำโพง iPod speaker ซะมากกว่า แต่เนืองจากมันสามารถใช้ Air Play อันแสนสะดวกได้โดยกด streamเพลงผ่าน WIFI บ้าน ส่งเพลงจาก iPad, iPhone, Idevice ทั้งหลาย รวมถึงง iTune ด้วย
ทำให้มันเป็นลำโพงสารพัดประโยชน์และสะดวกมากๆ ลองดิดดูว่าเราตื่นขอนมาเช้าๆงัวเงีย กด iPad สั่งงเปิดเพลงผ่าน AirPlay ได้เลยโดยยังไมต้องลุกจากเตียง หรือก่อนนอนอยากฟังเพลงกล่อมพอง่วงจัดๆก็กดปิดเพลงผ่าน iPhone
เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆครับ ส่วนใครมีคำถามว่าคุณภาพ dropไม้ ผมลอง blind test เทียบกับสาย USB ผลคือแยกไม่ออกครับ อย่าไปเทียบกับ stream ผ่าน Bluetooth นะครับ คุณภาพต่างกันคนละเรื่องงงงงงง
ส่วนคววามเสถียรของสัญญาณ ก็ขึ้นกับ WIFI Router ที่บ้านท่านแล้วว่ามันไปทับ channal กับเพื่อนบ้านท่านเยอะไม้ แต่เท่ที่ผมใช้มา ถือว่าไม่มีกระตุกหรือหลุดให้เห็นเลย
เอาล่ะ เรากลับมาที่ผลการทดสอบกันอีกที ถ้าถามว่าผลการทดสอบนี้ fair ไม้? ผมบอกได้ว่า "ไม่แฟร์" เหมือนเอาพี่บัวขาวไปต่อยกับเฮียไมค์ไทสัน ครับ
เพราะ
1. B&W Zeppelin Air เป็นลำโพง 2.1 มี sub ในตัว แน่นอนที่ว่าเสียงความถี่ต่ำเบสต้องลงได้ลึกมากกว่าอยู่แล้ว
2. B&W Zeppelin Air มีวงจร DAC ในตัวขณะที่ M2 ไม่มีแถม M2ยังเล่นผ่าน notebook ที่เป็น sound card on-board ซะด้วย
3. ขนาด Bose M2 ที่ต่างกับ Air เหมือนขนาดมอเตอร์ไซด์ไปเทียบกับรถตู้ ซึ่งใหญ่กว่าย่อมได้เปรียบกว่าอยู่แล้ว
4. ราคา ที่ต่างกันเกือบ 2เท่ากว่า Bose M2 ราคา $290 ในขณะที่ B&W Zeppelin Air $590 แน่นอนว่ามันมวยคนละพิกัด
IMG_5704.jpg
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเล่นเครื่องงเสียงงนะครับ
ไหนๆก็เพิ่งได้เจ้า Bose M2 มาหมาดๆ เลยขอพื้นที่ตรงนี้ทำ Mini reviews B&W Zeppelin Air vs Bose M2 เลยล่ะกันครับ เผื่อเพื่อนๆสนใจทั้งสองรุ่นนี้อยู่
ขอออกตัววก่อนเลยนะครับ ว่านี่เป็น review แรกของผม และผมก็ไม่ได้เป็นนักเล่นเครื่องเสียงหูทองมาจากที่ไหน ที่เขียนก็มาจากตามที่ได้ยินตรงๆครับ
ดังนั้นอาจจะผิดพลาดบ้าง ก็ขออภัยมาในที่นี้นะครับ
เริ่มเมื่อวานเพิ่งได้เจ้า M2 มาตัวเป็นๆมาเปิดลองวัดตัวๆกับเจ้า B&W Zeppelin Air ครับ (M2 นี้เบริน์ได้แค่ 10ชม นะครับ)
โดยเปิดเทียบเพลงเดียวกัน อย่างแรกที่สัมผัสๆได้ชัดๆเรื่องแรกเลยคือ บุคลิกเสียต่างกันครับ ต่างกันยังไงไปดูกัน??
B&W Zeppelin Air นั้นมีเบสที่ลงลึกต่ำทุ้มมากกว่า เบสแน่น และเสียงกลางที่หนาอวบ แนวมีมวลอบอุ่น แต่เสียงแหลมนี้ไปไม่ได้ไกลครับเหมือนอับๆ ฟังแล้วเหมือน flatๆ ผมฝั่งผ่าน iTune ต้องปรับ EQ เป็น Treble boot ถึงจะฟังงดูโอเคหน่อย
วันแรกที่เพิ่งได้เจ้า Air มาเนี้ย โห..อยากขายทิ้งเลย เสียงทึบอับ มาก พอ burn ไปสัก 200-300ชม นี้เริ่มโอเคขึ้นมาเยอะเลย
ส่วนเจ้า Bose M2 นี้อย่างแรกเลยคือเสียแหลมที่ฟังดูจัดจ้าน มีประกายมากกว่า รายละเอียดเสียงกรุ้งกริ่งออกมาครบและเด่น เสียงดีดสายกีต้าร์ หรือโน้ตเปียนโนในแต่ละตัวโน๊ต นี้สามารถสังเกตุได้ว่าจะเด่นออกมาเลย ส่วนเสียงกลางถือว่าเด่นมาก ส่วนเบสก็ได้ในย่านไม่ลึกมากแต่ถือว่ากับเพลง POP ทั้วไปถือว่าพอเพียงเลย(ถือว่าดีมากถ้าเทียบกับขนาดตัวลำโพง) แต่ถ้าไปอัดกับเพลง HipHop หรือเพลง Techno ที่มีเสียงเบสสังเคราห์ (ซินธิไซเซอร์) M2 จะลงไปไม่ได้ถึงความถี่ต่ำมากขนาดนั้น
ลองเทียบเพลงแรก
โดยใช้เพลง "ไม่รัก...จำได้" ของ Neko Jump ใช้ bit rate ที่ 320kbps
B&W Zeppelin Air นี้เสียงออกมาครบทุกย่านจะเด่นด้านเสียงกลาง และเบสที่มีมวลนุ่มนวลมีน้ำหนักและลงได้ลึก เสียงนักร้องจะข้างข่างเด่นกว่า M2 ครับ สรุปคือโดยรวมๆแล้วน่าฟังกว่า แต่เรื่องมิติแยก stage ซ้ายขวาหรือชิ้นดนตรีหรือโน๊ตที่เด่นๆออกมา สู้M2ไม่ได้ครับ
M2 เสียงช่วง intro ของงเพลงจะเด่นไปในช่วงเสียงแหลม โดยเฉพาะเสียงเปียนโน และกีต้าร์ แต่จะสู้เจ้าAir ไม่ได้ตอนช่วงเริ่มกลางๆเพลง เนื่องจากเบสและเสียงกลางไปไกล้ได้ไม่ถึง Air แต่ว่า มิติ ดีกว่า รายละเอียดเสียงชิ้นดนตรีฟังได้ชัดเจนกว่าครับ
ทดสอบเพลงที่2 แนว POP
ผมเทสโดยใช้เพลง " ไม่รัก...ไม่ต้อง" ของ นิว&จิ๋ว ไฟล์ที่ 128kpbs
M2 จะให้เสียงแหลมได้ชัดเจนและมีประกายดีมาก ยิ่งช่วงต้นเพลง เสียงเปียนโนและเสียงตีแฉแตกชิ้นเสียงเครื่องดนตรีได้ชัดมาก และหลังจากเริ่มมีเสียงกลองและเบสเล่น ตอนนี้ที่ Air จะทำได้เหนื่อกว่าในเรื่องเสียงโดยรวม
เนื่องจากเพลงนี้อัดเพลงโดยมีเสียงกลองและเบสซึ่งลงได้ค่อนข้างลึก Air จึงฟังดูแล้วได้ความเป็นดนตรีครบมากกว่า ในขณะ M2 เสียงนักร้องเด่นออกมามากๆ และเสียงแหลมเป็นประกายจัดจ้านกว่า Air มากกว่ารวมถึงเรื่องมิติ ซึ่ง Air สู้ไม่ได้เลย
ทดสอบเพลงที่3 มาลองแนว Acoustic POP กันบ้าง
ผมเทสโดยใช้เพลง "ทะเลสีดำ" ของ ลุลา ไฟล์ที่ 128kpbs
เพลงนี้ M2 สามาถแสดงศัยกภาพได้ออกมาแบบเต็มสูบมากๆ ในทุกตัวโน๊ตของช่วงเสียงเกากีต้าร์โปร่งตอนต้นเพลงและเสียงกีตาร์เล่นโน๊ตเสริมช่วงกลางเพลง M2 สามารถแสดงชิ้นดรตรีได้ clear และชัดมากๆ รวมถึงมิติเพลงซ้ายขวา สามารถบอกได้เลยว่าเสียงชิ้นดนตรีชิ้นนั้นมาจากทางไหน
ในขณะที่ Air สังงเกตุได้ว่าเรื่องแยกมิติซ้ายขวาา และชิ้นเสียงโน๊ตของเครื่องงดนตรีนั้นเบลอๆ แบนๆ ไม่สามารถแยกราลยะเอียดเสียงได้เท่ากับ M2
เหมือนเพลงแนว Acoustic หรือ POP ที่เน้นเสียงใสๆเบาๆ จะเป็นเพลงที่เหมาะกับ M2 มากๆ
ทดสอบเพลงที่4 มาลองแนว R&B กันบ้าง
ผมเทสโดยใช้เพลง " BACK AT ONE" ของ BRIAN MCKNIGHT ไฟล์ที่ 128kpbs
เพลงนี้ผลทดสอบชัดเจนมาก คือ M2 แพ้หลุดลุ่ย เนื่องจากเพลงนี้มีส่วนของเสียงเบสค่อนข้างเยอะ และเสียงชิ้นดนตรีหลักก็เป็น grand piano เสียง bass และกลอง ซึ่งเสียงย่านนี้ Air ทำได้ดีมากๆ คืออิ่มหนาอบอุ่น ฟังสบาย
ในขณะ M2 พอไปได้พอใช้ช่วง intro ตอนเดี่ยว Grand piano ก่อนขึ้นเพลงเท่านั้นครับ และหลังจากที่ขึ้นช่วงที่ BRIAN MCKNIGHT เริ่มร้องแล้ว เสียงมันแห้งๆผากๆ ไม่เหมือน Air ที่ทำได้หนานุ่มและน้ำเสียงอบอุ่นฟังสบาย บวกกับเบสที่ M2 แทบจะไม่ค่อยถึงเท่าไร
เปรียบเเทียบภาพให้เห็นง่ายๆคือเสียงของง B&W Air เหมือนคนตัววใหญ่ที่มีกล้ามโตดูมั่งคง แต่เสียงของ M2 นั้นเหมือนคนผอมแต่กระฉับกระเฉง
และผมทดสอบกับเพลง "ON BENDED KNEE" ของ BOY II MEN ซึ่งก็แนวๆ R&B เช่นกัน ผลทดสอบก็ชัดเจนว่า Bose M2 นี้เหมาะกับเพลงประเภท Pop ใสๆสบายๆมากกว่าเพลงแนว R&B หรือ Hip-Hop
และอีกสิ่ที่สัมผัสได้เด่นชัดอีกอย่างนึงของเข้า Bose M2 คือมันเป็นลำโพงที่ "ฟ้อง" มากๆครับ ไฟล์เพลงที่ bit rate หรืออัดมาไม่ดี เสียงพร่าของเสียงกลาง เสียเครือของเบสจะสังเกตุได้ชัดเจนมาก
บางเพลงผมฟังผ่าน Air หลายรอบก็ไม่ได้สังเกตุว่ามันมีเสียงเบสพร่าเครือๆ(ที่แตกคล้ายๆเสียงลำโพงแตก) แต่มาฟัง M2นี้ชัดเลยครับ พอลองเอากลับไปฟังผ่าน Airใหม่อีกรอบ ต้องฟังแบบจับผิดตั้งใจถึงจะฟังออก
สมกับชื่อ Music Monitor จริงๆครับ ไฟล์เสียงดีก็ออกมาดี ไฟล์มาแย่เสียงมาแย่ บางเพลงที่อัดเสียงมาแย่ๆ นี้ฟังแล้วรู้สสึกรำคาญมาก ฟังแล้วเสียงมันหนวกหูจนต้องเปลี่ยนเพลงไปเลยก็เยอะครับ (จริงๆเป็นเพลงที่ผมชอบมากๆซะด้วย)
สรุป
Bose M2 ถือเป็นลำโพงที่ performance เทียบกับขนาดตัวถือว่าเกินตัววไปเยอะมากๆ เด่นในเพลงแนวว Pop ใสๆ เบาๆ หรือเพลงที่เน้นรายละเอียดชิ้นดนตรี แนว Jazz M2จะทำได้ดีขณะเดียวกันเบสถ้าเทียบกับลำโพงขนาดเดียวกันก็ถือว่าไม่ได้ขี้เหล่
แต่ในครั้งนี้เราเอาไปเทียบกับลำโพงที่มี sub มาด้วยในตัววเลยดูเหมือนว่ามันด้อยลงไป
B&W Zeppelin Air จริงๆเป็นลำโพง iPod speaker ซะมากกว่า แต่เนืองจากมันสามารถใช้ Air Play อันแสนสะดวกได้โดยกด streamเพลงผ่าน WIFI บ้าน ส่งเพลงจาก iPad, iPhone, Idevice ทั้งหลาย รวมถึงง iTune ด้วย
ทำให้มันเป็นลำโพงสารพัดประโยชน์และสะดวกมากๆ ลองดิดดูว่าเราตื่นขอนมาเช้าๆงัวเงีย กด iPad สั่งงเปิดเพลงผ่าน AirPlay ได้เลยโดยยังไมต้องลุกจากเตียง หรือก่อนนอนอยากฟังเพลงกล่อมพอง่วงจัดๆก็กดปิดเพลงผ่าน iPhone
เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆครับ ส่วนใครมีคำถามว่าคุณภาพ dropไม้ ผมลอง blind test เทียบกับสาย USB ผลคือแยกไม่ออกครับ อย่าไปเทียบกับ stream ผ่าน Bluetooth นะครับ คุณภาพต่างกันคนละเรื่องงงงงงง
ส่วนคววามเสถียรของสัญญาณ ก็ขึ้นกับ WIFI Router ที่บ้านท่านแล้วว่ามันไปทับ channal กับเพื่อนบ้านท่านเยอะไม้ แต่เท่ที่ผมใช้มา ถือว่าไม่มีกระตุกหรือหลุดให้เห็นเลย
เอาล่ะ เรากลับมาที่ผลการทดสอบกันอีกที ถ้าถามว่าผลการทดสอบนี้ fair ไม้? ผมบอกได้ว่า "ไม่แฟร์" เหมือนเอาพี่บัวขาวไปต่อยกับเฮียไมค์ไทสัน ครับ
เพราะ
1. B&W Zeppelin Air เป็นลำโพง 2.1 มี sub ในตัว แน่นอนที่ว่าเสียงความถี่ต่ำเบสต้องลงได้ลึกมากกว่าอยู่แล้ว
2. B&W Zeppelin Air มีวงจร DAC ในตัวขณะที่ M2 ไม่มีแถม M2ยังเล่นผ่าน notebook ที่เป็น sound card on-board ซะด้วย
3. ขนาด Bose M2 ที่ต่างกับ Air เหมือนขนาดมอเตอร์ไซด์ไปเทียบกับรถตู้ ซึ่งใหญ่กว่าย่อมได้เปรียบกว่าอยู่แล้ว
4. ราคา ที่ต่างกันเกือบ 2เท่ากว่า Bose M2 ราคา $290 ในขณะที่ B&W Zeppelin Air $590 แน่นอนว่ามันมวยคนละพิกัด
IMG_5704.jpg
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเล่นเครื่องงเสียงงนะครับ
Comment