Announcement

Collapse
No announcement yet.

สอบถามการเปลี่ยน op-amp ของ ASUS Xonar Essence STX

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • สอบถามการเปลี่ยน op-amp ของ ASUS Xonar Essence STX

    คือว่าผมจะเปลี่ยน OP-AMP ของ ASUS Xonar Essence STX ได้หรือเปล่าครับ เห็นกระทู้นี้เขา http://forums.overclockzone.com/foru...ighlight=Xonar เปลี่ยนแล้วดีขึ้นครับ ผมก็เลยอยากลองบ้างครับ กะว่าจะเอาเบอร์เดียวกันเลยครับ จะใส่ได้เปล่าครับ








  • #2
    ดีขึ้นหรือเปล่าไม่รู้ แต่มันเปลี่ยน บุคลิกทางเสียง(opamp character) ไม่เหมือนเดิมแน่นอน

    ถ้าใช้กับหูฟังเปลี่ยนแค่ JRC2114D 2 ตัว ตัว LM4562 ไม่มีผล

    แต่ถ้าออกลำโพง opamp ทั้งสามตัวเปลี่ยนจะมีผลหมด คือเปลี่ยน JRC2114D x2 หรือ LM4562NA x1

    OPA เปรียบกับ JRC ที่รับรู้ได้ทันทีเลยคือ เสียงเบส และเสียงกลางเป็นหนากว่า ความใสไม่แน่ในจำไม่ค่อยได้แล้ว

    ที่เคยลองก็ เอาแบบชาวบ้านนะครับ ที่วิจารณ์แบบนักร้องเดินหน้าถอยหลังกี่ก้าวนี่ผมก็นักก้าวไม่ค่อยถูก
    เีทียบกับ JRC
    OPA2134PA เบสดีกว่า เสียงกลางจะหลบลงไป เสียงสูงใส
    OPA2107 ผมว่าคล้ายๆ 2134 แต่จะให้โทนเสียงกลางที่สว่างกว่า เบสกับเีสียงสูง ก็รู้สึกว่าจะดีกว่าด้วยนะ ตัวนี้เสียงมันจะออกนุ่มๆ
    OPA2111 ตัวนี้ผมว่ารายละเีอียดค่อนข้างดีกว่าสองตัวแรก เบสไม่มากเท่า 2017 กลางดีกว่าสองเบอร์แรก

    ถ้าอยากได้ละเีีอียดกว่านี้็ก็ลอง LM4562 เห็นบางท่านบอกว่าวงมันจะแคบเพราะความชัดของมัน อันนี้ก็นึกไม่ค่อยออก

    ส่วน OPA2604 ยังไม่เคยลอง เห็นอ่าน review ใน Head-fi ประมาณว่าเชียร์ 2111 กันมากกว่า ผมเลยข้ามไป

    ส่่วนเบอร์ LM4562 ที่อยู่ตัวเดียวโดดๆ นี่ยังไม่เคยเปลี่ยนเลย เพราะส่วนใหญ่ผมใช้กับหูฟัง
    Last edited by k_nong; 15 Jul 2009, 15:08:10.

    Comment


    • #3
      Originally posted by k_nong View Post
      ดีขึ้นหรือเปล่าไม่รู้ แต่มันเปลี่ยน บุคลิกทางเสียง(opamp character) ไม่เหมือนเดิมแน่นอน

      ถ้าใช้กับหูฟังเปลี่ยนแค่ JRC2114D 2 ตัว ตัว LM4562 ไม่มีผล

      แต่ถ้าออกลำโพง opamp ทั้งสามตัวเปลี่ยนจะมีผลหมด คือเปลี่ยน JRC2114D x2 หรือ LM4562NA x1

      OPA เปรียบกับ JRC ที่รับรู้ได้ทันทีเลยคือ เสียงเบส และเสียงกลางเป็นหนากว่า ความใสไม่แน่ในจำไม่ค่อยได้แล้ว

      ที่เคยลองก็ เอาแบบชาวบ้านนะครับ ที่วิจารณ์แบบนักร้องเดินหน้าถอยหลังกี่ก้าวนี่ผมก็นักก้าวไม่ค่อยถูก
      เีทียบกับ JRC
      OPA2134PA เบสดีกว่า เสียงกลางจะหลบลงไป เสียงสูงใส
      OPA2107 ผมว่าคล้ายๆ 2134 แต่จะให้โทนเสียงกลางที่สว่างกว่า เบสกับเีสียงสูง ก็รู้สึกว่าจะดีกว่าด้วยนะ ตัวนี้เสียงมันจะออกนุ่มๆ
      OPA2111 ตัวนี้ผมว่ารายละเีอียดค่อนข้างดีกว่าสองตัวแรก เบสไม่มากเท่า 2017 กลางดีกว่าสองเบอร์แรก

      ถ้าอยากได้ละเีีอียดกว่านี้็ก็ลอง LM4562 เห็นบางท่านบอกว่าวงมันจะแคบเพราะความชัดของมัน อันนี้ก็นึกไม่ค่อยออก

      ส่วน OPA2604 ยังไม่เคยลอง เห็นอ่าน review ใน Head-fi ประมาณว่าเชียร์ 2111 กันมากกว่า ผมเลยข้ามไป

      ส่่วนเบอร์ LM4562 ที่อยู่ตัวเดียวโดดๆ นี่ยังไม่เคยเปลี่ยนเลย เพราะส่วนใหญ่ผมใช้กับหูฟัง
      ข้อมูลดีมากเลยคับเพราะผมรุ้สึกว่าเบสมันเบาๆไปหน่อย ได้แนวทางละ

      Comment


      • #4
        ชวนให้เสียตังอีกแล้วสิ

        Comment


        • #5
          อย่าลืมใช้ ASIO ด้วยนะครับ Essence STX มี ASIO มาให้อยู่แล้ว เสียงดีต่างกันมากทีเดียว

          ตอนแรกผมลองเปลี่ยน opamp ไปหลายเบอร์ มันก็ไม่โดนสักที ฟังไปฟังมาเสียงมันจะสู้เจ้า Realtek 883 on board ไม่ได้

          พอใช้ ASIO เท่านั้นล่ะ แซงแจ้า on board ไปไกลทีเีดียว (บน Win XP SP3 นะครับ Vista อาจจะแตกต่าง)

          Comment


          • #6
            http://opampcircuit.blogspot.com/
            http://opampcircuit.blogspot.com/

            ลิงค์ข้างบนเป็นรายการ op amp นะครับ

            Comment


            • #7
              OpAmp แต่ละเบอร์ให้เสียงที่แตกต่างกันไปครับ

              แต่ถ้างบสูงหน่อยแนะนำ LME49720HA ครับ

              เบสลึกนุ่ม กลางหวานอิ่ม แหลมใสฟังสบายๆไม่บาดหูครับ รายละเอียดดีมาก เวทีกว้าง

              ยังไงสนใจเบอร์ไหนก็หลังไมค์ได้นะครับ ^^

              Comment


              • #8
                เปลี่ยนได้ครับ

                แต่ มีข้อสังเกต
                1.ฟังเพลงแบบไหน -cd ตลาดทั่วไป เสียงมัก จะบาง หยาบ แบน แห้ง บาดหู
                -cd audiophile พิถี พิถันในการผลิตสูง
                -mp3 อันนี้ไม่ต้องเอ่ย
                -เพลงจากเนต อันนี้ก็ไม่ต้องเอ่ย
                2.ใช้ลำโพงอะไร แอมปอะไร สายสัญญานอะไร สายลำโพงอะไร ทำไมผมต้องถามแบบนี้ เพราะภาคปรีของ stx ยังหาปรีแอม หรืออินทิเกต (ดูเฉพาะภาคปรี) ที่ต่ำกว่าหมื่นห้า กินอยากพอควร พูดง่ายๆ
                ถ้าคุณนำ แหล่งสัญาณ (เพลง) ที่มีคุณภาพ มาใช้ กับ stx และใช้สายสัญญานที่เหมาะ สายลำโพงที่เหมาะ ลำโพง +แอมป์ ที่เหมาะสม และการจัดวางลำโพงที่ถูกต้อง แล้วเสียงที่ได้ คุณยังไม่พอใจ ผมว่าคุณค่อยปลี่ยน

                นี่แค่ความคิดเห็นส่วนตัว สำหรับคนเล่นเครื่องเสียงเขามักจะเน้นเรื่องความสมดุลของระบบเป็นสำคัญ สมมุติผม ฟังmp3เป็นหลัก(ร้อยล่ะ95) ผ่านSTX ลำโพงที่ไม่เหมาะ สายสัญญานแถม ให้ผมเปลี่ยน op หรือเพิ่ม dac ราคาสูงแค่ไหน มันก็ไม่ดีขึ้นหรอก

                Comment


                • #9
                  ตั้งแต่ซื้อ STX มายังไม่ได้เปลี่ยนอะไรเพิ่มเลย LME49720HA ตัวนี้ผมก็ดูอยู่เหมือนกัน อาจจะไปเปลี่ยนในโอกาสหน้า ตอนนี้ดูสายสัญญาณอยู่ ไม่รู้ว่าจะเลือกตัวไหนดี (van den hul (รุ่นที่ดีขึ้น เพราะผมรู้สึกว่าเสียงจาก van den hul มันฟังดูสด ซึ่งเข้ากับ STX ดีเลยอยากได้รุ่นที่ดีกว่าที่ใช้อยู่),cardas,SILVER SPIRIT(แต่ราคาแพงทีเดียว),Silver Lace (พิมพ์เล่นๆครับเพราะราคาแพงเกินไป)) หรือผมอาจจะไปดูบางร้านที่เค้ารับทำซึ่งตัวสายนั้นไม่ใช่แบรนด์ และเสียงดี โดยจะสามารถประหยัดงบได้เยอะ แต่แบบนี้คงต้องหาข้อมูลอีกพอสมควร
                  ทั้งนี้ผมต้องเอา cd ไปลองฟังดูเพื่อทดสอบว่าเสียงที่ได้นั้นเป็นที่พอใจของเราหรือไม่ ส่วนที่คุณ RED C พูดนี่ถูกต้องมาก เมื่อดูด้านไฟล์เพลงแล้ว mp3 กับ flac นี่คุณภาพต่างกันแบบน่าจะสังเกตได้ (ลองดูบางกระทู้ที่วิเคราะห์เกี่ยวกับการวิเคราะห์ไฟล์ flac,wav แท้) โดยถ้า mp3128 kbps กับ flac นี่ความต่างค่อนข้างชัดเจน พอเป็น320 kbps ก็ยังต่างอยู่ แม้จะต่างน้อยลง ซึ่งบางทีเราจะสังเกตได้จากการฟัง (หรือเพื่อความสบายใจ ดู spectogram จาก foolbar จะชัดเจนมาก) ส่วน flac นี่ก็ต้อง rip โดยใช้โปรแกรมที่ดีด้วย (ผมแนะนำ EAC เพราะมีการเซต cd offset และมีการตรวจเช็คไฟล์ที่ดีมาก คือ rip มาแทบจะเหมือนกับแผ่น แต่ทั้งนี้ถ้าไม่ติดเรื่องเนื้อที่ก็ rip เป็น wav เลย) แต่บางทีผมฟัง 320 kbps บางวง กลับรู้สึกว่าเสียงดีกว่าบางวงที่ป็น wav อีกนะ (อันนี้ยกความดีให้การบันทึกเสียง และฝีมือคนเล่นเลย) อย่างบางแผ่นว่าเป็น audiophile แล้วแต่ระบบเสียงที่ออกกลับสู้บางวงไม่ได้ (อันนี้ก็เข้าใจว่าเทียบกันคนละวงมันเทียบยาก พอดีผมก็เทียบดูจากแนวเดียวกันและที่เล่นคล้ายๆกัน แต่ตรงนี้อากให้มองีท่ความชอบของเราเป็นหลักเพราะถึงแม้วงนั้นๆเล่นดี ฝีมือเยี่ยม แต่ถ้าเราไม่ชอบฟัง มันก็สู้วงที่เรารู้สึกว่าเสียงด้อยกว่าแต่เป็นที่พอใจของเรามากกว่า ช่วงนี้ผมเลยหันมาเก็บ cd ต่อหลังจากหยุดไปสักพัก รีบเก็บบางแผ่นก่อนที่มันจะหายากหรือหาไม่ได้แล้วดีกว่าเพราะไม่อยากมาหาในแบบ mp3 ถ้าเลือกได้ ^ ^)

                  Comment


                  • #10
                    เมื่อก่อนผมเคยเข้าใจว่าการเปลี่ยนOpampในภาคBufferนั้นไม่มีผลต่อหูฟัง แต่จริงๆมันมีผลนะคับ
                    อันนี้ผมอยากให้ทดลองดู เพราะแรกๆผมก็คิดว่ามันไม่น่ามีผล แต่พอถอดเปลี่ยนฟังสลับไปมากับตัวอื่นมันมีผลจริงๆคับ

                    ถ้าอยากให้เห็นผลแบบชัดๆไปเลย ให้เอาOpampที่คิดว่าเสียงBrightที่สุด(ที่มีในบ้าน) กับตัวที่คิดว่าเสียงDarkหรือทึบที่สุด(ที่มีในบ้าน) มาใส่ในBufferสลับกันดูคับ จะฟังออกแบบชัดเจนเลย

                    วิธีทดสอบ
                    1.ถ้าเป็นไปได้ให้ใช้หูฟังที่เสียงBrightจะดีมากคับ เพราะว่าเสียงจะชัด
                    2.การทดสอบรอบที่1 ในภาคI/Vให้ใส่Opampที่ให้เสียงไปทางBright ของผมใส่เป็น LM4562 ส่วนในBufferก็ให้ใส่OpampเสียงBrightเหมือนกัน ซึ่งผมใส่เป็น2114D
                    เสียงที่ได้จะใสและโปร่ง รายละเอียดดี
                    3.การทดสอบรอบที่2 คราวนี้ลองเปลี่ยนOpampในBufferจากตัวที่เสียงBrightเป็นตัวที่เสียงDarkแทน เช่นของค่ายBB ในขั้นตอนนี้ของผมๆเปลี่ยนเป็น2107APเสียงที่ได้ยินจะติดดาร์ดทันที คราวนี้ลองใส่2134PAบ้างเสียงก็ติดดาร์ดแบบฟังออกเหมือนกันคับ ยิ่งด้วยความเป็นBipolarของ2114Dและความเป็นFetของ2134PA ยิ่งทำให้ฟังออกได้ง่ายคับ
                    4.ให้ลองเปลี่ยนOpampในBufferฟังเล่นสลับกันไปมาระหว่างตัวที่เสียงBrightกับDark (ให้ใช้เบอร์เดิมนะคับ จะได้จำเสียงได้แม่น) คราวนี้จะชัดเจนเลยคับว่าOpampในภาคBufferมันมีผลกับหูฟังด้วยจริงๆ
                    5.ลองเอาLM4562กับ2114Dมาใส่สลับกันในBufferก็ได้คับ ถึงเสียงจะBrightเหมือนกัน แต่เวลาใส่เป็น2114Dวงจะกว้างกว่า ฟังแล้วโปร่งกว่า4562ซึ่งวงจะเล็ก

                    ขั้นตอนที่ว่ามาผมเข้าใจว่าค่อนข้างเสียเวลาเพราะต้องแกะการ์ดเข้าออกหลายรอบ แต่ถ้าทำได้จะเห็นผลเทียบแบบชัดเจนเลยคับ

                    อีกเรื่องนึงที่ผมอยากแนะนำก่อนทดสอบ เพราะผมว่ามันช่วยให้คุณภาพเสียงดีขึ้น อันนี้บางคนอาจรู้แล้ว..แต่บางคนอาจยังไม่รู้ ว่าการปรับPower OptionในControl Panelนั้นมีผลต่อเสียงที่ออกมาด้วยนะคับ แนะนำให้ใช้หูฟังๆจะรู้สึกได้เลย ว่าถ้าลองปรับเป็นPower SaveกับHigh Performanceสลับกันไปมาเสียงจะไม่เหมือนกันกับ เวลาปรับต้องรอประมาณ5วินะคับเสียงถึงจะเปลี่ยน ถ้าให้ผมอธิบายว่าต่างกันแค่ไหนผมอธิบายไม่ถูกเหมือนกัน แต่ถ้าใครเคยใช้Sony Walkmanรุ่นที่มีโหมดประหยัดพลังงานกับเน้นคุณภาพเสียง อันนั้นน่าจะเข้าใจได้ในทันทีคับ

                    Comment

                    Working...
                    X