Announcement

Collapse
No announcement yet.

Amp Nakoya ภาค พิสดาร !!

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • Amp Nakoya ภาค พิสดาร !!

    สืบเนื่องจาก
    http://forums.overclockzone.com/foru...d.php?t=965956
    และ http://forums.overclockzone.com/foru...d.php?t=971865

    ขอขอบคุณพี่ๆ ทุกคนและยังคงจะรบกวน(รังควาน)ต่อไปน่ะครับ

    เป็นการบรรยายภาพเอาละกัน

    เปลี่ยนสายไฟออกลำโพงครับ !!


    ตัดฝา อคลิลิกแล้ว


    แสง เพื่อความลาวส่วนตัว


    อุปกรณ์ตัดต่อ ฟิวฟ์


    ไปขุดบ้านเก่าเจอมาครับ


    กรีด !! นี้และที่ต้องการ

    !! แต่มันเข้ารูเดิมไม่ได้ ฟิวคนละขนาด เลย ตัดต่อตรงและ ใส่ฟิวตรงปลั็กแบบมาเลแทน


    เหยื่อ ปลั๊ก และ ฟิวฟ์ที่จะเปลี่ยน 5A คงไหวล่ะ


    ไปโรงเรียน


    ตัด ต่อ ไม่ตาย !!


    ต่อสายบ้านๆ ไปก่อนน่ะ งบหมด


    ไดโอด ที่จะไปแทนที่ใน อนาคตเคี่ยว

    หมดและครับ เดียวจะ อัพเรื่อยๆ กำลังจะไล่เปลี่ยน c
    ตอนนี้งานเยอะ เพราะกีฬาสี นำเสนอ บลา ๆ ๆ
    จะพยายามมาตอบทุกวัน ใครมีอะไรติชม แนะนำ เชิญกันเลยครับต้องการมาก

    สุดท้ายขอบคุณที่อ่านครับ !!
    Last edited by pluanant; 16 Aug 2010, 20:51:38.

  • #2
    รอชม

    Comment


    • #3
      ไดโอดต้องดูค่ายังไงบ้างผมยังไม่รู้เลยนะเนี่ย TT

      Comment


      • #4
        จะของคุณmilestoneหรือของคุณpluanant
        ความเห็นของผมก็ยังเหมือนเดิม ยังแนะนำให้เปลี่ยนสายลำโพงก่อนอยู่ดี

        จุดที่ควรเสียเงินเป็นก้อนแรก คือ จากหลังมาหน้า
        เพราะปราการด้านหลังนี่แหล่ะ คือ ตัวที่จะกำหนดว่า ตัวมันเองจะให้ได้แค่ไหน แบบไหน


        Originally posted by milestone
        ไดโอดต้องดูค่ายังไงบ้างผมยังไม่รู้เลยนะเนี่ย
        ที่ตัวมันจะพิมพ์เบอร์ไว้ ก็เอาเบอร์ไปเปิดดาต้าชีทดู กี่โวลท์ กี่แอมป์ ทำงานที่ความถี่ช่วงไหน

        Comment


        • #5
          ส่งการบ้านครับ ยังไม่ได้เปลี่ยนไดโอด

          สิ่งที่เปลี่ยนไป ก็มีแต่ c ครับ ส่วนงบประมาน 0บาท !! ไปบ้านเก่ามา เจอเครื่องเล่น vcd เก่าๆ สองเครื่อง วงจรอะไรรกๆห้อง แล้วก็พาวเวอร์ ซับพลายเก่าๆ ก็เอามาชำแหละ



          ได้c มาเพียบ แล้วก็นั่ง ส่องเล่น ว่าจะเพิ่งอะไรตรงไหนบ้าง ก้มั่วๆไป















          ตอนนี้พอใจกับเสียงที่ได้มาก ครับ ใสขึ้นเยอะมาก เบสนี้ผมไม่ได้เน้นมาก ก็เลยไม่ได้ใส่ใจอะไร ให้เสียงเครื่องดนตรีมากพอควร ภาระกิจต่อไปคิดว่าคงจะเปลี่ยน ตัวเมีย ที่เข้าและออกของแอมครับ อันนี้คงมี งบที่ต้องใช้บ้างแล้วล่ะ > _ <

          ติชม แนะนำ ได้ทุกอย่างเลยครับ ขอบพระคุณที่ชม
          Last edited by pluanant; 28 Aug 2010, 19:41:34.

          Comment


          • #6
            Originally posted by keang View Post
            จะของคุณmilestoneหรือของคุณpluanant
            ความเห็นของผมก็ยังเหมือนเดิม ยังแนะนำให้เปลี่ยนสายลำโพงก่อนอยู่ดี

            จุดที่ควรเสียเงินเป็นก้อนแรก คือ จากหลังมาหน้า
            เพราะปราการด้านหลังนี่แหล่ะ คือ ตัวที่จะกำหนดว่า ตัวมันเองจะให้ได้แค่ไหน แบบไหน

            ที่ตัวมันจะพิมพ์เบอร์ไว้ ก็เอาเบอร์ไปเปิดดาต้าชีทดู กี่โวลท์ กี่แอมป์ ทำงานที่ความถี่ช่วงไหน
            ผมกลับเห็นต่างแฮะ ผมว่าควรจากหน้ามาหลัง เนื่องจากภาคหน้าทำงานกับขนาดสัญญาณที่ต่ำกว่าทำให้เสี่ยงต่อการสูญเสียและถูกรบกวนได้ง่ายครับ แต่ที่สำคัญจริงๆต้องดูจุดที่เปลี่ยนด้วยว่ามันเป็นจุดที่มีความสำคัญแค่ไหนด้วยครับ เช่น feedback loop ที่เป็นตัวกำหนดอัตราขยายและเสถียรภาพของวงจร ตัวต้านทาน load ที่มีผลต่อความเป็น linear ของวงจร หรืออื่นๆ หากเปลี่ยนให้ดีทั้งหมดก็ดีครับแต่มันอาจไม่คุ้มค่า

            Comment


            • #7
              นี่แหล่ะ DIYer ของแท้ หาของใกล้ตัวมาใช้ประโยชน์

              Comment


              • #8
                Originally posted by pluanant View Post
                ส่งการบ้านครับ ยังไม่ได้เปลี่ยนไดโอด

                สิ่งที่เปลี่ยนไป ก็มีแต่ c ครับ ส่วนงบประมาน 0บาท !! ไปบ้านเก่ามา เจอเครื่องเล่น vcd เก่าๆ สองเครื่อง วงจรอะไรรกๆห้อง แล้วก็พาวเวอร์ ซับพลายเก่าๆ ก็เอามาชำแหละ

                ตอนนี้พอใจกับเสียงที่ได้มาก ครับ ใสขึ้นเยอะมาก เบสนี้ผมไม่ได้เน้นมาก ก็เลยไม่ได้ใส่ใจอะไร ให้เสียงเครื่องดนตรีมากพอควร ภาระกิจต่อไปคิดว่าคงจะเปลี่ยน ตัวเมีย ที่เข้าและออกของแอมครับ อันนี้คงมี งบที่ต้องใช้บ้างแล้วล่ะ > _ <

                ติชม แนะนำ ได้ทุกอย่างเลยครับ ขอบพระคุณที่ชม
                จริงๆอยากแนะนำให้ลองเพิ่มขนาดหม้อแปลงครับ ภาคจ่ายไฟเป็นส่วนที่สำคัญมากๆสำหรับวงจรขยายนะครับ เนื่องจากถ้าดูวงจรรวมแล้วเราจะพบว่าจงจรขยายนั้นเป็นแค่สวิทช์ที่ตัดต่อภาคจ่ายไฟกับลำโพงตามสัญญาณดนตรีที่ป้อนเข้าไปนะครับ

                การเพิ่มขนาดและคุณภาพของภาคจ่ายไฟจะเห็นผลมากครับ( ถ้าของเดิมมันไม่เพียงพอ) ไม่ได้เห็นผลเฉพาะเบสด้วยครับ มันจะเห็นผลในทุกความถี่ครับ การที่มีภาคจ่ายไฟที่ดีจะทำให้วงจรขยายทำงานบนแรงดันที่คงที่ทำให้มันทำงานตามที่ออกแบบไว้ครับ โดยที่จุดทำงานของวงจรไมาเปลี่ยนไปมาตามแรงดันของภาคจ่ายไฟครับ ถ้ามีเวลาลองอ่านนี่ดูครับ เป็บบทความเกี่ยวกับภาคจ่ายไฟที่ Nelson Pass นักออกแบบแอมป์hiend ชื่อดัง เขียนไว้ครับ ไม่ได้บอกให้เชื่อนะครับแต่ลองอ่านดูเผื่อได้ไอเดียครับ
                http://www.passdiy.com/pdf/powersupply.pdf

                Comment


                • #9
                  มันไม่มีเวลา(ขี้เกรียจ) ไปซื้อของครับ ฮ่ะๆ

                  ตอนนี้ได้ แนวคิดอีกอย่างคือ แทนที่จะเปลี่ยน เราจะเพิ่มก็บอรฺ์ดมันมี สองด้านนิเนอะ > _ < ปล.เพิ่มค่า F โดยการประหยัด
                  ขอไปงม ก่อนน่ะครับ เดียวคืนนี้จะมา อัพ อีกครั้ง


                  Originally posted by tanwa_kang View Post
                  จริงๆอยากแนะนำให้ลองเพิ่มขนาดหม้อแปลงครับ ภาคจ่ายไฟเป็นส่วนที่สำคัญมากๆสำหรับวงจรขยายนะครับ เนื่องจากถ้าดูวงจรรวมแล้วเราจะพบว่าจงจรขยายนั้นเป็นแค่สวิทช์ที่ตัดต่อภาคจ่ายไฟกับลำโพงตามสัญญาณดนตรีที่ป้อนเข้าไปนะครับ

                  การเพิ่มขนาดและคุณภาพของภาคจ่ายไฟจะเห็นผลมากครับ( ถ้าของเดิมมันไม่เพียงพอ) ไม่ได้เห็นผลเฉพาะเบสด้วยครับ มันจะเห็นผลในทุกความถี่ครับ การที่มีภาคจ่ายไฟที่ดีจะทำให้วงจรขยายทำงานบนแรงดันที่คงที่ทำให้มันทำงานตามที่ออกแบบไว้ครับ โดยที่จุดทำงานของวงจรไมาเปลี่ยนไปมาตามแรงดันของภาคจ่ายไฟครับ ถ้ามีเวลาลองอ่านนี่ดูครับ เป็บบทความเกี่ยวกับภาคจ่ายไฟที่ Nelson Pass นักออกแบบแอมป์hiend ชื่อดัง เขียนไว้ครับ ไม่ได้บอกให้เชื่อนะครับแต่ลองอ่านดูเผื่อได้ไอเดียครับ
                  http://www.passdiy.com/pdf/powersupply.pdf
                  ครับเดียวจะอ่านดู ถ้างั้น การเลือก หม้อแปลง นี้มีหลักการเลือกยังไงครับ ควรจ่ายไฟสูงสุด กินกระแสสูงสุดเท่าไร ขอคำแนะนำด้วยครับ?
                  Last edited by pluanant; 28 Aug 2010, 22:07:23. Reason: เพิ่มตอบ

                  Comment


                  • #10


                    รร.ไรหรอ สบายน่าดู

                    Comment


                    • #11
                      พลุแกเอาเวลาที่ไหนมาทำ ว๊า

                      Comment


                      • #12
                        Originally posted by vutbaza View Post
                        รร.ไรหรอ สบายน่าดู
                        สาธิตเกษตร พหุภาษา ครับอยุ่ชลบุรี

                        @ แตม ก็เวลาที่ปกติ เล่นเฟสไง 5555



                        อัพเดต ในที่สุด ผมว่ามันคงเ)็น senior project ของผมจริงๆ และครับ
                        Last edited by pluanant; 28 Aug 2010, 22:27:46.

                        Comment


                        • #13
                          Originally posted by tanwa_kang
                          ผมกลับเห็นต่างแฮะ ผมว่าควรจากหน้ามาหลัง เนื่องจากภาคหน้าทำงานกับขนาดสัญญาณที่ต่ำกว่าทำให้เสี่ยงต่อการสูญเสียและถูกรบกวนได้ง่ายครับ แต่ที่สำคัญจริงๆต้องดูจุดที่เปลี่ยนด้วยว่ามันเป็นจุดที่มีความสำคัญแค่ไหนด้วยครับ
                          แลกเปลี่ยนมุมมองกัน

                          สมมุติ
                          เราเปลี่ยน C ได้แค่2ตัว อยู่ที่ว่าเราจะเลือกใส่จุดไหนก่อน แบบไหนจะให้ผลต่างที่มากกว่ากัน

                          วงจรขยายออปแอมป์ มีC ค่า47uF/16vทั้ง4ตัว แบ่งเป็น input2ตัว, output2ตัว
                          มีC2แบบ เกรดดียี่ห้อ"A"2ตัว เกรดธรรมดายี่ห้อ"B"2ตัว

                          1. "ของดี" อยู่ "หน้า" = เอา "A" ใส่ที่ "input" / เอา "B" ใส่ที่ "output"
                          แบบนี้ ผมว่า "A"จะออกมาดีแค่ไหน ก็ได้สูงสุดเท่า "B" ทำได้

                          2. "ของดี" ไว้ "หลัง" = เอา "B" ใส่ที่ "input" / เอา "A" ใส่ที่ "output"
                          แบบนี้ ผมว่า "B"จะออกมาดีแค่ไหน ก็ได้สูงสุดเท่า "A" ทำได้

                          เหมือน "เปลี่ยนสายลำโพงจากแอมป์ไปตู้ลำโพง" กับ "เปลี่ยนสายลำโพงภายในตู้ลำโพง"

                          Comment


                          • #14
                            2. "ของดี" ไว้ "หลัง" = เอา "B" ใส่ที่ "input" / เอา "A" ใส่ที่ "output"
                            แบบนี้ ผมว่า "B"จะออกมาดีแค่ไหน ก็ได้สูงสุดเท่า "A" ทำได้
                            b ก็ทำได้เท่าที่ตัวมันทำ จากที่พี่ว่ามาน่ะครับ ผมว่าความหมายคือ แบบที่สอง ความสามารถที่ออกมาได้เต็มที่ เท่าที่b ทำได้
                            ซึ่งในแบบแรก คงหมายถึง ว่า a ทำออกมาดีแต่ ตัวb เป็นตัวควบคุมคุณภาพ ทำให้ความสามารถ ไม่เท่ากับที่a ทำได้สิน่ะครับ


                            อันนี้อัพเดต ผมว่าผมบัคกรี ฮาร์คอร์ ไปหน่อยหรือเปล่าไม่รู้ > w <










                            Comment


                            • #15
                              Originally posted by keang View Post
                              แลกเปลี่ยนมุมมองกัน

                              สมมุติ
                              เราเปลี่ยน C ได้แค่2ตัว อยู่ที่ว่าเราจะเลือกใส่จุดไหนก่อน แบบไหนจะให้ผลต่างที่มากกว่ากัน

                              วงจรขยายออปแอมป์ มีC ค่า47uF/16vทั้ง4ตัว แบ่งเป็น input2ตัว, output2ตัว
                              มีC2แบบ เกรดดียี่ห้อ"A"2ตัว เกรดธรรมดายี่ห้อ"B"2ตัว

                              1. "ของดี" อยู่ "หน้า" = เอา "A" ใส่ที่ "input" / เอา "B" ใส่ที่ "output"
                              แบบนี้ ผมว่า "A"จะออกมาดีแค่ไหน ก็ได้สูงสุดเท่า "B" ทำได้

                              2. "ของดี" ไว้ "หลัง" = เอา "B" ใส่ที่ "input" / เอา "A" ใส่ที่ "output"
                              แบบนี้ ผมว่า "B"จะออกมาดีแค่ไหน ก็ได้สูงสุดเท่า "A" ทำได้

                              เหมือน "เปลี่ยนสายลำโพงจากแอมป์ไปตู้ลำโพง" กับ "เปลี่ยนสายลำโพงภายในตู้ลำโพง"
                              ข้อ 1 .เห็นด้วย
                              ส่วนข้อ 2 ผม คิดว่า input กับ output มันต่อเนื่องกันอยู่แล้ว ดังนั้น input มาฺ B ส่งมาให้ output ทีระดับ A การขยายสัญญาณที่ดี คือเหมือนต้นฉบับ ดังนั้นเข้ามา แค่ B มันก็ออกไปแค่ B แค่ แรงขึ้นเท่านั้นเอง

                              Comment

                              Working...
                              X