Tweet
ภายในงานมหกรรมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภค “Consumer Electronics Show” หรือ CES ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกาในปีนี้ สิ่งที่ดูจะโดดเด่นเป็นพิเศษเห็นจะเป็นสงครามฟอร์แมตอันร้อนระอุ หลัง “วอร์เนอร์ บราเธอร์” (Warner Bros.) ผู้กุมตลาดโฮมวิดีโอ 20 % ในอเมริกายกเลิกหนุนส่งฟอร์แมต “เอชดี-ดีวีดี” แล้วหันไปเลือกข้างทำลงเฉพาะ “บลู-เรย์ ดิสก์”นั้น
ส่งผลกระทบกระเทือนการตัดสินใจเลือกข้างของทั้งบรรดาผู้ผลิตเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์และค่ายหนังอื่นๆพอสมควร ไม่เว้นแม้กระทั้งบริษัทไมโครซอฟท์ที่เคยปักหลักอยู่ทางฝั่งเอชดี-ดีวีดีเมื่อ 2 ปีก่อน และวางขายไดร์ฟเอชดี-ดีวีดีเชื่อมต่อกับเครื่องเล่นเกมเอ็กซ์บ็อกซ์360 (Xbox360)
ล่าสุด “อัลเบิร์ต เพเนลโล” ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของ Xbox ในสังกัดไมโครซอฟท์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ ว่า แม้วอร์เนอร์จะเปลี่ยนใจไป แต่สงครามฟอร์แมตก็ยังไม่จบ โดยยอมรับว่าทางไมโครซอฟท์ยังคงเปิดกว้างสำหรับเรื่องนี้อยู่ มันจะเป็นตัวเลือกของผู้บริโภค หากพวกเขาเทใจไปทางนั้น บริษัทคงต้องมีการพิจารณา
เพเนลโลกล่าวต่อว่า ไมโครซอฟท์แทบไม่อยากจะเชื่อถึงการตัดสินใจของวอร์เนอร์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ทิ้งฟอร์แมตเอชดี-ดีวีดีไปเลือกบลู-เรย์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดขายเครื่อง Xbox360 ตามมาที่กำลังต่อสู้กับเครื่องเพลย์สเตชัน3 (PS3)ของโซนี่ และเขาต้องการให้ผู้บริโภคเป็นคนตัดสินใจ ส่วนตัวแล้วเขาเห็นว่าคงมีลูกค้าจำนวนมากที่ซื้อเอชดี-ดีวีดีไปกำลังคิดถึงผลที่ตามมาแน่ ไฟแนนเชียล ไทม์รายงานข่าวโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ทางบริษัท “พาราเมาท์” มีทีท่าว่าจะปันใจย้ายไปลงฟอร์แมตบลู-เรย์ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานข่าวการปฏิเสธข่าวดังกล่าวตามมาของโฆษกจากพาราเมาท์ และยืนยันว่าปัจจุบันยังมีโครงการหนุนเอชดี-ดีวีดีต่อไป ขณะที่ทางโฆษกของโตชิบา แกนนำผู้พัฒนาเอชดี-ดีวีดีเรียกรายงานข่าวของไฟแนนเชียลไทม์ว่าเป็นเพียงข่าวโคมลอย
ด้านบริษัทโซนี่ คอมพิวเตอร์ เอนเตอร์เทนเมนต์ อเมริกา เผยว่า 87 % ของผู้ใช้เครื่อง PS3 ใช้เครื่องเล่นเกมชมหนังบลู-เรย์ และ 84 % มีแผนที่จะซื้อและเช่าหนังบลู-เรย์ตามมาด้วย พร้อมระบุเสริมว่า เครื่อง PS3 ถูกขายในอเมริกาเกือบ 3 ล้านเครื่อง โดยในสัปดาห์นี้ PS3 ขายดีกว่าตัวเครื่องเล่นเอชดี-ดีวีดีที่ต่อกับ Xbox360 เกือบ 10 ต่อ 1 ในอเมริกา ทั้งนี้ ทางสมาคมบลู-เรย์ ดิสก์ระบุยอดขายเครื่องเล่นในเดือนธ.ค.อยู่ที่ 2.7 ล้านเครื่องในอเมริกา ขณะที่ทางเอชดี-ดีวีดี โปรโมชันส์ กรุ๊ป บอกในเดือนพ.ย.ว่าสามารถขายเครื่องเล่นเอชดี-ดีวีดีได้ 750,000 เครื่อง
http://www.arip.co.th/2006/news.php?id=407034
ส่งผลกระทบกระเทือนการตัดสินใจเลือกข้างของทั้งบรรดาผู้ผลิตเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์และค่ายหนังอื่นๆพอสมควร ไม่เว้นแม้กระทั้งบริษัทไมโครซอฟท์ที่เคยปักหลักอยู่ทางฝั่งเอชดี-ดีวีดีเมื่อ 2 ปีก่อน และวางขายไดร์ฟเอชดี-ดีวีดีเชื่อมต่อกับเครื่องเล่นเกมเอ็กซ์บ็อกซ์360 (Xbox360)
ล่าสุด “อัลเบิร์ต เพเนลโล” ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของ Xbox ในสังกัดไมโครซอฟท์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ ว่า แม้วอร์เนอร์จะเปลี่ยนใจไป แต่สงครามฟอร์แมตก็ยังไม่จบ โดยยอมรับว่าทางไมโครซอฟท์ยังคงเปิดกว้างสำหรับเรื่องนี้อยู่ มันจะเป็นตัวเลือกของผู้บริโภค หากพวกเขาเทใจไปทางนั้น บริษัทคงต้องมีการพิจารณา
เพเนลโลกล่าวต่อว่า ไมโครซอฟท์แทบไม่อยากจะเชื่อถึงการตัดสินใจของวอร์เนอร์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ทิ้งฟอร์แมตเอชดี-ดีวีดีไปเลือกบลู-เรย์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดขายเครื่อง Xbox360 ตามมาที่กำลังต่อสู้กับเครื่องเพลย์สเตชัน3 (PS3)ของโซนี่ และเขาต้องการให้ผู้บริโภคเป็นคนตัดสินใจ ส่วนตัวแล้วเขาเห็นว่าคงมีลูกค้าจำนวนมากที่ซื้อเอชดี-ดีวีดีไปกำลังคิดถึงผลที่ตามมาแน่ ไฟแนนเชียล ไทม์รายงานข่าวโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ทางบริษัท “พาราเมาท์” มีทีท่าว่าจะปันใจย้ายไปลงฟอร์แมตบลู-เรย์ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานข่าวการปฏิเสธข่าวดังกล่าวตามมาของโฆษกจากพาราเมาท์ และยืนยันว่าปัจจุบันยังมีโครงการหนุนเอชดี-ดีวีดีต่อไป ขณะที่ทางโฆษกของโตชิบา แกนนำผู้พัฒนาเอชดี-ดีวีดีเรียกรายงานข่าวของไฟแนนเชียลไทม์ว่าเป็นเพียงข่าวโคมลอย
ด้านบริษัทโซนี่ คอมพิวเตอร์ เอนเตอร์เทนเมนต์ อเมริกา เผยว่า 87 % ของผู้ใช้เครื่อง PS3 ใช้เครื่องเล่นเกมชมหนังบลู-เรย์ และ 84 % มีแผนที่จะซื้อและเช่าหนังบลู-เรย์ตามมาด้วย พร้อมระบุเสริมว่า เครื่อง PS3 ถูกขายในอเมริกาเกือบ 3 ล้านเครื่อง โดยในสัปดาห์นี้ PS3 ขายดีกว่าตัวเครื่องเล่นเอชดี-ดีวีดีที่ต่อกับ Xbox360 เกือบ 10 ต่อ 1 ในอเมริกา ทั้งนี้ ทางสมาคมบลู-เรย์ ดิสก์ระบุยอดขายเครื่องเล่นในเดือนธ.ค.อยู่ที่ 2.7 ล้านเครื่องในอเมริกา ขณะที่ทางเอชดี-ดีวีดี โปรโมชันส์ กรุ๊ป บอกในเดือนพ.ย.ว่าสามารถขายเครื่องเล่นเอชดี-ดีวีดีได้ 750,000 เครื่อง
http://www.arip.co.th/2006/news.php?id=407034
Comment