พิษปรับภาษีดันราคาจอคอมฯดิจิทัลแอลซีดีพุ่ง ยักษ์ผู้ผลิตเบรกนำเข้าลุ้นกรมศุลฯกลับลำ
เอาข่าวจากประชาชาติธุรกิจมาให้อ่านกันครับ
พิษปรับภาษีดันราคาจอคอมฯดิจิทัลแอลซีดีพุ่ง ยักษ์ผู้ผลิตเบรกนำเข้าลุ้นกรมศุลฯกลับลำ
ตลาดจอคอมพิวเตอร์ "แอลซีดี" มูลค่า 5,000 ล้านบาทป่วน ยักษ์ผู้ผลิตปรับแผนเบรกนำเข้า "ดิจิทัล แอลซีดี" หลังกรมศุลกากรปรับพิกัดคิดภาษีนำเข้าจาก 0% เป็น 20% ดันต้นทุนราคาสินค้าพุ่งกระฉูด "แอลจี" เผยหารือบริษัทแม่ย้ายฐานการผลิตมาไทย เพื่อรับมือปัญหาระยะยาว ด้านอธิบดีกรมศุลฯรับลูก ส่งต่อคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีพิจารณา
นายกมล โคตรภูชัย ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ ไอที บริษัท แอลจี อิเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากกรณีที่กรมศุลกากรได้ปรับการคิดภาษีนำเข้าจอคอมพิวเตอร์ประเภทแอลซีดี ที่มี DVI port (digital visual interface) ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จากเดิมที่อยู่ในหมวดชิ้นส่วน คอมพิวเตอร์ภาษีนำเข้า 0% ย้ายไปอยู่หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์
เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อรับสัญญาณทีวีได้ และต้องมีภาระภาษีนำเข้าเพิ่มเป็น 20% ทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะทำให้ตลาดชะงัก โดยเฉพาะแอลจีนั้นจอแอลซีดีที่นำเข้ามาทำตลาดส่วนใหญ่จะเป็นโมเดลมีดีวีไอ พอร์ต เนื่องจากเป็นเทรนด์เทคโนโลยีของตลาด เพื่อรองรับการใช้งานมัลติมีเดียได้หลากหลาย
โดยปัจจุบันกว่า 40% ของยอดขายจอแอลซีดี ของแอลจีเป็นจอประเภทที่มีดีวีไอ พอร์ต ซึ่งผู้บริโภคนิยมมาก เนื่องจากระดับราคาของโมเดลที่มีดีวีไอ พอร์ต จะมีระดับราคาสูงกว่าโมเดลที่ไม่มีดีวีไอ พอร์ตเพียง 300-400 บาทเท่านั้น
ขึ้นภาษีพ่นพิษเดือนเดียวปรับราคา 3 ครั้ง
นายกมลกล่าวว่า จากปัญหาดังกล่าวมาตรการระยะสั้นที่บริษัททำได้คือชะลอการนำเข้าจอแอลซีดี ที่มีดีวีไอ พอร์ตเข้ามาทำตลาด เพราะเกรงว่าหากนำเข้ามาทำตลาดโดยที่มีต้นทุนเพิ่มขึ้นอีก 20% ในแง่ของผู้บริโภคจะไม่ตอบรับ เพราะจากระดับราคาที่แตกต่างกันมาก ก็เชื่อว่าผู้บริโภคก็จะเลือกซื้อรุ่นที่ไม่มีดีวีไอ พอร์ตแทน
อย่างไรก็ตามเนื่องจากการสั่งสินค้าเข้ามาทำตลาดเป็นการสั่งล่วงหน้า 2 เดือน ทำให้สินค้าลอตล่าสุดที่เข้ามายังมีรุ่นที่มีดีวีไอ พอร์ตเข้ามาทำตลาด แต่จากที่ต้องเสียภาษีนำเข้า 20% ทำให้ช่วงเดือนที่ผ่านมามีการปรับขึ้นราคาจอแอลซีดีไป 3 ครั้งแล้ว ทั้งนี้บริษัทได้ทยอยปรับขึ้นราคาโดยการนำมาเฉลี่ยต้นทุนกับสินค้าที่อยู่ในสต๊อกเดิม หลังจากนี้คงเบรกการนำเข้ารุ่นที่มีดีวีไอ พอร์ตและเลือกรุ่นที่ไม่มีดีวีไอ พอร์ตเข้ามาทำตลาดแทน
ทั้งนี้เดิมจอแอลซีดีประเภทที่มีดีวีไอ พอร์ต ขนาด 19 นิ้ว ไวด์สกรีน ราคาที่ขายในงานคอมมาร์ทเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 6,790 บาท แต่ล่าสุดบริษัทได้ปรับขึ้นราคามาอยู่ที่ 7,900 บาท
นายกมลกล่าวว่า ที่ผ่านมากลุ่มผู้ผลิตและผู้นำเข้าได้รวมตัวกันยื่นหนังสือถึงกรมศุลกากรให้ทบทวน คาดว่าจะได้รับคำตอบใน 1-2 เดือนนี้ อย่างไรก็ตามหากไม่ได้รับการแก้ไข บริษัทได้หารือกับทางบริษัทแม่เพื่อหามาตรการแก้ปัญหาระยะยาว ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการย้ายฐานการผลิตจอแอลซีดีรุ่นที่มีดีวีไอ พอร์ตเข้ามาอยู่ในประเทศไทย เนื่องจากปัจจุบันแอลจีมีโรงงานผลิตจอแอลซีดีทีวีอยู่แล้ว สามารถปรับมาใช้เป็นฐานการผลิตจอคอมพิวเตอร์แอลซีดีได้
ทั้งนี้มูลค่าตลาดจอคอมพิวเตอร์เมืองไทยปีนี้อยู่ที่ประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท โดย 80%ของตลาดเป็นจอแอลซีดี และ 20% เป็นจอซีอาร์ที สำหรับผู้ผลิตที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในตลาดจอแอลซีดี ได้แก่ ซัมซุง, เอเซอร์ และแอลจี
ผู้ประกอบการแห่ชะลอนำเข้า
ด้านนายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดอาวุโส บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ในช่วงแรกเอเซอร์คงต้องชะลอการนำเข้าจอแอลซีดีรุ่นที่มีดีวีไอ พอร์ต เพราะต้นทุนที่เพิ่มขึ้น 20% อาจทำให้ความต้องการของตลาดลดลง บริษัทจะเลือกโมเดลที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับพิกัดอัตราภาษีเข้ามาทำตลาดแทน
ขณะที่นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เบ็นคิว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าวมาก เนื่องจากกว่า 50% ของจอแอลซีดีที่เบ็นคิวนำเข้ามาจำหน่ายคือรุ่นที่มีดีวีไอ พอร์ต การเพิ่มภาษีทำให้ต้นทุนและราคาสูงขึ้น
ทั้งนี้บริษัทได้ปรับแผนการทำตลาดโดยปรับสัดส่วนการนำเข้าจอแอลซีดีที่ไม่มีดีวีไอ พอร์ต เข้ามาจำหน่ายแทน จากเดิมสัดส่วนอยู่ที่ 50 : 50 มาเป็น 90 : 10 แทน
นายชาร์ลี หลาน ประธานบริษัท ต้าถุง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าวเพราะมีฐานการผลิตในไทยอยู่แล้ว จึงไม่ถูกเก็บภาษีนำเข้า เช่นเดียวกับค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นก็ไม่ได้ทำให้ผลกำไรลดลง เนื่องจากบริษัทปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตทำให้มีผลิตภาพเพิ่มขึ้น 15%
นายชวลิต เศรษฐเมธีกุล อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลกากรได้รับหนังสือร้องเรียนผู้ประกอบการนำเข้าชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์แล้ว ในกรณีที่ผู้ประกอบการมีความเห็นว่า เจ้าหน้าที่อาจใช้ดุลพินิจตีความไม่ถูกต้อง ซึ่งตนได้นำเรื่องบรรจุเป็นวาระการพิจารณาของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร ส่วนผลสรุปจะออกมาเป็นอย่างไรคงต้องขอตรวจสอบข้อมูลก่อน เพราะปัจจุบันจอแอลซีดีพัฒนารูปแบบไปมาก บางประเภทรับชมได้ทั้งภาพและเสียงอยู่ในข่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป
ที่มา : http://www.pantip.com/tech/hardware/...HS2407360.html
เอาข่าวจากประชาชาติธุรกิจมาให้อ่านกันครับ
พิษปรับภาษีดันราคาจอคอมฯดิจิทัลแอลซีดีพุ่ง ยักษ์ผู้ผลิตเบรกนำเข้าลุ้นกรมศุลฯกลับลำ
ตลาดจอคอมพิวเตอร์ "แอลซีดี" มูลค่า 5,000 ล้านบาทป่วน ยักษ์ผู้ผลิตปรับแผนเบรกนำเข้า "ดิจิทัล แอลซีดี" หลังกรมศุลกากรปรับพิกัดคิดภาษีนำเข้าจาก 0% เป็น 20% ดันต้นทุนราคาสินค้าพุ่งกระฉูด "แอลจี" เผยหารือบริษัทแม่ย้ายฐานการผลิตมาไทย เพื่อรับมือปัญหาระยะยาว ด้านอธิบดีกรมศุลฯรับลูก ส่งต่อคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีพิจารณา
นายกมล โคตรภูชัย ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ ไอที บริษัท แอลจี อิเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากกรณีที่กรมศุลกากรได้ปรับการคิดภาษีนำเข้าจอคอมพิวเตอร์ประเภทแอลซีดี ที่มี DVI port (digital visual interface) ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จากเดิมที่อยู่ในหมวดชิ้นส่วน คอมพิวเตอร์ภาษีนำเข้า 0% ย้ายไปอยู่หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์
เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อรับสัญญาณทีวีได้ และต้องมีภาระภาษีนำเข้าเพิ่มเป็น 20% ทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะทำให้ตลาดชะงัก โดยเฉพาะแอลจีนั้นจอแอลซีดีที่นำเข้ามาทำตลาดส่วนใหญ่จะเป็นโมเดลมีดีวีไอ พอร์ต เนื่องจากเป็นเทรนด์เทคโนโลยีของตลาด เพื่อรองรับการใช้งานมัลติมีเดียได้หลากหลาย
โดยปัจจุบันกว่า 40% ของยอดขายจอแอลซีดี ของแอลจีเป็นจอประเภทที่มีดีวีไอ พอร์ต ซึ่งผู้บริโภคนิยมมาก เนื่องจากระดับราคาของโมเดลที่มีดีวีไอ พอร์ต จะมีระดับราคาสูงกว่าโมเดลที่ไม่มีดีวีไอ พอร์ตเพียง 300-400 บาทเท่านั้น
ขึ้นภาษีพ่นพิษเดือนเดียวปรับราคา 3 ครั้ง
นายกมลกล่าวว่า จากปัญหาดังกล่าวมาตรการระยะสั้นที่บริษัททำได้คือชะลอการนำเข้าจอแอลซีดี ที่มีดีวีไอ พอร์ตเข้ามาทำตลาด เพราะเกรงว่าหากนำเข้ามาทำตลาดโดยที่มีต้นทุนเพิ่มขึ้นอีก 20% ในแง่ของผู้บริโภคจะไม่ตอบรับ เพราะจากระดับราคาที่แตกต่างกันมาก ก็เชื่อว่าผู้บริโภคก็จะเลือกซื้อรุ่นที่ไม่มีดีวีไอ พอร์ตแทน
อย่างไรก็ตามเนื่องจากการสั่งสินค้าเข้ามาทำตลาดเป็นการสั่งล่วงหน้า 2 เดือน ทำให้สินค้าลอตล่าสุดที่เข้ามายังมีรุ่นที่มีดีวีไอ พอร์ตเข้ามาทำตลาด แต่จากที่ต้องเสียภาษีนำเข้า 20% ทำให้ช่วงเดือนที่ผ่านมามีการปรับขึ้นราคาจอแอลซีดีไป 3 ครั้งแล้ว ทั้งนี้บริษัทได้ทยอยปรับขึ้นราคาโดยการนำมาเฉลี่ยต้นทุนกับสินค้าที่อยู่ในสต๊อกเดิม หลังจากนี้คงเบรกการนำเข้ารุ่นที่มีดีวีไอ พอร์ตและเลือกรุ่นที่ไม่มีดีวีไอ พอร์ตเข้ามาทำตลาดแทน
ทั้งนี้เดิมจอแอลซีดีประเภทที่มีดีวีไอ พอร์ต ขนาด 19 นิ้ว ไวด์สกรีน ราคาที่ขายในงานคอมมาร์ทเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 6,790 บาท แต่ล่าสุดบริษัทได้ปรับขึ้นราคามาอยู่ที่ 7,900 บาท
นายกมลกล่าวว่า ที่ผ่านมากลุ่มผู้ผลิตและผู้นำเข้าได้รวมตัวกันยื่นหนังสือถึงกรมศุลกากรให้ทบทวน คาดว่าจะได้รับคำตอบใน 1-2 เดือนนี้ อย่างไรก็ตามหากไม่ได้รับการแก้ไข บริษัทได้หารือกับทางบริษัทแม่เพื่อหามาตรการแก้ปัญหาระยะยาว ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการย้ายฐานการผลิตจอแอลซีดีรุ่นที่มีดีวีไอ พอร์ตเข้ามาอยู่ในประเทศไทย เนื่องจากปัจจุบันแอลจีมีโรงงานผลิตจอแอลซีดีทีวีอยู่แล้ว สามารถปรับมาใช้เป็นฐานการผลิตจอคอมพิวเตอร์แอลซีดีได้
ทั้งนี้มูลค่าตลาดจอคอมพิวเตอร์เมืองไทยปีนี้อยู่ที่ประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท โดย 80%ของตลาดเป็นจอแอลซีดี และ 20% เป็นจอซีอาร์ที สำหรับผู้ผลิตที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในตลาดจอแอลซีดี ได้แก่ ซัมซุง, เอเซอร์ และแอลจี
ผู้ประกอบการแห่ชะลอนำเข้า
ด้านนายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดอาวุโส บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ในช่วงแรกเอเซอร์คงต้องชะลอการนำเข้าจอแอลซีดีรุ่นที่มีดีวีไอ พอร์ต เพราะต้นทุนที่เพิ่มขึ้น 20% อาจทำให้ความต้องการของตลาดลดลง บริษัทจะเลือกโมเดลที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับพิกัดอัตราภาษีเข้ามาทำตลาดแทน
ขณะที่นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เบ็นคิว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าวมาก เนื่องจากกว่า 50% ของจอแอลซีดีที่เบ็นคิวนำเข้ามาจำหน่ายคือรุ่นที่มีดีวีไอ พอร์ต การเพิ่มภาษีทำให้ต้นทุนและราคาสูงขึ้น
ทั้งนี้บริษัทได้ปรับแผนการทำตลาดโดยปรับสัดส่วนการนำเข้าจอแอลซีดีที่ไม่มีดีวีไอ พอร์ต เข้ามาจำหน่ายแทน จากเดิมสัดส่วนอยู่ที่ 50 : 50 มาเป็น 90 : 10 แทน
นายชาร์ลี หลาน ประธานบริษัท ต้าถุง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าวเพราะมีฐานการผลิตในไทยอยู่แล้ว จึงไม่ถูกเก็บภาษีนำเข้า เช่นเดียวกับค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นก็ไม่ได้ทำให้ผลกำไรลดลง เนื่องจากบริษัทปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตทำให้มีผลิตภาพเพิ่มขึ้น 15%
นายชวลิต เศรษฐเมธีกุล อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลกากรได้รับหนังสือร้องเรียนผู้ประกอบการนำเข้าชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์แล้ว ในกรณีที่ผู้ประกอบการมีความเห็นว่า เจ้าหน้าที่อาจใช้ดุลพินิจตีความไม่ถูกต้อง ซึ่งตนได้นำเรื่องบรรจุเป็นวาระการพิจารณาของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร ส่วนผลสรุปจะออกมาเป็นอย่างไรคงต้องขอตรวจสอบข้อมูลก่อน เพราะปัจจุบันจอแอลซีดีพัฒนารูปแบบไปมาก บางประเภทรับชมได้ทั้งภาพและเสียงอยู่ในข่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป
ที่มา : http://www.pantip.com/tech/hardware/...HS2407360.html
Comment