Announcement

Collapse
No announcement yet.

รีวิวทดสอบ สายไฟ ac + ปลั๊กพ่วง ครับ

Collapse
This is a sticky topic.
X
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • #31
    Originally posted by cheedman007 View Post
    ค่าความต้านทาน นี้ต้องเท่าไหร่ถึงจะดีครับ ยิ่งน้อยยิ่งดีหรอครับ

    แล้วถ้าเกิดผมเอาสาย AC ที่แพงๆ แบบ สาย AC ของตู้ลำโพงมาเสียบแทนสาย AC ที่แถมมากับ Power Supply มันจะดีกว่าใช่หรือไม่ครับ
    อีกอย่าง มันจะประหยัดไฟกว่าหรือไม่ครับ
    สำหรับตัวนำไฟฟ้า ค่าความต้านทานไฟฟ้า ยิ่งน้อยยิ่งดีครับ
    สายไฟ ac ที่เราใช้กัน มาตราฐานจะใช้ลวดทองแดงเป็นตัวนำ
    ซึ่งเค้าจะมีบอกค่าความต้านทานไฟฟ้าตรงนี้ (copper resistance)
    ถ้าดูตามเบอร์ awg ก็ดูได้ตามลิ้งค์นี้ครับ
    http://en.wikipedia.org/wiki/American_wire_gauge

    ถ้าขนาดไม่ตรงกับเบอร์ awg เช่น บ้านเราชอบใช้เป็น 0.5 มิล , 1 มิล
    เราก็ดูว่าใกล้เคียงเบอร์ไหน ก็เอาเบอร์นั้น
    ถ้าไม่ใกล้เคียง ต้องเอามาเทียบพื้นที่หน้าตัด แล้วคำนวณเอาเองครับ
    เค้าบอกเป็น miliohm/เมตร เราก็เอามาคูณความยาวสายไฟ จะได้ค่าความต้านทานไฟฟ้าที่ควรจะเป็นครับ

    สายไฟขนาดยิ่งใหญ่(อ้วน) ความต้านทานไฟฟ้ายิ่งน้อย
    สายไฟยิ่งยาว ความต้านทานไฟฟ้ายิ่งมาก
    ถ้าเราวัดความต้านทานไฟฟ้า แล้วได้ใกล้เคียงกับมาตราฐาน ก็มั่นใจได้ว่าเป็นทองแดงแท้ๆ
    แต่จะเห็นบางเส้น วัดได้เกินหลายเท่า แสดงว่าเค้าเอาพวกเหล็กสังกะสีมาปนเพื่อลดต้นทุน ซึ่งไม่ดี
    เช่น เส้นที่ห้า 1.5 มิล ดูภายนอก เส้นใหญ่ได้ใจ
    แต่จริงๆข้างใน ไม่ใช่ทองแดงแท้ วัดความต้านทานไฟฟ้า ยังสู้สายไฟ มอก. 0.75 มิลไม่ได้เลยครับ

    สาย AC ของตู้ลำโพงมาเสียบแทนสาย AC ที่แถมมากับ Power Supply
    ปกติแล้วไม่ช่วยอะไรนะ
    เว้นแต่ว่า สายแถมมาเล็กเกิน หรือคุณภาพไม่ดี อันนั้นก็ว่ากันอีกเรื่อง

    หรือถ้าคอมใช้ไฟเยอะมากจริง กินไฟจริงเกิน 1000W
    (ซึ่งยังไม่เคยเจอนะ เห็นแต่ใช้ psu 1500W แต่กินไฟจริงไม่กี่ร้อย)
    แบบนี้ ถ้าใช้สายไฟ ac ดีๆเส้นใหญ่ๆ จะช่วยเรื่องประสิทธิภาพได้บ้างครับ
    เหมือน 80+ แพลตตินั่มนั่นเลย คือ ค่าความต้านทานไฟฟ้ายิ่งน้อย V drop ก็น้อยตาม
    จะเกิดการสูญเสียที่สายไฟน้อยลงครับ
    แต่เราใช้งานจริง ต้องมาดูเรื่องราคาว่าคุ้มรึเปล่าด้วยครับ

    Comment


    • #32
      ขอบคุณที่ตอบข้อสงสัยครับ ขอบคุณมากๆ

      Comment


      • #33
        ขอบคุณครับ สงสัยต้องดูปลั๊กที่บ้านบ้างละ

        Comment


        • #34
          m shifu kung จัดเต็มแฮะ ^ ^

          ปล.ท่านน่าจะ มี กราฟบอกสักหน่อยนะครับ ว่า "เรท" เท่าใหร่ แย่ เท่าใหร่ ดี
          เห็นบางอัน 90+ ท่านบอกว่าพอใช้ได้ อีกอัน 69 ท่านบอก แย่ เลยงงๆ แต่เท่าที่อ่านมา ยิง ความต้านทานของสายไฟน้อย ยิ่งดี ใช่มั้ยครับ

          **เห็นลิ้งข้างบน น่าจะตารางนี้



          ขอบคุณสำหรับข้อมูล ดีๆครับ
          Last edited by KOTONOHA; 15 Mar 2013, 13:41:18.

          Comment


          • #35
            เพิ่มเติมครับ

            สมุมติว่า มี psu สองตัว ทดสอบแแล้ว พวก ripple ,noise ,ประสิทธิภาพ ฯลฯ ทุกอย่างเหมือนกันหมดนะ
            ต่างกันแค่ความสามารถในการจ่ายกระแสไฟ
            psu A จ่ายได้ 400W
            psu B จ่ายได้ 200W
            ถ้าเราถามว่า ตัวไหนดีกว่ากัน เราก็บอก A ดีกว่า B แน่นอน เพราะจ่ายไฟได้มากกว่า

            แต่ถ้าสมมุติว่า ฉลาก A ระบุว่า จ่ายได้ 600W
            เราจะบอกว่า psu A ตกสเปค ไม่ดี หลอกลวงผู้บริโภค
            เพราะบอก 600W แต่จ่ายได้จริงแค่ 400W นี่มันวัตต์ไม่เต็ม วัตต์เทียม ควรแจ้ง สคบ.นะ

            ส่วน ฉลาก B ถ้าระบุว่า จ่ายได้ 200W
            แบบนี้ เราบอกว่าวัตต์เต็ม วัตต์แท้ เพราะจ่ายได้จริงตามที่เค้าบอก

            จะเห็นว่า ถ้าเราดูแค่ความสามารถจริง A ดีกว่า B
            แต่พอเราดูฉลาก เรากลับบอกว่า A ไม่ดี ส่วน B บอกว่า ดี

            ------------------------

            สายไฟก็เช่นเดียวกัน
            สายไฟที่เราใช้กัน ความต้านทานไฟฟ้ายิ่งน้อยยิ่งดี
            แต่ถ้าถามว่า ได้มาตราฐานหรือเปล่า ต้องดูฉลาก เหมือนกับ psu

            จากตัวอย่างข้างบน จะเห็นว่า
            psu ที่จ่ายกระแสได้มาก อาจไม่ได้มาตราฐาน
            ขณะที่ psu ที่จ่ายกระแสได้น้อยกว่า อาจได้มาตราฐาน

            สำหรับบ้านเรา มาตราฐานของสายไฟ ac ต้องเป็นทองแดง ซึ่งนำกระแสไฟได้ดีกว่าโลหะอื่น

            ฉลากของสายไฟ คือ พื้นที่หน้าตัดของตัวนำที่เป็นทองแดง
            บ้านเรานิยมบอกตรงๆเป็นตารางมิลิเมตร แต่เรียกสั้นๆว่า มิล เช่น 0.5 mm2 ,0.75 mm2 ,1 mm2 ฯลฯ
            แต่เมืองนอก นิยมบอกเป็นเบอร์ awg ซึ่งต้องไปดูตารางอีกทีว่า เบอร์นั้นมีพื้นที่หน้าตัดกี่ตารางมิลิเมตร

            ลองเปิดเว็บนี้ http://en.wikipedia.org/wiki/American_wire_gauge
            ดูที่เบอร์ 18 เค้าจะบอก area(พื้นที่หน้าตัด) = 0.823 mm2
            สายไฟเส้นนี้พิมพิ์ 0.824 mm2 (เค้าปัดเศษมั้ง) ถือว่าตรงกัน


            ถ้าดูที่เบอร์ 16 เค้าจะบอก area(พื้นที่หน้าตัด) = 1.31 mm2
            ผมถึงบอกว่า haco ที่ติดฉลากว่า 3x1.5 mm2 ควรไปแก้ฉลากให้ถูกต้อง

            ทีนี้ลองดูสายไฟเส้นที่ห้า 1.5 มิล (#6)
            ถ้าเราดูตาราง awg มันจะอยู่ระหว่างเบอร์ 16 กับเบอร์ 15 (1.31 mm2 - 1.65 mm2)
            เราสามารถหาความต้านทานของสายไฟขนาด 1.5 มิล ได้โดยเทียบพื้นที่หน้าตัด
            ตารางเค้าบอก เบอร์ 16awg 1.31 mm2 มีความต้านทานไฟฟ้า 13.17 miliohm /เมตร
            เราจะหาของ 1.5 มิล ก็เอา 13.17 คูณ 1.31 หาร 1.5 จะได้ 11.5 miliohm /เมตร
            สายไฟเส้นนี้ ผมวัดได้ยาว 1.71 เมตร
            จึงควรมีความต้านทานไฟฟ้า = 1.71 x 11.5 = 19.67 miliohm
            แต่ผมวัดจริงได้ 79 miliohm มากกว่าที่ควรจะเป็นถึง 4 เท่า !
            แสดงว่า เค้าเอาโลหะราคาถูกไปปนเยอะมาก ซึ่งแย่มากๆครับ

            ส่วนเส้นที่สิบ 18awg มีความต้านทานไฟฟ้า 20.95 miliohm /เมตร
            สายไฟเส้นนี้ ผมวัดได้ยาว 1.72 เมตร
            จึงควรมีความต้านทานไฟฟ้า = 1.72 x 20.95 = 36.03 miliohm
            แต่ผมวัดจริงได้ 95 miliohm มากกว่าที่ควรจะเป็นถึง 2.6 เท่า !
            แสดงว่า เค้าเอาโลหะราคาถูกไปปนเหมือนกัน แต่ไม่แย่เท่าเส้นที่ห้า อันนี้ก็เลยจัดว่าพอใช้ครับ

            ทีนี้ ลองดูเส้นที่แปด 0.75 มิล จะมีความต้านทานไฟฟ้า 23 miliohm /เมตร
            สายไฟเส้นนี้ ผมวัดได้ยาว 1.6 เมตร
            จึงควรมีความต้านทานไฟฟ้า = 1.6 x 23 = 36.8 miliohm
            แต่ผมวัดจริงได้ 50 miliohm คิดแล้วเป็น 1.36 เท่า คือเกินมาแค่ 36%
            แบบนี้ถือว่าดี ได้มาตราฐาน
            เพราะ ตาราง awg ที่เราเอามาคิด เป็นตัวนำทองแดงล้วนๆ
            แต่สายไฟที่เราวัด มีการต่อเชื่อมเต้าเสียบ ซึ่งจะทำให้ความต้านทานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย
            ค่าที่เราวัดได้จริง ปกติจึงมากกว่าเล็กน้อยครับ (แต่ไม่ใช่หลายเท่าตัวแบบเส้นที่ห้า)
            Last edited by m shifu; 15 Mar 2013, 18:33:02.

            Comment


            • #36
              ยอดเยี่ยมเลยครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ บททดสอบเจ๋งๆที่เสียเวลานำมาให้ชมกันนะครับ

              ปล. ขออนุญาตแบ่งปันนะครับ เพื่อจะได้เห็นกันทั่วๆ

              Comment


              • #37
                เยี่ยมมากครับ ได้ความรู้เยอะเลย

                Comment


                • #38
                  แจ่มมากๆเลย

                  Comment


                  • #39
                    ยังงี้สรุปแล้วปลั้กที่เขาโฆษณาว่ากันไฟกระชาก หรือ กรองไฟให้เรียบ มันมีผลไหมครับ เพราะตัวผมเองซื้อรางปลัก BELKIN ตัวที่มีไฟกันกระชากมา กำลังคิดจะเปลียนเป็นตัวที่มีกรองไฟให้เรียบด้วย ถ้ามันไม่ได้ช่วยอะไรเพิ่มก็คงจะใช้ตัวเดิมต่อ

                    Comment


                    • #40
                      เป็นความรู้อย่างมากเลยครับ

                      เพราะปกติคนส่วนมาก ไม่ค่อยรู้กัน

                      จะเน้นเเต่ของถูกๆๆ

                      Comment


                      • #41
                        ใช้ยี่ห้อ DATA อะครับ ตอนแรกกะจะซื้อBELKIN ไปหายังไงก็ไม่เจอ พอกลับไปหาซื้อของอีกรอบดันเจอ อยู่ล็อกเดียวกัน แต่เสามันบังอยู่ เซงเป็ดเซงไก่จริงๆ

                        Comment


                        • #42
                          ยอดเยี่ยมครับ

                          Comment


                          • #43
                            ขอบคุณมากครับ

                            Comment


                            • #44
                              ผมทำเองครับ ทำตั้งกะปี 54 แล้ว ออิอิ ปัจจุบัน ใช้งานได้ดีอยู่ครับ
                              http://topicstock.pantip.com/home/to...R10792556.html

                              Comment


                              • #45
                                Originally posted by ZoLKoRn View Post
                                ยอดเยี่ยมเลยครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ บททดสอบเจ๋งๆที่เสียเวลานำมาให้ชมกันนะครับ

                                ปล. ขออนุญาตแบ่งปันนะครับ เพื่อจะได้เห็นกันทั่วๆ
                                ยินดีครับท่านซอล ^___^

                                Originally posted by noppon1412 View Post
                                ยังงี้สรุปแล้วปลั้กที่เขาโฆษณาว่ากันไฟกระชาก หรือ กรองไฟให้เรียบ มันมีผลไหมครับ เพราะตัวผมเองซื้อรางปลัก BELKIN ตัวที่มีไฟกันกระชากมา กำลังคิดจะเปลียนเป็นตัวที่มีกรองไฟให้เรียบด้วย ถ้ามันไม่ได้ช่วยอะไรเพิ่มก็คงจะใช้ตัวเดิมต่อ
                                ขอตอบแบบความเห็นส่วนตัวนะ
                                ถ้าเป็นปลั๊กพ่วงที่ขายกันทั่วไป มันช่วยได้แบบไม่มีนัยสำคัญครับ
                                mov ที่เค้าใส่มา มันทนกำลังงานได้อย่างมากแค่ 1 วัตต์
                                ถ้าเจอฟ้าผ่า หรือ faulty ในระบบไฟฟ้า แบบของจริง ปกติจะรุนแรงรับมือยากมาก

                                ใน ups ปกติก็มี mov หรือใน psu บางตัวก็มี mov
                                ผมเคยเจอฟ้าผ่าใกล้บ้าน ตอนที่กำลังเข้าเว็บ ocz นี่แหละ
                                เปรี้ยงเดียว ups psu รวมถึงจอ lcd กลับบ้านเก่าหมด เห็นรอยไหม้บนแผ่นปริ้นท์ชัดเจนครับ
                                ดังนั้น ในทางปฎิบัติ มันช่วยได้แค่ไหน ผมว่าอยู่ที่ดวงมากกว่า

                                ส่วนเรื่องกรองไฟ ถ้าเป็นปลั๊กพ่วงทั่วไปที่บอกว่ามี ผมเห็นเค้าใส่ C เล็กๆมาแค่ตัวเดียว (เหมือนของ data หน้าแรก)
                                ซึ่งถ้าเทียบกับที่เราเห็นในรีวิว psu ต่างๆ จะเห็นว่า ของ psu ดีกว่าเยอะ ครบเครื่องกว่าเยอะ
                                การกรองไฟที่ถูกต้อง จะเหมือนกับที่เราเห็นใน psu เทพๆ
                                คือเป็น emi filter ต้องมี L แบบ 2 ขดลวด มี Cx ,Cy แบบดีหน่อยก็ซ้อนสองชั้น
                                ซึ่งปลั๊กกรองไฟแบบที่เป็น emi filter อย่างนี้ก็มีขายครับ
                                แต่พวกนี้ผมเห็นเค้าตั้งราคาแพงมาก ตัวนึงห้าพันบาทอย่างงี้นะ ราคาแบบนี้ผมเองก็ซื้อไม่ลงครับ

                                พวกปลั๊ก emi filter ราคาแพงพวกนี้ ช่วยกรองไฟได้ดีในระดับนึง แต่ไม่ใช่ทำให้หมดไป
                                ดังนั้น ต้องทดลองใช้จริง จึงจะบอกได้ว่า มันช่วยได้ในระดับที่เราพอใจรึเปล่า
                                ผมเคยเอามาต่อซ้อนกันสามตัว ก็ยังกรอง spike ที่บ้านผม(ทำให้เกิดเสียงจี่)ไม่ได้
                                แต่บ้านคนอื่น ตัวเดียวมันกรองได้
                                ของแบบนี้ต้องลองก่อน คนขายบางคน เค้าเลยยินดีคืนเงิน ถ้าใช้แล้วไม่พอใจครับ

                                สรุปว่า ถ้าคอมผมใช้งานได้ปกติ ผมไม่สนใจซื้อปลั๊กที่มี emi filter นะ เพราะไม่จำเป็น

                                Originally posted by vader007 View Post
                                ผมทำเองครับ ทำตั้งกะปี 54 แล้ว ออิอิ ปัจจุบัน ใช้งานได้ดีอยู่ครับ
                                http://topicstock.pantip.com/home/to...R10792556.html
                                ทำเอง สวยสู้ที่เค้าทำขายไม่ได้
                                แต่เท่กว่า ใช้แล้วมั่นใจกว่าเยอะ อิ อิ

                                Comment

                                Working...
                                X