ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
เครื่องนี้ผมได้มาจากอังกฤษครับ คนเค้าซื้อฝากมาให้ ปลั๊กเลยเป็นอีกแบบครับ
แต่ว่า ด้านหลังดันพิมพ์ว่า เมดอินจีนแดง หุๆๆ ไปไกลจริงๆ ราคาประมาณ 14 ปอนด์ครับ
ส่วนค่าที่วัดจากเครื่องตัวนี้ ปกติผมจะเสียบเอาไว้ตลอดครับ เพราะหลังจากใช้งานเสร็จ มันจะบอกจำนวนกิโลวัตต์ที่เราใช้ไปทั้งหมดในครั้งนั้น พร้อมด้วย เวลาที่ใช้ไฟไปทั้งหมดครับ
ถ้าใครต้องการเจ้าเครื่องนี้ ตอนนี้ผมมีอยู่ 4 เครื่องครับ แยกไปตามคอมแต่ละเครื่องเลย
ใครอยากแบ่งซื้อไปสักตัว ขายให้ได้เท่าราคาซื้อมาครับ ใช้ไฟ 220 - 230 โวลท์ได้โดยไม่ต้องไปหาหม้อแปลงแปลงไฟครับ เสียบแล้วใช้งานได้เลย ข้อดีคือ ทราบจำนวนวัตต์ที่ใช้ไปทั้งหมดครับ ก็พอจะทราบว่า คอมเรากินไฟไปเท่าไหร่ ง่ายดีครับ ไม่ต้องคิดมาก เครื่องบอกเองให้หมด
ส่วนค่า PF นี่คือความสามารถของระบบในการดึงพลังงานมาใช้ โดยคิดเป็นอัตราส่วนระหว่างกำลังทางไฟฟ้าที่ดึงมาจริง เทียบกับปริมาณกำลังไฟฟ้าสูงสุดที่เป็นไปได้ของระบบ ถ้าศักยภาพที่เป็นไปได้สูงแต่สามารถดึงกำลังไฟฟ้ามาจริงได้ต่ำ ก็คือ Power factor ต่ำ แต่ถ้าดึงกำลังไฟฟ้ามาได้ใกล้เคียงกับศักยภาพสูงสุดที่เป็นไปได้ ก็คือ Power factor สูง สูตรตามนี้คือ P.F. = Active Power(kW)/Apparent Power (kVA) ซึ่ง ค่าก็จะไม่เกิน 1 ครับ
ส่วนค่า Efficiency ตัวนี้ ทางผู้ผลิตเค้าเคลมมาเป็นที่เรียบร้อยครับ โดยเราจะเห็นฉลากที่บอกว่า 80+ คือ ค่า efficiency เกิน 80 แน่นอน สะท้อนถึง ประสิทธิภาพของอุปกรณ์ตัวนั้นครับ
สรุปคือ ลงทุนกับซัพพลายดีๆหน่อย แพงตอนซื้อครั้งแรกครับ ระยะยาว คุ้มค่ากว่าถ้าใช้คอมตลอดครับ
เครื่องนี้ผมได้มาจากอังกฤษครับ คนเค้าซื้อฝากมาให้ ปลั๊กเลยเป็นอีกแบบครับ
แต่ว่า ด้านหลังดันพิมพ์ว่า เมดอินจีนแดง หุๆๆ ไปไกลจริงๆ ราคาประมาณ 14 ปอนด์ครับ
ส่วนค่าที่วัดจากเครื่องตัวนี้ ปกติผมจะเสียบเอาไว้ตลอดครับ เพราะหลังจากใช้งานเสร็จ มันจะบอกจำนวนกิโลวัตต์ที่เราใช้ไปทั้งหมดในครั้งนั้น พร้อมด้วย เวลาที่ใช้ไฟไปทั้งหมดครับ
ถ้าใครต้องการเจ้าเครื่องนี้ ตอนนี้ผมมีอยู่ 4 เครื่องครับ แยกไปตามคอมแต่ละเครื่องเลย
ใครอยากแบ่งซื้อไปสักตัว ขายให้ได้เท่าราคาซื้อมาครับ ใช้ไฟ 220 - 230 โวลท์ได้โดยไม่ต้องไปหาหม้อแปลงแปลงไฟครับ เสียบแล้วใช้งานได้เลย ข้อดีคือ ทราบจำนวนวัตต์ที่ใช้ไปทั้งหมดครับ ก็พอจะทราบว่า คอมเรากินไฟไปเท่าไหร่ ง่ายดีครับ ไม่ต้องคิดมาก เครื่องบอกเองให้หมด
ส่วนค่า PF นี่คือความสามารถของระบบในการดึงพลังงานมาใช้ โดยคิดเป็นอัตราส่วนระหว่างกำลังทางไฟฟ้าที่ดึงมาจริง เทียบกับปริมาณกำลังไฟฟ้าสูงสุดที่เป็นไปได้ของระบบ ถ้าศักยภาพที่เป็นไปได้สูงแต่สามารถดึงกำลังไฟฟ้ามาจริงได้ต่ำ ก็คือ Power factor ต่ำ แต่ถ้าดึงกำลังไฟฟ้ามาได้ใกล้เคียงกับศักยภาพสูงสุดที่เป็นไปได้ ก็คือ Power factor สูง สูตรตามนี้คือ P.F. = Active Power(kW)/Apparent Power (kVA) ซึ่ง ค่าก็จะไม่เกิน 1 ครับ
ส่วนค่า Efficiency ตัวนี้ ทางผู้ผลิตเค้าเคลมมาเป็นที่เรียบร้อยครับ โดยเราจะเห็นฉลากที่บอกว่า 80+ คือ ค่า efficiency เกิน 80 แน่นอน สะท้อนถึง ประสิทธิภาพของอุปกรณ์ตัวนั้นครับ
สรุปคือ ลงทุนกับซัพพลายดีๆหน่อย แพงตอนซื้อครั้งแรกครับ ระยะยาว คุ้มค่ากว่าถ้าใช้คอมตลอดครับ
Comment