Announcement

Collapse
No announcement yet.

EACAN A-500L เสียงมันประมาณนี้เหรอครับ

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • EACAN A-500L เสียงมันประมาณนี้เหรอครับ

    คือ ว่าเห็นหลายท่านเขียนบอกว่าเสียงดีและให้เสียงเบสที่หนักแน่น ก็เลยกะจะหา
    มาไว้เป็นลำโพงคู่ใจซักตัว พอดีไปแวะร้านขายคอมแถวหอพักเห็นวางขายอยู่พอดี
    เลยรีบถอยมาอย่างไม่มีลังเลใจ พอมาถึงห้อง รีบต่อเข้าคอมเสร็จสรรพ แต่พอเปิดลอง
    เสียงเกิดอาการ งงนิดๆ คือเสียงเบสที่ออกมานี่เบาบางมาก เสียงกระเดื่องไม่ตึ้บเลย
    ถ้าไม่ตั้งใจฟังดีๆ นี่แทบไม่ค่อยได้ยินเสียงเบสเลยครับ เลยลองหมุนเพิ่มเบสเยอะๆ
    เสียงก็อื้ออึงอูมอามตามคาด คือถ้าโดยรวมก็ถือว่าให้เสียงที่ไม่น่าเกลียดนะครับ แต่ผมสงสัยว่า
    ทำตู้ซับซะมโหฬาร (ตอนแบกมาจากร้านยังนึกหวั่นๆ อยู่ว่าเสียงจะดังเกินไปรบกวนข้างห้องมั้ยหว่า)
    แต่ทำไมเสียงเบสออกมาเบ้าเบา ไม่ทราบว่าของท่านอื่นเป็นแบบผมรึปล่าวครับ การเบิร์นลำโพง
    จะช่วยให้อาการดีขึ้นมั้ยครับ(ผมรู้สึกว่าเบสยังแข็งๆ และไม่แน่นเท่าไร) ตำแหน่งการวางมีผลมั้ยครับ
    ผมวางตูซับไว้บนโต๊ะคอม ข้างจอเลยครับให้หูอยู่ไกล้ๆ ตู้เลยเผื่อจะได้ยินเบสแรงขึ้น อิๆ
    ยังไงรบกวน ช่วยแนะนำด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

  • #2
    "burn-in" คืออะไร?
    การ "burn-in" หรือที่มักเรียกติดปากคนไทยว่าการเบิร์นนั้นจริงๆถ้าจะเทียบก็คล้ายๆการ run-in รถยนต์ใหม่ให้เครื่องเข้าที่ครับ แต่หลายๆท่านจะเข้าใจว่าหูฟังนั้นเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า จะไปเทียบกับรถยนต์ไม่ได้ แต่จริงๆแล้วหูฟังจะมีพวกแผ่นไดอะแฟรมที่เคลื่อนไหวให้เกิดเสียงครับ การ "burn-in" หูฟัง หรือลำโพงนั้นก็คือการทำให้แผ่นไดอะแฟรมเหล่านี้เข้าที่เข้าทาง มีการให้ตัวตามที่ควรจะเป็นไม่ได้ตึงแน่นเหมือนกับตอนที่เขาประกอบมาจากโรงงานครับ ซึ่งเมื่อ "burn-in" เข้าที่เข้าทางแล้วคุณภาพเสียงที่ออกมาจากหูฟังก็จะไม่เปลี่ยนไปจากนั้นแล้วครับ เพราะไดอะแฟรมจะเข้าที่แล้ว

    ถ้าจะ "burn-in" หูฟังหรือลำโพงควรจะทำอย่างไร?
    การ "burn-in" นั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรครับ แค่ต่อหูฟัง หรือลำโพงเข้ากับแหล่งกำเนิดเสียง จะเป็นวิทยุ AM/FM หรือ CD หรือ MP3 ก็ได้ครับ แล้วก็เปิดให้มีเสียงออกมาจากหูฟังไปเรื่อยๆต่อเนื่อง เท่าที่อ่านดูจากหลายๆแห่งก็แนะนำให้ "burn-in" เป็นระยะเวลาสัก 100ชั่วโมงขึ้นไป หูฟัง หรือชุดลำโพงนั้นก็จะเข้าที่เข้าทางแสดงเสียงออกมาดูดีมีราคาขึ้นกว่าตอนที่ซื้อมาครับ แต่ถ้าไม่อยากจะเปิดเพลงทิ้งให้หูฟัง "burn-in" ต่อเนื่องก็จะสามารถใช้ฟังเพลงตามปรกติไปเรื่อยๆได้ครับ ก็ถือว่า "burn-in" ได้เช่นกัน แต่แบบนี้กว่าจะ "burn-in" ได้ที่ก็ต้องใช้ระยะเวลานานกว่าสักระยะหนึ่ง ดังนั้นหลายๆคนจึงเลือกที่จะ "burn-in" หูฟังทิ้งไว้ต่อเนื่องก่อนที่จะนำไปใช้งานจริงครับ นอกจากจะ "burn-in" ด้วยเพลง หรือสัญญาณเสียงจากวิทยุแล้ว บางท่านก็จะมีโปรแกรมสำหรับ generate คลื่นเสียงออกมาสำหรับ "burn-in" หูฟังโดยเฉพาะครับ ลองหาโหลดมาใช้ได้ ซึ่งผลที่ได้รับในท้ายสุดก็คือไดอะแฟรมจะถูกปรับสภาพให้เข้าที่เช่นกันครับ ก็เลือกวิธีตามสะดวกได้เลยครับ ส่วนระหว่างการ "burn-in" นั้นจะเอาหูฟังมาสวมฟังเพลงไปเลย หรือจะเอาไปยัดใต้โต๊ะก็ได้เช่นกันครับ

    จำเป็นที่จะต้อง "burn-in" หูฟังให้เสร็จก่อนที่จะนำไปใช้จริงหรือไม่?
    ไม่จำเป็นครับอย่างที่บอกไว้แล้วคือแล้วแต่สะดวก เพราะถึงแม้ว่าจะแกะกล่องออกมาแล้วใช้งานเลย ใช้ไปสักระยะนึงหูฟังก็จะเข้าที่เข้าทางเช่นกัน ก็เป็นการ "burn-in" ชนิดหนึ่งได้ แต่หลายๆคนอยากจะให้เสียงของหูฟังเข้าที่ก่อนที่จะนำมาใช้งานจริง ก็มักจะเลือกที่จะทำการ "burn-in" ก่อนนำมาใช้งานจริง แต่ถ้าไม่สะดวกก็ไม่จำเป็นต้องลำบากครับ

    จำเป็นหรือไม่ที่หลังจาก "burn-in" แล้วเสียงของหูฟังจะดีขึ้นกว่าตอนซื้อมาใหม่มาก?
    ข้อนี้ก็ไม่จำเป็นเสมอไปครับ ต้องแล้วแต่รุ่น หรือแล้วแต่หูฟังแต่ละตัวเลยครับ บางตัวที่ประกอบมาแล้วพอดีชิ้นส่วนต่างๆเกือบจะเข้าที่อยู่แล้วพอ "burn-in" เสร็จก็แทบจะไม่เห็นผลเท่าใดนัก แต่บางตัวที่ส่วนประกอบไดอะแฟรมค่อนข้างจะตึงมากพอ "burn-in" แล้วก็จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากอย่างเห็นได้ชัดครับ การ "burn-in" เป็นการทำให้หูฟังเข้าที่ตามที่มันควรจะเป็นเฉยๆ ไม่ใช่การทำให้คุณภาพเสียงดีขึ้นกว่าที่ควรจะเป็นนะครับต้องเข้าใจในจุดนี้ด้วย

    การ "burn-in" นานเกินไปจะทำให้เกิดผลเสียหรือไม่?
    การ "burn-in" นั้นอย่างที่บอกไว้คือการทำให้ชิ้นส่วนขับเสียงของหูฟังเข้าที่เข้าทางอย่างที่มันควรจะเป็น และเมื่อ "burn-in" ถึงจุดนั้นแล้วชิ้นส่วนต่างๆก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากนั้นแล้ว ฉะนั้นถึงจะ "burn-in" นานกว่าเดิมไปเท่าไรเสียงก็จะยังคงเหมือนจุดที่ "burn-in" เข้าที่พอดีครับไม่มีผลใดๆ

    ระดับเสียงที่ใช้ระหว่าง "burn-in" ควรจะเป็นที่ประมาณเท่าใด?
    ระดับเสียงที่จะใช้นั้นก็ประมาณที่เราใช้ฟังเพลงปรกติและสบายหูละครับ หรืออาจจะดังกว่าที่เราฟังปรกตินิดๆหน่อย เพราะถ้าเปิดเสียงดังมากไปอาจจะสร้างความเสียหายให้หูฟังเสียไปได้เลยครับ ดังนั้นเสียงไม่ควรที่จะดังมากไปครับ แต่ถ้าเสียงเบามากไปก็จะไม่ค่อยมีผลในการ "burn-in" เช่นกันครับ

    Comment


    • #3
      = ="
      ผมว่าถ้าเน้น bass x3 ดีกว่านะครับ แต่ก็แพงกว่าเช่นกัน
      A500 ที่ไปฟังมาเบสก็ดีกว่าที่ จขกท. ได้อธิบายมาอ่ะครับ คงต้องรอ burn ไปก่อน ลำโพง polk ผมยังต้อง 20ชม.+ เลย

      Comment


      • #4
        ผมก็เพิ่งซื้อมา ยังเบรินอยู่เลย

        Comment


        • #5
          ใจเย็นๆเบิร์ินไปซัก 100 ชั่วโมงครับ แล้วอะไรๆมันจะดีขึ้นครับ

          Comment


          • #6
            ซับ เอาใว้ใต้โต๊ะเลยคับ

            Comment


            • #7
              ซับวางใว้ที่เท้า

              Comment


              • #8
                วางซับผิดตำเเหน่งมั้งครับ ตัวนี้เบสหนักนะครับ ฟังครั้งเเรกก้รู้สึกได้ครับ เเต่ความนุ่มยังน้อยกว่า x3

                Comment


                • #9
                  เช็คเฟสลำโพงครับ แวะมาทิ้งทุน อิอิอิอิ

                  Comment


                  • #10
                    ขอบคุณคุณทุกท่านที่ให้คำแนะนำครับ เดี๋ยวผมจะลองดูครับ

                    Comment


                    • #11
                      ตอนแรกผมก็รู้สึกแบบเดียวกะ จขกท แทบช๊อกอุตส่าห์เอาตังค์กินซื้อมา ได้แค่นี้ saag ตัวเก่ายังดีกว่า แต่พอผ่านการเบิร์น เท่านั้น
                      เสียงก็โอเคเลยครับถือว่าคุ้มค่า แต่เสียดายเปิดดังไม่ได้ ข้างห้องด่า

                      Comment


                      • #12
                        เป็นเหมือนกันเลยครับ กับ X3 ผม ซื้อมาตอนแรก เอ๊ะทำไมเบสมันออกน้อยจัง ขนาดปรับเบสสุดแล้วนะนี่ ใจหายเหมือนกัน แต่พอไปๆมาๆ มันก็เริ่มออกมาเองแหละครับ เปิดฟังบ่อยๆ เดี๋ยวก็ดีเอง อิอิ

                        ปล. ตอนเปิดฟังครั้งแรก ยังคิดว่า "ซาก" เบสยังดีกว่าอีก อิอิ

                        Comment


                        • #13
                          ถ้าออกเบาขนาดนั้น มันมีปัญหาหรือเปล่าครับ เพราะเคยซื้อให้เพื่อนลองเทสที่ร้านแกะใหม่ๆเลย เบสมันก็
                          ตังพอตัวเลยทีเดียวครับ งั้นก็ต้องรอเบิร์นไปดูก่อนครับ ถ้ายังไงก็ยังเคลมได้ที่ร้านภายใน 7 วัน ถ้าร้านทั่วๆไป

                          Comment


                          • #14
                            Cambridge SW320 กับ A500L


                            อันไหนดีกว่าครับ

                            (เคยถามแล้วแต่ไม่แน่ใจ)
                            Last edited by reezabza; 1 Aug 2008, 11:24:31.

                            Comment


                            • #15
                              ผมเบิร์น มาเป็นระยะเวลา 1 เดือน แล้วครับ เบสหนัก นุ่ม สมคำล่ำลือ แต่เสียงเบสของตัว ลำโพงคู่
                              ยังกระป้องนิดนึง รอเปลี่ยนสาย กับ ซาวน์การ์ดก่อนเพราะตอนนี้ใช้ออนบอร์ดอยู่ เสียงโดยรวมผมว่า
                              คุ้มราคามากครับ กับราคาเท่านี้ แบบนี้อยู่ด้วยกันยาวครับ สำหรับหูตะกั่วอย่างผม อิๆ

                              Comment

                              Working...
                              X