Announcement

Collapse
No announcement yet.

-=[ Setting Speaker ]=-

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • -=[ Setting Speaker ]=-

    นักเล่นเครื่องเสียงส่วนใหญ่มักจะคิดว่า ถ้าเครื่องเสียงดีมีราคาแพง เสียงที่ออกมานั้นต้องดี แต่ในโลกความจริงนั้นมักโหดร้าย เพราะเครื่องเสียงดี ๆ เมื่อฟังแล้วเสียงไม่ดีก็มีถมไปเพราะคนติดตั้งไม่เข้าใจเรื่องการเซ็ตอั๊พลำโพง ดังนั้นการขยับลำโพงเข้าหาจุดนั่งฟังทีละน้อย ๆ ถึงจะใช้เวลามาก แต่ผลที่ออกมาคิดว่าคุ้มกับหยาดเหงื่อและแรงงานเพราะเสียงที่ได้นั้นดีขึ้นผิดหูผิดตา แม้เครื่องที่ใช้นั้นไม่ใช่เครื่องราคาแพง ใช้สายสัญญาณสายลำโพงเส้นละหลายหมื่น ลองดูแล้วจะโดนใจ มิใช่น้อย

    สมัยผมเริ่มเล่นใหม่ ๆ ผมได้ชุดมิดเอ็นด์มาชุดหนึ่งประกอบด้วยลำโพง Cirvin Vega ส่วนแอมป์เป็นแอมป์โซลิตสเตต กำลังขับดีอย่าง Harman-Kardon แม้จะลงทุนไปหลายหมื่นบาท แต่พบว่าเสียงที่ได้ยังไม่ค่อยถูกใจเราเสียเท่าไหร่ ตอนแรกก็คิดว่าคงเป็นเพราะเราใช้สายสัญญาณที่เขาแถมมา ส่วนสายลำโพงก็เมตรละไม่กี่บาท แต่ตอนกลับมาเล่นครั้งที่สองสิครับเครื่องเสียงชุดใหม่ของผมคุณภาพดีกว่าชุดเริ่มต้นมาก แต่คุณภาพเสียงก็ยังไม่ดีเท่าที่เราเคยไปฟังตามงานเครื่องเสียงหรือโชว์รูมของเขาผมคิดในใจว่าเครื่องที่ขายกับเครื่องที่โชว์มันตัวเดียวกันหรือเปล่า หรือมีการโมดิฟายให้เสียงดีขึ้นหรือเปล่า แต่เมื่อศึกษาและจับประเด็นให้เล็กลงเรื่อย ๆ สิ่งที่ผมพบกลับกลายเป็นเส้นผมบังภูเขาครับ เวลานี้ผมจึงฟันธงได้ว่าเครื่องเสียง เสียงจะดีหรือแย่อันดับแรกคือ

    1. Matching กันหรือเปล่าระหว่างแอมป์กับลำโพงแต่ถ้าผ่านเรื่องนี้ไปแล้ว

    2. Matching ระหว่าง System กับห้องฟัง


    ข้อสองนี่แหละครับที่ยากเย็นแสนเข็ญสำหรับคนเล่นเครื่องเสียงที่อัฐน้อยแต่รสนิยมสูงแบบผม ครั้นจะทำห้องฟังเป็นสัดส่วนแบบบ้านมีอันจะกินก็ใช่ที่เพราะค่าทำห้องฟังก็ไม่ใช่ถูก ๆ ทางเลือกเดียวคือดัดแปลงห้องรับแขกหรือห้องนอนมาทำห้องฟัง เพลงซึ่งแทบจะไม่ต้องลงทุนอะไรเพิ่มขึ้นเลย นอกจากต้องขยันฟังและขยับลำโพงกันทีละนิดจนกว่าจะได้จุดที่ดีที่สุด

    แม้การขยับลำโพงเข้าออกทีละน้อยจะเป็นการงมเข็มในมหาสมุทรก็เป็นประสบการณ์ที่ทำให้เราได้เซ็ตติ้งลำโพงได้อย่างมีประสิทธิภาพนะครับ แรก ๆ อาจจะท้อแท้แต่บอกได้ว่ามันคุ้มค่ากับความเหนื่อยมากนัก ดีกว่าเราไปเสียเงินซื้อสายสัญญาณแพง ๆ หรือสายลำโพงแพง ๆ เสียอีก

    หลักการแรก
    ก่อนที่จะทำการเซ็ตติ้งลำโพง ผมอยากให้ท่านผู้อ่านลองไปค้นคู่มือที่ติดมากับลำโพงมาอ่านเสียก่อน ส่วนใหญ่แล้วถ้าซื้อลำโพงจากค่ายยุโรปหรืออเมริกา มักจะมีคู่มือติดมาให้ด้วยว่าลำโพงรุ่นนั้น ๆ ชอบให้วาง***งผนังด้านหลัง หรือว่าชอบวางมาทางด้านหน้าเป็นต้น คู่มือของยี่ห้อนั้น ๆ จะทำให้เราจับหลักได้ง่ายขึ้นไม่ต้องเริ่มโดยไม่รู้ทิศทาง

    หลักการที่สอง
    ขนาดลำโพงต้องสัมพันธ์กับห้องเช่น ลำโพงวางหิ้ง(ลำโพงเล็ก) ควรจะใช้ห้องไม่ใหญ่นัก ขนาดห้องอยู่ระหว่าง 12-20 ตารางเมตร ถ้าให้ดีควรจะเป็นห้องที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าส่วนลำโพงตั้งพื้น หรือลำโพงใหญ่ ควรจะต้องใช้เนื้อที่สัก 20 ตารางเมตรขึ้นไป ขณะเดียวกันความสูงของห้องก็มีผลกับย่านเสียงเช่นกัน ถามว่าทำไมลำโพงเล็กฟังห้องใหญ่ไม่ได้ที่จริงฟังได้นะครับ แต่มันไม่ Match กันนั่นเอง เช่นเดียวกับลำโพงใหญ่ไปฟังห้องเล็ก ๆ ความใหญ่ของลำโพงจะทำให้ย่านเสียงทุ้มที่มีปริมาณมากกลบทับเสียงกลางและเสียงแหลมจนฟังไม่ไพเราะ หรือถ้าใครชอบแบบนั้นก็ไม่มีปัญหานะครับแต่สำหรับผมแล้วการฟังเพลงจะต้องได้ทั้งเสียงทุ้ม กลาง แหลม ในปริมาณที่สมดุลกัน

    หลักการที่สาม
    ขอให้สังเกตว่าลำโพงของเรานั้นมีท่อระบายลมทางด้านหน้าหรือหลัง ส่วนใหญ่แล้วลำโพงที่มีท่อระบายอากาศด้านหน้า เราสามารถวางตัวลำโพงให้ชิดกับผนังด้านหลังได้มากกว่าลำโพงที่มีท่อระบายลมจากด้านหลัง นั่นหมายความว่าถ้าเราวางลำโพงไว้ชิดผนังด้านหลังมากเท่าไหร่ เสียงเบสก็จะมากขึ้นเป็นเงาตามตัว

    หลักการที่สี่
    ผนังในห้องทั้งสี่ด้านรวมถึงพื้นห้องมีความสำคัญกับการกระจายเสียงมาก โดยเฉพาะผนังด้านหลังและผนังข้าง ผนังด้านข้างจะเป็น First Reflect ที่คลื่นเสียงจะกระทบก่อนจะถึงหูของผู้ฟัง การสะท้องของคลื่นเสียงจากผนังด้านหนึ่งไปด้านหนึ่ง ก่อนจะมาถึงหูคนฟังนั้นคลื่นบางความถี่จะตีกันจนฟังแล้วเสียงไม่เคลียร์ มีความสับสน ระยะ***งระหว่างลำโพงทั้งสองข้างกับระยะ***งจากผนังด้านหลัง จนไปถึงจุดนั่งฟังจึงมีความสัมพันธ์กัน

    หลักการที่ห้า
    การวัดความกว้างยาวนั้นจะต้องเริ่มวัดจากจุดกึ่งกลางของทวิตเตอร์เสมอไม่ว่าจะวัดความ***งจากผนังด้านหลังหรือด้านข้าง หรือวัดระยะ***งจากทวิตเตอร์ลำโพงสู่จุดนั่งฟัง

    หลักการที่หก ควรจะ "โทอิน" กี่องศาดี การ"โทอิน" คือการหันหน้าลำโพงทำมุมเอียงเข้าหาจุดนั่งฟัง การจะโทอินกี่องศานั้นควรยึดคู่มือลำโพงเป็นหลัก หรือค่อย ๆ โทอินลำโพงทีละน้อยการโทอินจะทำให้โฟกัสดนตรีมีความชัดเจนยิ่งขึ้น แต่ผู้นั่งฟังจะต้องอยู่ในจุดที่เสียงไปรวมกันพอดี เราจะเรียกจุดนั่งฟังนี้ว่า Sweet Spot ลำโพงคอมเมอร์เชียลส่วนใหญ่จะชอบให้ผู้ฟังโทอินไม่มากก็น้อย แต่สำหรับลำโพง Full Range ที่ใช้ดอกลำโพงเดียวมักไม่ชอบการโทอิน ดังนั้นก่อนโทอินจึงต้องศึกษาคู่มือหรือทดลองฟังทีละน้อยก่อน

    หลักการที่เจ็ด จะเริ่มต้นจัดตั้งลำโพงอย่างไร นี่เป็นข้อที่ยากที่สุดนะครับ แต่ก็น่าดีใจที่มีคนคิดสูตรการจัดตั้งลำโพงออกมาเป็นทฤษฎีให้เราได้ใช้กัน และทำให้ผู้เริ่มต้น เริ่มต้นอย่างถูกวิธีด้วยความสะดวกสบาย ผมขออิงทฤษฎีของ จอร์จ คาร์ดาส (George Cardas) ผู้ก่อตั้งสายสัญญาณสายลำโพง สายสัญญาณยี่ห้อดังอย่าง Cardas

    จอร์จ คาร์ดาส ได้ทำสูตรการคำนวณตำแหน่งการจัดวางลำโพงออกมา ซึ่งทำให้เรานำไปใช้ในการจูนเสียงได้ง่ายขึ้น เมื่อใช้สูตรนี้คำนวณแล้วเราจะจูนเสียงโดยการฟังอีกรอบหนึ่ง เราก็จะได้ระยะลำโพงที่แมตซ์กับห้องฟังของเรา แม้จะไม่สมบูรณ์ที่สุดแต่ก็เป็นตัวเลือกที่จะทำให้เสียงของชุดเครื่องเสียงของท่านเสียงดีขึ้นโดยไม่ต้องเสียแม้แต่สตางค์เดียวในการอัพเกรด

    สูตรที่จอร์จ คาร์ดาส ให้มามีดังนี้ วิธีการคำนวณก็คือวัดความยาวผนังห้อง จะเป็นเซนติเมตร นิ้ว ฟุต หรือเมตร ให้นำสูตรที่ให้มาคูณเข้าไป ข้อสำคัญคือต้องให้หน่วยวัดนั้น ๆ เหมือนกันทุกด้านคือถ้าใช้เซนติเมตร ก็ต้องเป็นเซนติเมตรทุกด้านตัวเลขที่คูณออกมาได้คือระยะที่เราจะตั้งลำโพงนั่นเองครับ

    - ระยะลำโพงกับผนังด้านข้าง : ความยาวผนังด้านข้าง x .276

    - ระยะลำโพงกับผนังด้านหลัง : ความยาวผนังด้านหลัง x .447

    ตัวอย่างเช่นผนังด้านข้างยาว 6 เมตร เรานำ 6 มาคูณกับ .276 จะได้ตัวเลข 1.65 หมายความว่าระยะลำโพงด้านข้างวัดจากทวิตเตอร์จะ***งกำแพงด้านข้างประมาณ 1.65 เมตร

    ส่วนผนังด้านหลังยาว 4.5 เมตร เรานำตัวเลข 4.5 มาคูณ .447 จะได้ตัวเลข 2.01 หมายความว่าระยะลำโพงด้านหลังวัดจากทวิตเตอร์จะ***งกำแพงด้านหลังประมาณ 2.01 เมตร นั่นเอง

    สังเกตได้ว่าระยะ***งกำแพงด้านหลังนั้นลำโพงตั้ง***งถึงสองเมตรเศษ ๆ การตั้ง***งกำแพงด้านหลังจะทำให้เกิดมิติเสียงและเวทีเสียงที่เราสามารถจับต้องได้ ขณะที่ความ***งระหว่างลำโพงกับผนังข้างจะก่อให้เกิดขนาดของเวทีเสียง ทั้งนี้ผู้ฟังต้อง จูนเสียงด้วยการฟังในขั้นสุดท้ายอีกครั้งหนึ่ง แม้จะมีสูตรให้เราจัดวางแล้วก็ตาม แต่หูของคนฟังก็ยังจำเป็นในการตั้งลำโพง ส่วนระยะการนั่งฟังนั้น จะเป็นการกำหนดเป็นการนั่งฟังแบบ"ใกล้ลำโพง" (Near Field) ดูภาพ Diagram B เราจะวัดระยะทวิตเตอร์จากลำโพงซ้ายมาที่ลำโพงขวา เมื่อได้ระยะ***งลำโพงทั้งสองข้างแล้วเราจึงนำระยะ***งลำโพงทั้งสองข้างมาวัดระยะไปยังจุดนั่งฟังก็จะได้ระยะในแบสามเหลี่ยมด้านเท่า ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการจูนเสียงจากการฟังอีกรอบเช่นเดียวกัน


    ท่านผู้อ่านอาจลองกลับไปทำดูนะครับ ผมเชื่อว่าการจัดลำโพงนั้นได้ผลมากกว่าการเปลี่ยนสายลำโพงหรือสายสัญญาณมาก ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าคุณภาพสายลำโพง หรือสายสัญญาณ ไม่มีผลต่อเสียงมีผลเช่นกันครับ แต่การ Set Up ลำโพงนั้นเป็นจุดเริ่มต้นอย่างแท้จริงในการทำให้เราเค้นคุณภาพของเครื่องเสียงที่เรามีให้ถึงที่สุด และที่ผมเน้นบ่อยครั้งก็คือเราต้องฟังเสียงและจูนเสียงด้วยหูเราเองอีกรอบหนึ่ง เพราะสูตรเป็นแค่แนวทางให้เราไม่ต้องงมเข็มในมหาสมุทร
    แม้เครื่องมือเป็นสิ่งทำให้เราสะดวกสบายมากขึ้นแต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นสูตรสำเร็จเมื่อทำแล้วจะได้ผล 100% หากแต่ความสำเร็จของผลที่เราทำนั้นมาจากการหมั่นเพียร ความพยายาม การจดจำ และเรียนรู้อย่างไม่รู้จบโดยเปิดใจกว้างรับสิ่งใหม่ ๆ อย่างมีเหตุผลนั่นเอง......



    23/2/2550

    นิวัติ พุทธประสาท

    คัดมาจาก : อิเล็กทรอนิกส์แฮนด์บุ๊ค Vol.120 No.15 สิงหาคม 2549

    เต็มๆกับการเซ็ตตำแหน่งลำโพงคับ เห็นว่ามีเป็นบทความที่ดีเลยนำมาให้อ่านกันคับ ^^




  • #2

    Comment


    • #3
      แจ่มมากมาย ขอบคุณครับ

      Comment


      • #4
        เข้ามาจด

        ขอบคุณครับ

        Comment


        • #5
          โย้ว ๆ ท่านเดียร์แจ่มมากมายคับ อิอิอิ

          Comment


          • #6
            ความรู้จริงๆครับ

            Comment


            • #7
              มาเซ็ตให้ที่บ้านเลยได้ม่ะ

              Comment


              • #8
                ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ครับ

                Comment


                • #9
                  ดีมากเลยครับ

                  Comment


                  • #10
                    ขอบคุณครับ

                    Comment


                    • #11
                      สุดยอดครับ ขอบคุณครับ

                      Comment


                      • #12
                        เป็นความรู้ๆๆ ที่ดีครับ จะได้ไม่โทษว่า ลำโพงเสียงไม่ดี

                        หุหุ

                        Comment


                        • #13
                          ข้อมูลเยื่ยม แต่ห้องมันำไม่ได้เป็น 4 เหลี่ยมนี่ซิ เซ็งจริงๆ

                          Comment


                          • #14
                            ขุดๆ

                            Comment


                            • #15
                              ดีครับ (^-^)

                              Comment

                              Working...
                              X