Announcement

Collapse
No announcement yet.

ทำไมควรใช้ PSU วัตต์แท้

Collapse
This is a sticky topic.
X
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • #31
    ขอบคุณนะครับ แจ่มเลย

    Comment


    • #32
      และดูยังไงครับ วัตต์แท้ วัตต์ ไม่แท้

      Comment


      • #33
        ผมเพิ่มเติมและเรียงข้อความใหม่บางจุดนะครับ เพราะเหมือนมันขาดๆไป อ่านเองงงเองครับ

        ผมจะขอตอบอย่างนี้นะครับ
        งานกราฟฟิคกับการเล่นเกมส์ที่กินพลังงานเยอะๆ ลองรันดูที่ค่าสูงสุดของงานนั้นๆ และใช้พวกโปรแกรมมอนิเตอร์ ตรวจดูว่า โวลท์ ของแต่ละเอ้าท์พุทมันตกมากมั๊ย(ASUS PROBE)

        ยกตัวอย่างเช่น

        12V +-0.9
        5V +-0.5
        3.3V +-0.3
        5Vsb +-0.5
        -12V +-0.4

        (+/-) ที่ผมลงไว้หมายถึง ค่าคลาดเคลื่อนหรือ torralance ครับ ต้องไม่มากหรือน้อยเกินไปกว่านี้

        ส่วนกระแสก็ต้องใช้แอมพ์มิเตอร์มาวัดเอาล่ะครับ ยิ่งมี scope ก็ยิ่งดีใหญ่ ก็วัดแรงดัน(v)ดู และ วัดกระแส(I) ดูแล้วเอาทั้งหมดมาคำนวน อย่างเช่น

        12v วัดดูแล้วได้ 11.8v กระแสที่วัดได้ 30A
        5v วัดดูแล้วได้ 4.8v กระแสที่วัดได้ 20A
        3.3v วัดดูแล้วได้ 3.28v กระแสที่วัดได้ 10A
        -5v วัดดูแล้วได้ -5v กระแสที่วัดได้ 0.5A
        5Vsb วัดดูแล้วได้ 5v กระแสที่วัดได้ 2A

        5Vsb เป็นโวลท์สแตนบาย ขณะยังไม่ออนสวิชท์ (สแตนด์บาย อาจจะเป็น 5 หรือ 3.3 ก็ได้แล้วแต่ลูกค้าต้องการ) มันก็จะยังกินไฟตลอด เพราะต้องจ่ายไฟเลี้ยงให้พวก ic คอนโทรลเลอร์ ให้ ic หรือ วงจรร่วมพวกนี้ ์มันเตรียมพร้อมรับคำสั่งที่คุณจะ on switch ประมาณว่าเสียบปลั๊กก็เริ่มกินพลังงานแล้วครับ)

        เมื่อเอามาคิด
        12v จะได้ 11.8*30 = 354w
        5v จะได้ 4.8*20 = 96w
        3.3v จะได้ 3.28*10 = 32.8w
        -5v จะได้ 5*0.5 = 2.5w
        5vsb จะได้ 5*2 = 10w

        ฉะนั้น Power รวม 354+96+32.8+2.5+10 = 495.3 วัตต์ ครับ

        ถ้าจะคิด Efficiency หรือ ประสิทธิภาพด้วย ก็เอา V-in (บ้านเราก็ประมาณ 220-230v) คูณ I-in (I-in อันนี้ต้องใช้แอมพ์มิเตอร์วัดเอาครับ แบบคล้องก็ได้)

        เอา 495.3/(V-in คูณ I-in) ก็จะได้ประสิทธิภาพจริงๆของซัพพลายที่คุณใช้อยู่ออก
        มาครับ ถ้าคุณสามารถวัดได้นั่นคือความเป็นจริงครับ ลืมป้ายระบุ(label)ไปได้เลย

        นี่แหล่ะครับที่เรียกกันว่าวัตต์แท้ที่ซัพพลายกะลังจ่ายออกมา ซึ่งถ้าจะเอากันจริงๆมันจะมี requirement มากมายให้ทำกาทดลองเพื่อให้ได้ตามที่ลูกค้าต้องการ

        ข้อกำหนดคร่าวๆทั่วไป (ถ้าเป็นลูกค้าแบรนด์อย่าง HP / DELL / SUN MICRO / SONY ERICSON / NEC / etc มีอีกพะเรอเกวียนครับ กว่าจะขายได้แต่ละรุ่น ตั้งแต่ 90w ไปจนถึง
        2000w) ตัวอย่างเช่น

        -กำลังงานขาออก Output power
        -ประสิทธิภาพ Efficiency
        -ช่วงแรงดันอินพุต Input voltage
        -แรงดันและกระแสขาออก Output voltage and current
        -ไลน์เรกกูเลชั่น Line regulation
        -โหลดเรกกูเลชั่น Load regulation
        -แรงดันกระเพื่อมและนอยส์ Ripple and noise
        -ค่าเวลาโฮลด์อัพ Hold up time
        -สัญญานรบกวนจากสวิตชิ่ง RFI / EMI สัญญานรบกวน พาและนำ
        RFI = RADIO FREQUENCY INTERFERENCE
        EMI = ELECTROMAGNETIC INTERFERENCE
        -การตอบสนองโหลดภาวะชั่วครู่ Transient response
        -การแยกจากกันทางไฟฟ้า Isolation
        -ความถี่การทำงานสวิตชิ่ง Switching Frequency
        ฯลฯ

        ถ้าซัพพลายตัวนั้น ญี่ห้อนั้นทำได้ตามที่ผมยกตัวอย่างมาคร่าวๆนี้ได้ทั้งหมดก็ไม่ต้องคิดกังวลอะไรเลยที่จะซื้อมันมาใช้ครับ

        แต่การที่จะบอกว่าวัตต์แท้วัตต์เทียมนั้นผมว่ามันไม่มีครับ เป็นการเรียกกันเอง
        ซัพพลายปลอมเค้าก็สามารถออกแบบมาให้จ่ายพลังงานได้เท่ากับของแท้

        ประมาณนี้ครับผม ขณะที่ซัพพลายทำงานเต็มที่ ถ้าโวล์ตกมากก็แสดงว่ามัน peak แล้วครับ คงใช้ได้อีกไม่นาน แต่ถ้าโวล์ยังอยู่ในเกณท์ก็สบายใจได้ครับ แต่ที่ผมห่วงคือพวก supply จากจีนแดง ทั้งแมททีเรียลต่างๆที่นำมาประกอบ น่าจะเป็นของเกรทต่ำมากๆ และไม่ผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัย เพราะฉะนั้นผมแนะนำอย่างนี้ว่า ซัพพลายคือหัวใจและเส้นเลือด หาซื้อที่มีมาตรฐานและการรับประกันที่ดี และมีประสิทธิภาพหรือ Efficiency เกิน 80% ขึ้นไปครับ (80 จริงๆนะครับไม่ใช่แจ้งหลอกๆไว้ที่ป้ายแต่ไม่มีการตรวจสอบจากตัวแทนก่อนนำมาจำหน่าย)จะดีที่สุดครับผม

        ส่วนเรื่องรุ่นและญี่ห้อ อันนั้นรบกวนถามทั่นผู้รู้ในเวปได้เลยนะครับ ผมไม่มีความรู้ด้านนั้นครับ วันๆอยู่แต่กับ พาวเวอร์ซัพพลาย มีตะกั่วเป็นลมหายใจครับ จะตายอยู่แล้ว เอาไว้มีทิปอะไรดีๆที่ผมคิดว่าจะเป็นความรู้ที่เข้าใจง่ายและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ผมจะ
        พยายามเอามาแชร์ให้ทุกๆทั่นได้รับทราบกันครับ เพราะงาน R&D มันมักจะได้เจออะไรใหม่ๆ
        จากงานที่ทำเสมอๆครับผม

        ขอให้มีความสุข สงบและรักสันติ ทุกๆทั่นเลยนะครับ
        Last edited by ksurachai; 26 Mar 2009, 16:07:30.

        Comment


        • #34
          ผมแนะนำให้ดู 12Volt RAIL(s) ของ พาวเวอร์ด้วยครับ

          RAIL(s) ที่คนไทยเรียกว่า "เฟส"

          อันนี้ผมก็อ่านฝรั่งๆมานะครับ

          ตามมาตรฐาน ATX จะให้อย่างน้อย แต่ละเฟสของ 12V จ่ายกระแส 20A


          ทีนี้ ยกตัวอย่าง

          จ่าย 12V 4 RAILs
          ผมก็จำเลขไม่แม่นครับยกตัวอย่าง

          12V1 = 20A...... 12V2 = 30A
          12V3 = 20A...... 12V4 = 30A
          รวม 100A

          อีกยี่ห้อหนึ่ง โฆษณาว่า Powerful Single Rail ไม่ตรงมาตรฐาน ATX
          12V 100A (มีสายหลายเส้นพ่วงออกมา)


          ยี่ห้อ ที่แบ่ง multiple rails ก็จะบอกว่า ตัวเองนั้น แต่ละชุด ไฟจะนิ่งไม่ดึงกัน ไฟไม่ตก ได้มาตรฐาน ATX


          ยี่ห้อที่ single rails ก็บอกว่า ของเค้าดีกว่า

          ถ้า Rails ไหน ใช้ไม่หมด ก็เหลือทิ้ง เช่น เส้น 20A ใช้กับ อุปกรณ์ที่ใช้ไฟแค่ 10A เป็นต้น

          และถ้าเอา 30A ไปใช้กับการ์ดจอแรงๆ ที่กินไฟเกิน 30A ก็จะดับวูบ เป็นต้น


          ก็ลองเลือกๆดูนะครับ
          ตอนนี้ที่ผมเห็นในไทย แบบ Multiple Rail ก็มี Enermax , Cooler Master , ThermalTake , Gigabyte , TAGAN ฯลฯ

          Single Rail มี PC Power&Cooling Silencer และ Silverstone Olympia OP

          ตอนนี้ตัวผมเองก็ใจเอนๆ มาทาง Powerful Single Rail ซะแล้ว ฮิๆๆ

          Comment


          • #35
            สุดยอดความรู้ครับ ขอบคุณมากครับสำหรับสิ่งดีๆ ตอนนี้ผมใช้ PC Power&Cooling Silencer 500 w อยุ่ครับ
            ไม่มีเรื่องงอแงครับ

            Comment


            • #36
              สาระดีครับ ชอบๆ

              Comment


              • #37
                จะบอกให้ล่ะกันนะครับ เมื่อ Switching Power Supply ทำงานใช้ครับแรกๆ ก็ทำงานดีครับทั้งที่วัตย์โดยรวมของ SPU น้อยกว่า WATT รวมแต่เมื่อทำงานของคอม เมื่อใช้งานนานๆ มันจะเกิด Flux อิ่มตัวใน High Frequency Transformer จะทำให้ SPU ที่นำมาใช้ Watt จะตกลงเมื่อใช้งานไปเลื่อยๆๆ จนความร้อนถึงที่กำหนดคือราว อุณหภูมิ 50 - 70 Power จะเท่ากับ Watt จริงครับ

                ส่วน Watt เทียมนั้นคิดจาก อุณหภูมิ 25 องศา ครับ

                โดย SPU จะมี ripple มากน้อยขึ้นอยู่กัย 1.ตัวเก็บประจุ 2.ความถี่ในการ Switch 3.Load ยิ่งมาก( Current ) ยิ่งเกิด Ripple

                SPU 0 - 150 W มักจะเป็น Flyback Converter
                SPU 150 - 500 W มักจะเป็น half bridge Converter
                SPU 500+ W มักจะใช้ Full bridge Converter
                Last edited by ball; 18 Dec 2008, 01:34:48.

                Comment


                • #38
                  ดันๆ

                  Comment


                  • #39
                    ขอบคุณมากครับ ได้ความรู้มาเยอะเลย

                    Comment


                    • #40
                      ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่เลย

                      ขออีกได้ไหมคับ

                      Comment


                      • #41
                        ขอบคุณมากครับสำหรับความรู้

                        Comment


                        • #42
                          รางเดี่ยวZsingle rial ดีกว่าชัวร์ครับ โดยเฉพาะเวลาอัพเกรด ไม่ต้องเปลี่ยนใหม่
                          เพราะจ่ายเต็มๆ จ่ายหลายเฟส อาจจ่ายไม่พอ แต่ละเฟส แอมป์มันไม่เยอะครับ

                          แต่ถ้าชอบหลายเฟส ของ TG ตระกูล BZเลยครับ

                          Comment


                          • #43
                            เปรียบเทียบง่าย ๆ เหมือนรถ 100 CC. กับรถ 400 CC. ครับ วิ่ง 100 ขึ้นเนินตัว 100 CC ไมล์ตกครับ

                            ตัว 400 CC. ฉิวครับ

                            ปล. ตัววัตต์เต็ม จะหนักกว่าตัววัตต์ ไม่เต็ม 2 - 3 เท่า และแพงกว่า 2 - 3 เท่าเช่นกัน - -

                            Comment


                            • #44
                              ผมขอถามหน่อยนะครับ ผมได้ซื้อคอมใหม่ แล้วเกิดอาการ restart เองของคอมพิวเตอร์ โดยจะ restart เมื่อผมออกจากเกมหรือทำงานโปรแกรมหนักๆครับผมคิดว่าน่าจะมาจาก power supply แต่ไม่แน่ใจครับ ขอผู้รู้ตอบให้หน่อยครับ คอมผมเป็นดังนี้ครับ
                              1.PS TAGAN TG500 500 W
                              2.MB ASUS P5Q
                              3. CPU CORE 2 QUAD 2.33 GHz
                              4.RAMDDR2 Bus 800 2 GB 2 ตัว
                              5.ASUS VGA EAH3850 512M
                              6.HD 320 G
                              7.พัดลมที่ case อีก 4 ตัวครับ
                              หลักๆมีประมาณนี้ครับ
                              ถ้าเครื่องทำงานเต็มที่ตาม Spec นี้แล้ว PS พอมั้ยครับ ถ้าพอแล้วอาการ restatr น่าจะมาจากอะไรครับ

                              Comment


                              • #45
                                Originally posted by tidusroth View Post
                                ผมขอถามหน่อยนะครับ ผมได้ซื้อคอมใหม่ แล้วเกิดอาการ restart เองของคอมพิวเตอร์ โดยจะ restart เมื่อผมออกจากเกมหรือทำงานโปรแกรมหนักๆครับผมคิดว่าน่าจะมาจาก power supply แต่ไม่แน่ใจครับ ขอผู้รู้ตอบให้หน่อยครับ คอมผมเป็นดังนี้ครับ
                                1.PS TAGAN TG500 500 W
                                2.MB ASUS P5Q
                                3. CPU CORE 2 QUAD 2.33 GHz
                                4.RAMDDR2 Bus 800 2 GB 2 ตัว
                                5.ASUS VGA EAH3850 512M
                                6.HD 320 G
                                7.พัดลมที่ case อีก 4 ตัวครับ
                                หลักๆมีประมาณนี้ครับ
                                ถ้าเครื่องทำงานเต็มที่ตาม Spec นี้แล้ว PS พอมั้ยครับ ถ้าพอแล้วอาการ restatr น่าจะมาจากอะไรครับ
                                แค่นี้ ผมว่าพอครับ ลองหาสาเหตุอื่นดูครับ เช่น Ram ความร้อน

                                Comment

                                Working...
                                X