(AC3)
DOLBY
DIGITAL
เสียงระบบนี้ เริ่มใช้งานในปี 1992 เป็นระบบเสียง Digital สำหรับโรงหนัง โดยประกอบด้วย
สัญญาณเสียง digital ทั้งหมด 6 ช่องทาง แยกขาดจากกัน มี 5 ช่องทางสำหรับลำโพง 5
ตัว และช่องที่ 6 สำหรับสัญญาณเสียงต่ำ เพื่อใช้กับ Sub Woofer เราเรียกช่องทางเสียงนี้ว่า
5.1 Channel หรือ AC-3 (Audio Coding 3rd Generation) ข้อดีของระบบเสียงแบบ
digital คือ จะใช้เนื้อที่ในการบันทึกน้อยกว่าระบบอื่น ๆ ทำให้สามารถ เพิ่มช่องเสียง ได้มาก
ขึ้น (เช่น ช่องทาง Surround จากเดิมเป็นแค่ Mono 100Hz-7,000Hz สามารถทำเป็น Hi-
Fi Stereo ได้ และมีช่อง LFE Low Frequency Effects ที่ความถี่ 20Hz-120Hz เพิ่มขึ้นมา
DOLBY
DIGITAL EX
เป็นระบบเสียงที่พัฒนามาจาก Dolby Digital 5.1 เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่าง Dolby
Laboratories และ Lucasfilm เพิ่มช่องทางเสียง Surround โดยการทำ Matrixed Combination
จากสัญญาณ Surround 2 ช่องทางเดิม ที่มีใน Dolby Digital 5.1 (หรือใน
ทางปฎิบัติ ก็คือการนำเอาลำโพง surround-left และ surround-right มาวางตำแหน่ง ไว้ใน
ด้านข้าง และ เพิ่มลำโพง surround-back อีกตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป ไว้ทางด้านหลัง) ระบบเสียง
นี้ ทำให้การเคลื่อนตัวของเสียง จากด้านหน้า มาด้านข้าง และอ้อมหลังผู้ฟัง มีการต่อเนื่องมากยิ่ง
ขึ้น
DTS
DIGITAL THEATER SYSTEMS
ระบบเสียง DTS เริ่มเข้ามามีบทบาทเป็นระบบเสียงสำหรับโรงภาพยนตร์ตั้งแต่ปี 1995 ประกอบ
ด้วยสัญญาณเสียงแบบ digital 5.1ช่องทาง (เหมือน Dolby Digital) แต่สิ่งที่ แตกต่างกันก็
คือ การบีบอัดข้อมูลของสัญญาณ digital โดย Dolby Digital จะบีบอัดสัญญาณ เสียงที่สัดส่วน
คงที่ คือ 12:1 แต่ DTS จะใช้การบีบอัดแบบไม่คงตัว ในสัดส่วนตั้งแต่ 1:1 ถึง 40:1 ทำให้
คงรายละเอียดของเสียงในส่วนที่มีเสียงซับซ้อนได้ดีกว่า และไปลดขนาดในช่วงที่ไม่ค่อยมีเสียง
ประกอบอื่น ทำให้เสียงที่ออกมามีความใสกว่าในระบบ Dolby Digital
SDDS
(SONY DYNAMIC DIGITAL SOUND)
ระบบเสียง SDDS นี้ ประกอบด้วยสัญญาณเสียง 8 ช่องเสียง (หรือ 7.1) โดยเน้นหนักที่ลำโพง
ชุดหน้า ในการสร้างมิติเสียง ตามที่ภาพปรากฎบนจอ สำหรับ โรงหนังขนาดใหญ่ ประกอบด้วย
ช่องเสียงหน้า 5 ช่อง (Left, Center-Left, Center, Center-Right, Right) และหลัง 2
ช่อง (Surround-Left, Surround Right) กับอีก 1 ช่องเสียงสำหรับ Sub-Woofer
THX
สำหรับ THX นี้ ไม่ใช่ระบบเสียง ระบบ THX นี้ พัฒนาโดย Lucasfilm ย่อมาจาก
Tomlinson holman's experiment ใช้เพื่อเป็นการกำหนดมาตรฐาน สำหรับอุปกรณ์การดูหนัง
ทั้งนี้ การเกิดขึ้นของระบบ THX เนื่องจาก เสียงที่ผู้ฟัง รับฟังในโรงหนังต่าง ๆ กัน ที่ใช้
อุปกรณ์โสตคนละชนิดกัน ทำให้เสียงที่ได้ออกมา แตกต่างกัน ซึ่งหากได้มีการกำหนดมาตรฐาน
สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ในแต่ละโรง จะทำให้การรับชมรับฟังภาพยนตร์ในแต่ละโรง มีความแตกต่างกัน
น้อยมาก และทำให้ผู้ฟังได้รับฟังเสียงที่ใกล้เคียงกับต้นฉบับมาที่สุด ตราบเท่าที่อุปกรณ์ต่าง ๆ ยัง
ได้รับการยอมรับตามมาตรฐาน THX
สำหรับอุปกรณ์ที่จะได้รับการยอมรับตามมาตรฐาน THX นั้น ต้องผ่านการทดสอบตั้งแต่ชนิดของ
วัสดุที่ใช้ ชนิดของ หม้อแปลง สัญญาณเสียงรบกวนภายใน ดังนั้น อุปกรณ์ที่ได้รับมาตรฐาน THX
จะถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.st.mahidol.ac.th
รูปประกอบจาก
www.google.com
DOLBY
DIGITAL
เสียงระบบนี้ เริ่มใช้งานในปี 1992 เป็นระบบเสียง Digital สำหรับโรงหนัง โดยประกอบด้วย
สัญญาณเสียง digital ทั้งหมด 6 ช่องทาง แยกขาดจากกัน มี 5 ช่องทางสำหรับลำโพง 5
ตัว และช่องที่ 6 สำหรับสัญญาณเสียงต่ำ เพื่อใช้กับ Sub Woofer เราเรียกช่องทางเสียงนี้ว่า
5.1 Channel หรือ AC-3 (Audio Coding 3rd Generation) ข้อดีของระบบเสียงแบบ
digital คือ จะใช้เนื้อที่ในการบันทึกน้อยกว่าระบบอื่น ๆ ทำให้สามารถ เพิ่มช่องเสียง ได้มาก
ขึ้น (เช่น ช่องทาง Surround จากเดิมเป็นแค่ Mono 100Hz-7,000Hz สามารถทำเป็น Hi-
Fi Stereo ได้ และมีช่อง LFE Low Frequency Effects ที่ความถี่ 20Hz-120Hz เพิ่มขึ้นมา
DOLBY
DIGITAL EX
เป็นระบบเสียงที่พัฒนามาจาก Dolby Digital 5.1 เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่าง Dolby
Laboratories และ Lucasfilm เพิ่มช่องทางเสียง Surround โดยการทำ Matrixed Combination
จากสัญญาณ Surround 2 ช่องทางเดิม ที่มีใน Dolby Digital 5.1 (หรือใน
ทางปฎิบัติ ก็คือการนำเอาลำโพง surround-left และ surround-right มาวางตำแหน่ง ไว้ใน
ด้านข้าง และ เพิ่มลำโพง surround-back อีกตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป ไว้ทางด้านหลัง) ระบบเสียง
นี้ ทำให้การเคลื่อนตัวของเสียง จากด้านหน้า มาด้านข้าง และอ้อมหลังผู้ฟัง มีการต่อเนื่องมากยิ่ง
ขึ้น
DTS
DIGITAL THEATER SYSTEMS
ระบบเสียง DTS เริ่มเข้ามามีบทบาทเป็นระบบเสียงสำหรับโรงภาพยนตร์ตั้งแต่ปี 1995 ประกอบ
ด้วยสัญญาณเสียงแบบ digital 5.1ช่องทาง (เหมือน Dolby Digital) แต่สิ่งที่ แตกต่างกันก็
คือ การบีบอัดข้อมูลของสัญญาณ digital โดย Dolby Digital จะบีบอัดสัญญาณ เสียงที่สัดส่วน
คงที่ คือ 12:1 แต่ DTS จะใช้การบีบอัดแบบไม่คงตัว ในสัดส่วนตั้งแต่ 1:1 ถึง 40:1 ทำให้
คงรายละเอียดของเสียงในส่วนที่มีเสียงซับซ้อนได้ดีกว่า และไปลดขนาดในช่วงที่ไม่ค่อยมีเสียง
ประกอบอื่น ทำให้เสียงที่ออกมามีความใสกว่าในระบบ Dolby Digital
SDDS
(SONY DYNAMIC DIGITAL SOUND)
ระบบเสียง SDDS นี้ ประกอบด้วยสัญญาณเสียง 8 ช่องเสียง (หรือ 7.1) โดยเน้นหนักที่ลำโพง
ชุดหน้า ในการสร้างมิติเสียง ตามที่ภาพปรากฎบนจอ สำหรับ โรงหนังขนาดใหญ่ ประกอบด้วย
ช่องเสียงหน้า 5 ช่อง (Left, Center-Left, Center, Center-Right, Right) และหลัง 2
ช่อง (Surround-Left, Surround Right) กับอีก 1 ช่องเสียงสำหรับ Sub-Woofer
THX
สำหรับ THX นี้ ไม่ใช่ระบบเสียง ระบบ THX นี้ พัฒนาโดย Lucasfilm ย่อมาจาก
Tomlinson holman's experiment ใช้เพื่อเป็นการกำหนดมาตรฐาน สำหรับอุปกรณ์การดูหนัง
ทั้งนี้ การเกิดขึ้นของระบบ THX เนื่องจาก เสียงที่ผู้ฟัง รับฟังในโรงหนังต่าง ๆ กัน ที่ใช้
อุปกรณ์โสตคนละชนิดกัน ทำให้เสียงที่ได้ออกมา แตกต่างกัน ซึ่งหากได้มีการกำหนดมาตรฐาน
สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ในแต่ละโรง จะทำให้การรับชมรับฟังภาพยนตร์ในแต่ละโรง มีความแตกต่างกัน
น้อยมาก และทำให้ผู้ฟังได้รับฟังเสียงที่ใกล้เคียงกับต้นฉบับมาที่สุด ตราบเท่าที่อุปกรณ์ต่าง ๆ ยัง
ได้รับการยอมรับตามมาตรฐาน THX
สำหรับอุปกรณ์ที่จะได้รับการยอมรับตามมาตรฐาน THX นั้น ต้องผ่านการทดสอบตั้งแต่ชนิดของ
วัสดุที่ใช้ ชนิดของ หม้อแปลง สัญญาณเสียงรบกวนภายใน ดังนั้น อุปกรณ์ที่ได้รับมาตรฐาน THX
จะถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.st.mahidol.ac.th
รูปประกอบจาก
www.google.com
Comment