Announcement

Collapse
No announcement yet.

ยอดขายไมโครโพรเซสเซอร์ AMD สูงสุดเป็นประวัติการณ์

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • ยอดขายไมโครโพรเซสเซอร์ AMD สูงสุดเป็นประวัติการณ์

    ยอดขายไมโครโพรเซสเซอร์ AMD สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ในขณะที่รายได้จากโมบายล์โพรเซสเซอร์เพิ่มขึ้น 85% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3
    เอเอ็มดี (NYSE: AMD) รายงานผลประกอบการสำหรับไตรมาสที่ 4 ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2549 ทั้งนี้สืบเนื่องจากการที่เอเอ็มดีเข้าซื้อกิจการของ ATI ทำให้ผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ครอบคลุมการดำเนินงานของ ATI[1] โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2549 และเนื่องจากการเปรียบเทียบผลประกอบการโดยรวมในไตรมาสที่ 4 ของปี 2549 กับไตรมาสเดียวกันของปี 2548 ไม่สัมพันธ์กันโดยตรง ดังนั้นเอเอ็มดีจึงรายงานตัวเลขด้านการเงินแบบ non-GAAP สำหรับการดำเนินธุรกิจก่อนหน้านี้ของเอเอ็มดี (ก่อนที่จะเข้าซื้อกิจการ) โดยผู้บริหารเชื่อว่าการรายงานตัวเลขแบบ non-GAAP จะช่วยให้นักลงทุนได้รับประโยชน์ เพราะเป็นการนำเสนอผลประกอบการในปัจจุบันและในอดีตในรูปแบบที่เปรียบเทียบได้ง่ายและชัดเจน

    เอเอ็มดีรายงานว่ารายได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2549 อยู่ที่ 1,770 ล้านดอลลาร์ โดยมียอดขาดทุนจากการดำเนินงาน 527 ล้านดอลลาร์ และขาดทุนสุทธิ 574 ล้านดอลลาร์ หรือหุ้นละ 1.08 ดอลลาร์ ผลประกอบการดังกล่าวครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการเข้าซื้อกิจการและการผนวกรวมการดำเนินงาน 550 ล้านดอลลาร์ หรือหุ้นละ 1.04 ดอลลาร์ และค่าใช้จ่าย 27 ล้านดอลลาร์ หรือหุ้นละ 0.05 ดอลลาร์ สำหรับการจ่ายค่าตอบแทนให้แก่พนักงานในรูปแบบของหุ้น

    “ในช่วงไตรมาสนี้ เราสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดไมโครโพรเซสเซอร์ได้อีกครั้ง เหมือนที่เราเคยทำได้ตลอดช่วงปีที่ผ่านมา โดยเรายังคงสานต่อกลยุทธ์การขยายตลาด รวมทั้งแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และแผนการผลิต” มร. โรเบิร์ต เจ. ไรเว็ต ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของเอเอ็มดี กล่าว

    รายได้ของเอเอ็มดีเพิ่มขึ้น 33 เปอร์เซ็นต์ เป็น 5,250 ล้านดอลลาร์ และกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 9 เปอร์เซ็นต์ เป็น 600 ล้านดอลลาร์สำหรับปีที่สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2549 โดยไม่นับรวมการดำเนินงานของ ATI, ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการเข้าซื้อกิจการและการผนวกรวมการดำเนินงาน และค่าตอบแทนสำหรับพนักงานในรูปแบบของหุ้น เปรียบเทียบกับรายได้ 3,940 ล้านดอลลาร์ และกำไรจากการดำเนินงาน 548 ล้านดอลลาร์สำหรับปีที่สิ้นสุดวันที่ 25 ธันวาคม 2548

    อัตรากำไรขั้นต้นในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2549 อยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่นับรวมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการเข้าซื้อกิจการและการผนวกรวมการดำเนินงาน และค่าตอบแทนสำหรับพนักงานในรูปแบบของหุ้นสำหรับรอบระยะเวลาที่เกี่ยวข้อง เปรียบเทียบกับอัตรากำไรขั้นตอน 52 เปอร์เซ็นต์ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2549 และ 57 เปอร์เซ็นต์ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 25482 การลดลงจากไตรมาสก่อนหน้านี้โดยมากแล้วเป็นผลมาจากการที่ราคาขายโดยเฉลี่ยของเซิร์ฟเวอร์โพรเซสเซอร์ลดลงอย่างมาก และการรวมผลการดำเนินงานของ ATI

    ผลิตภัณฑ์ด้านการประมวลผล

    ยอดขายไมโครโพรเซสเซอร์ในช่วงไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้น 26 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 19 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ทั้งนี้เนื่องจากผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ยังคงใช้ประโยชน์จากโซลูชั่นของเอเอ็มดีอย่างต่อเนื่องเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายให้แก่ตลาด

    ความต้องการในช่วงไตรมาสที่ 4 สำหรับโมบายล์โพรเซสเซอร์ของเอเอ็มดีอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งอย่างมาก โดยส่งผลให้บริษัทฯ มียอดขายและรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ยอดขายและรายได้สำหรับโมบายล์โพรเซสเซอร์เพิ่มขึ้น 41 เปอร์เซ็นต์เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 แต่หากเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปี 2548 ยอดขายโมบายล์โพรเซสเซอร์เพิ่มขึ้น 76 เปอร์เซ็นต์ และรายได้เพิ่มขึ้น 85 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้รายได้จากเดสก์ทอปโพรเซสเซอร์อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งเช่นกัน โดยเป็นผลมาจากความต้องการสำหรับดูอัลคอร์โพรเซสเซอร์ AMD Athlon™ 64 X2 ส่วนยอดขายของเซิร์ฟเวอร์โพรเซสเซอร์โดยรวมอยู่ในระดับคงที่ เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 และราคาขายโดยเฉลี่ยลดลงอย่างมาก

    เอเอ็มดีเริ่มส่งมอบโพรเซสเซอร์ขนาด 65 นาโนเมตรในเดือนธันวาคมตามที่แผนการที่วางไว้

    ธุรกิจการ์ดแสดงผลและชิปเซ็ต และคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์

    รายได้จากธุรกิจการ์ดแสดงผลและชิปเซ็ต และคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ สำหรับรอบระยะเวลาที่เริ่มต้นในวันที่ 25 ตุลาคม 2549 อยู่ที่ 398 ล้านดอลลาร์ ความต้องการที่ต่อเนื่องสำหรับชิปเซ็ตส่งผลให้รายได้จากธุรกิจการ์ดแสดงผลและชิปเซ็ตอยู่ที่ 278 ล้านดอลลาร์ ส่วนรายได้ 120 ล้านดอลลาร์สำหรับธุรกิจคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ เป็นผลมาจากความต้องการในอุปกรณ์พกพาและค่าลิขสิทธิ์เกมคอนโซล

    เหตุการณ์สำคัญเพิ่มเติม

    · เอเอ็มดีเข้าซื้อกิจการของ ATI เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2549 โดยผนวกรวมกิจการของสองบริษัทชั้นนำทางด้านเทคโนโลยีเพื่อสร้างขุมพลังสำหรับการประมวลผล

    · เอเอ็มดีสาธิตประสิทธิภาพของโพรเซสเซอร์รุ่นอนาคต ภายใต้โค้ดเนม “Barcelona” โดยนับเป็นเซิร์ฟเวอร์โพรเซสเซอร์ x86 สี่คอร์แบบเนทีฟ (native quad-core x86 server processor) รุ่นแรกของโลก โดยระบบที่ใช้ในการสาธิตเป็นระบบ 4 ซ็อกเก็ต และรันระบบปฏิบัติการ Windows® Server 2003 รุ่น 64 บิต โพรเซสเซอร์ “Barcelona” มีการปรับปรุงทั้งในส่วนของสถาปัตยกรรมและประสิทธิภาพต่อวัตต์ โดยยังคงใช้ระบบระบายความร้อนที่เป็นมาตรฐาน

    · ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ยังคงขยายจำนวนโซลูชั่นที่ใช้เทคโนโลยีของเอเอ็มดีอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มเป้าหมายหลักคือองค์กรธุรกิจ:

    - เดลล์เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ใหม่ 2 รุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยโพรเซสเซอร์ AMD Opteron พร้อมด้วยคอมพิวเตอร์เดสก์ทอปและโน้ตบุ๊กรุ่นแรกของเดลล์ที่ใช้เทคโนโลยีของเอเอ็มดี

    - ซันเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ Sun Fire X4000 จำนวน 3 รุ่น

    - ไอบีเอ็มแนะนำ IBM System x3105 ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ 1P แบบทาวเวอร์รุ่นแรกที่ใช้โพรเซสเซอร์เอเอ็มดี

    - เอชพีขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์และเบลดที่ใช้โพรเซสเซอร์เอเอ็มดี สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ โดยได้เพิ่มเติม HP ProLiant DL365 ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ 1U แบบ 2 ซ็อกเก็ต และ ProLiant BL685c ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์เบลดแบบ 2 ซ็อกเก็ต นอกจากนี้ เอชพียังได้เปิดตัวเดสก์ทอปสำหรับองค์กรธุรกิจ รุ่น HP dx2255 และ dx2250 อีกด้วย

    - เกตเวย์กลายเป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ระดับโลกรายล่าสุดที่นำเสนอเซิร์ฟเวอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยโพรเซสเซอร์ AMD Opteron โดยเริ่มวางจำหน่ายเซิร์ฟเวอร์แบบติดตั้งบนแร็ค 3 รุ่น

    - ซัมซุงเปิดตัวเดสก์ทอปสำหรับองค์กรธุรกิจรุ่น DB-V60 ในประเทศเกาหลี

    · เอเอ็มดียังคงเป็นคู่ค้าทางด้านเทคโนโลยีรายสำคัญสำหรับองค์กรต่างๆ อย่างกว้างขวาง เช่น M&T Bank, ServiceMaster, Sutter Health, Wyeth Pharmaceuticals และบริษัทอื่นๆ อีกมากมายที่เริ่มปรับใช้เทคโนโลยี AMD64

    · ระบบที่ขับเคลื่อนด้วยโพรเซสเซอร์ AMD Opteron ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่เติบโตเร็วที่สุดในรายชื่อระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุด 500 อันดับ (TOP500 Supercomputing) โดยมีระบบที่ขับเคลื่อนด้วยโพรเซสเซอร์ AMD Opteron ทั้งหมด 113 เครื่องที่ติดอันดับอยู่ในรายชื่อดังกล่าว โดย 3 เครื่องติดอยู่ใน 10 อันดับแรก จากการรายงานของ TOP500 Organization

    · นินเทนโดเปิดตัว Wii ซึ่งใช้กราฟิกโพรเซสเซอร์ของ ATI ภายใต้โค้ดเนม “Hollywood” ซึ่งช่วยสรรค์สร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่สำหรับเกมคอนโซลรุ่นอนาคต

    · กลุ่มผลิตภัณฑ์มีเดียโพรเซสเซอร์ Imageon™ จาก ATI สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสนี้ ด้วยการเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นใหม่กว่า 10 รุ่นจาก Motorola, Panasonic Mobile Communications, HTC, O2, Vodaphone, Cingular, Softbank, DoComo และ Chungwa Telecom โดยอุปกรณ์รุ่นใหม่ได้แก่ RIZR Z3, SLVR L7e, Palm Treo 750v, และอุปกรณ์หลายรุ่นที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Mobile 5.0 ซึ่งได้รับการเปิดตัวโดยบริษัทโทรคมนาคมชั้นนำทั่วโลก

    · เอเอ็มดีนำเสนอเทคโนโลยี multi-GPU สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ด้วยการเปิดตัวการ์ดแสดงผล ATI Radeon™ X1650 XT ซึ่งประกอบด้วยเทคโนโลยี CrossFire™ การ์ดแสดงผลรุ่นใหม่นี้ให้ประสิทธิภาพและคุณภาพการแสดงผลที่เหนือกว่า โดยนำเสนอฟีเจอร์ขั้นสูงในระดับราคาทั่วไป

    ที่มา http://www.arip.co.th/2006/news.php?id=406031

  • #2

    Comment


    • #3
      /*0*/

      Comment


      • #4
        AMD สู้ๆ

        Comment


        • #5
          ดีครับ ลดราคาอีกก็ดีครับ

          Comment


          • #6
            อ่านจบ เป็นนักการตลาดได้เลยนะเนี้ย แต่ก็ดีใจ เพราะเป็นผู้มีอุปการะคุณของ AMD 555

            Comment


            • #7
              ดีมากเลยครับ ได้ความรู้เยอะเลย

              Comment


              • #8
                ราจรที่โบกรถตรงสะพานพระราม5ยังมีโลโก้AMDอยู่ตรงเสื้อจราจรเลยครับ

                Comment

                Working...
                X