Announcement

Collapse
No announcement yet.

"LCD Monitor " กับ "LED Monitor " ต่างกันยังไงครับ

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • "LCD Monitor " กับ "LED Monitor " ต่างกันยังไงครับ

    พอดีได้รับอีเมลโปรโมชั่นเดือนเมษาของ Dell แล้วไปเห็นจอรุ่น 24" LED Monitor (G2410)
    เลยสงสัยว่า "LED Monitor " มันต่าง "LCD Monitor " ยังไงครับแบบไหนดีกว่ากัน

    http://accessories.us.dell.com/sna/p...9&sku=320-7956

  • #2
    โปร เดือนเมษา เฉพาะจอ

    Comment


    • #3
      LCD จำเป็นต้องมี Backlight หรือไฟส่องจากด้านหลัง เหมือนดังตลุง น่ะแหละครับ
      โดยทั่วๆไป จอ LCD มันก็ใช้ LED เป็น Backlight อยู่แล้วล่ะครับ แต่มันเป็นแค่สีขาว สีเดียว
      แต่จอรุ่นใหม่ๆ ที่บอกว่า LED Backlight มันหมายถึงว่า ใช้ LED แบบสามสี RGB เป็น Backlight ซึ่งจะทำให้ภาพบนจอมี contrast สูงกว่าปกติ แล้วมีความเพี้ยนสีน้อยกว่า สรุปว่ามันทำให้จอมีภาพที่ดีกว่านั่นแหละครับ

      Comment


      • #4
        LED ใหม่กว่าครับ และดีกว่า LCD ครับ

        Comment


        • #5
          ตามนั้น

          Dell ลดราคาแล้ววุ้ย

          Comment


          • #6
            LCD มาจาก Liquid Crystal Display

            LED มาจาก Light Emitting Diode

            จอภาพแบบ LED มีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดสูงกว่าจอ LCD ครับ เนื่องจากไม่ต้องเปลี่ยนแปลงของเหลว แต่ LED เปรียบเหมือนหลอดไฟ สามรถหยุดและเปล่งแสงในเวลาอันรวดเร็วได้ดีกว่าครับ

            Comment


            • #7
              ความรู้อีกแล้ว

              Comment


              • #8
                อืมม..ครับ

                Comment


                • #9


                  ผมว่ามันเขียนผิดนะครับ.. เพราะตามสเป็คยังใช้แบบ Thin Film อยู่เลย.. อีกอย่าง LED Monitor ยังมีราคาแพงอยู่มาก ไม่น่าจะขายที่ราคา $259 ได้อ่ะ

                  Comment


                  • #10
                    นวัตกรรมใหม่..

                    Comment


                    • #11
                      รุ้แต่ว่า LED เป็นเทคโนโลยีใหม่ แล้วมันก็ต้องดีกว่า

                      Comment


                      • #12
                        LED ต้องไปถาม Thaidvd.net เซียนทีวีเยอะครับ

                        พลาสม่า ขายไม่ออกเข้าไปใหญ่ถ้า LED ราคาพอๆกับLCD (ทีวีนะ)

                        Comment


                        • #13
                          จะเล่าโดยย่อแล้วกันครับ เป็นความรู้ไว้กับผู้ที่ไม่รู้จัก LED

                          อันนี้พูถึงหลอด LED ที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบันครับ

                          LED ย่อมาจาก Light Emitting Diode ซึ่งเป็นหลอดไฟชนิดใหม่ที่ภายในไม่ต้องใช้ไส้หลอดเป็นตัวเผาให้เกิดแสง แต่จะใช้สารกึ่งตัวนำ (Semi-Conductor) แทน หลอดชนิดนี้ถูกพัฒนาขึ้นเนื่องจากนักวิทยาศาสตร์พบว่า เมื่อไฟฟ้าไหลผ่านอุปกรณ์ที่เรียกว่า "ไดโอด" นั้น จะมีการเปล่งแสงออกมา แต่ยังในช่วงคลื่นที่ตามนุษย์มองไม่เห็น ดังนั้นจึงได้มีการพัฒนาประสิทธิภาพขึ้นเรื่อยๆตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา (ผมก็จำไม่ได้นะครับว่าตั้งแต่ปีไหน ขอโทษด้วยครับ) จนสามารถผลิตหลอด LED ออกมาให้สามารถเปล่งแสงสีต่างๆออกมาได้ ช่วงแรกนั้นหลอด LED มีราคาแพงมาก ประมาณหลอดละเป็นแสนบาท และราคาก็เริ่มลดลงเรื่อยๆเนื่องจากมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและแพร่หลายมากขึ้น ในปัจจุบันนี้หลอด LED มีประสิทธิภายใกล้เทียบเคียงหลอดฟลูออเรสเซ้นต์แล้ว และคาดว่าในปี 2568 จะมีประสิทธิภาพสูงกว่าหลูอดฟลูออเรสเซ้นต์หลายเท่าและเป็นหลอดไฟมาตรฐานใหม่ที่ใช้กันตามบ้านครับ

                          หลอดไฟชนิดดีมีข้อดีตรงที่ ความร้อนต่ำมากขณะใช้งาน, สามารถทำไฟกระพริบรวดเร็วต่อเนื่องได้ ไม่พัง, ทนต่อแรงกระแทกมหาศาล เพราะตัวหลอดทำจากอีพรอกซี, ไฟฟ้าไหนผ่านได้ทางเดียว เนื่องจากตัวมันเป็นไดโอด, มีอายุการใช้งานนานเกินแสนชั่วโมง และ ช่วงคลื่นของแสงคงที่ (ถ้าจ่ายไฟตามมาตรฐาน)

                          ทั้งหมดนี้ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่เลือกหลอด LED มาใช้งานเป็นจอแสดงผลครับ

                          เมื่อนำไปวางบนจอภาพนั้นจะใช้หลอด LED ขนาดเล็ก สี เขียว แดง น้ำเงิน วางเรียงกัน เหมือนจอภาพทั่วไป และมีทรานซิสเตอร์ควบคุมจุดละสามตัว(ตัวละสี)

                          ปล. ถ้าผิดตรงไหนก็ขออภัยด้วยนะครับ เพราะเขียนมาจากความรู้ที่ตัวเองสรุปขึ้นมา
                          Last edited by Noni3z; 6 Apr 2009, 00:10:54.

                          Comment


                          • #14
                            มันไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่อะไรหรอก ที่ออกมาช้ากว่าผมว่ามันเป็นแผนการตลาด --*--

                            Comment


                            • #15
                              ความรู้เพิ่มเติมครับผม

                              ไดโอดให้แสงได้อย่างไร

                              แสงเกิดขึ้นจากพลังงานที่ปลดปล่อยจากอะตอม แสงเป็นโฟตรอนที่มีพลังงานและโมเมนตัม ดังนั้นจึงเป็นอนุภาคชนิดหนึ่ง แต่ว่าน่าแปลกที่นักวิทยาศาสตร์บอกว่าไม่มีมวล

                              ภายในอะตอม อิเล็กตรอนโคจรรอบนิวเคลียส และมีวงโคจรหลายวง แต่ละวงมีพลังงานแตกต่างกัน วงนอกมีพลังงานมากกว่าวงใน ถ้าอะตอมได้รับพลังงานจากภายนอก อิเล็กตรอนจะกระโดดจากวงโคจรในออกสู่วงโคจรนอก ในทางกลับกัน ถ้าอิเล็กตรอนกระโดดจากวงโคจรนอกเข้าสู่วงโคจรใน มันจะปลดปล่อยพลังงานออกมา และพลังงานนี้ก็คือแสงนั้นเอง

                              ขณะที่อิเล็กตรอนเคลื่อนที่ผ่านรอยต่อไปที่โฮลของสาร P อิเล็กตรอนจะตกจากวงโคจรสูง หรือแถบนำไฟฟ้า ไปสู่วงโคจรต่ำหรือแถบวาเลนซ์ มันจะปลดปล่อยพลังงานออกมาในรูปของโฟตรอน ปรากฎการณ์นี้เกิดขึ้นกับไดโอดทุกชนิด แต่คุณสามารถเห็นแสงได้ก็ต่อเมื่อ ความถี่ของพลังงานอยู่ในช่วงความถี่ที่ตามองเห็นได้ ดังเช่นไดโอดที่ทำจากซิลิคอน ซึ่งมีช่วงของแถบพลังงานแคบ ทำให้ได้โฟตรอนความถี่ต่ำ เป็นความถี่ที่ตามองเห็นได้ อย่างไรก็ตาม ความถี่ที่ตามองไม่เห็นก็มีประโยชน์ไม่น้อย ยกตัวอย่างเช่น ช่วงอินฟาเรด สามารถนำไปใช้ในเครื่องควบคุมระยะไกลหรือรีโมทคอนโทรล เป็นต้น

                              visible light-emitting dioded (VLEDS) หรือหลอด LED ที่ให้กำเนิดแสงในช่วงที่ตามองเห็น ในรูปภาพคุณสามารถใช้เมาส์คลิกดูการกำเนิดของแสงได้

                              เมื่อไดโอดให้แสงออกมาแล้ว ถ้าเราไม่ควบคุมทิศทาง แสงจะกระจัดกระจาย และวิ่งออกมาอย่างไม่เป็นระเบียบ ทำให้ความเข้มของแสงน้อยลง ดังนั้นในหลอด LED เราจะใช้พลาสติกหุ้ม และเอียงให้แสงสามารถสะท้อนออกไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้



                              ควบคุมทิศทางของแสงในหลอด LED

                              Comment

                              Working...
                              X