Announcement

Collapse
No announcement yet.

CD 24 bit/192 KHz

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • CD 24 bit/192 KHz

    พอดีวันนี้เอา CD ของ shakatak ที่ทาง platinum นำมาจำหน่ายมาฟัง ซึ่ง CD ตัวนี้ ทาง platinum บอกว่ารีมาสเตอร์แบบ K2HD ทำให้ได้เป็นข้อมูลแบบ 24 bit / 100 KHz และเพิ่งสังเกตว่า ทำไม foolbar มันถึงแสดง sample rate แค่ 44.1 KHz (ปกติที่บ้านไม่ค่อยมีแผ่น CD แบบ Audiophile นักเนื่องจากวงที่ฟังไม่มีทำ หรือมีแต่น้อยมากและมี CD แล้วก่อนที่จะออกมาในรูปแบบ Audiophile ในช่วงหลัง) ส่วน output ก็ใช้ทั้ง asio4all,wasapi รบกวนช่วยมาอธิบายให้กระจ่างด้วยครับ แล้วระหว่าง asio4all กับ wasapi ถ้าใช้ใน vista ตัวไหนจะดีกว่ากัน พอดีเจอปัญหาเวลาฟังเพลง classic บางเพลง (ไฟล์ flac) ถ้าใช้ asio4all ไม่ว่าจะใช้ analog หรือ digital out บางท่อนจะได้ยินเสียงแตกหน่อยๆ (เสียงที่ได้จาก analog out จะมีความดังที่สังเกตได้ชัดเจนกว่า digital out) เมื่อลองใช้ wasapi speakers out (Essence STX) ออกอนาลอคแล้วเสียงก็ยังมีแตกนิดๆ แต่ถ้าลองใช้ wasapi digital out (Essence STX) ออก digital แล้วไม่ได้ยินเสียงแตกเลย (แต่ขัดในนิดหน่อยเพราะเวลาฟัง digital out เสียงมันเบากว่า analog ต้องหมุน volume มากกว่าพอสมควร) จากที่ได้อ่านมาแล้วมีหลายคนบอกว่าตัว STX นี้ถ้าใช้ analog out จะดีกว่า digital out ซึ่งพูดถึงเรื่องการกระจายความดัง analog out ทำได้ดีกว่า แต่อย่างที่กล่าวไปข้างต้น สำหรับบางเพลงที่มีย่านเสียงที่สูงกลับประสบเสียงแตกนิดๆ รบกวนช่วยตอบคำถามให้ด้วยครับ (ผมไม่แน่ใจว่าเพราะสายสัญญาณเรายังดีไม่พอ(analog ใช้ van hen hul ส่วน digital ใช้ m-cable)หรืออาจมีจากสาเหตุอื่น แต่ถ้าในแง่ลำโพงคิดว่าไม่น่าเกี่ยวเพราะลำโพงถือว่าอยู่ในระดับใช้ได้ครับ) ขอบคุณมากครับ

  • #2
    192/24 Cd = stupid

    Comment


    • #3
      ยังไงหรอท่านเรือรบ

      Comment


      • #4
        หรือเพราะทางบริษัทเขาอาจต้องการโปรโมตสินค้าของเขาครับ? ตามที่ผมเข้าใจนะ ที่เขาบอกว่าบันทึกเสียงแบบ
        high resolution ผมคิดว่าเขาอาจจะทำให้มันดีกว่าต้นฉบับเดิมคือคงความเป็นต้นฉบับให้มากที่สุดและตัดพวก noise บางส่วนออกไป ซึ่งอาจจะไม่เกี่ยวกับว่าบันทึกเป็นแบบ 24/192 KHz แต่พอดีอย่างวงนี้ผมไม่มี CD Import ต้นฉบับ จะได้นำมาเปรียบเทียบกับของทาง platinum ดู แต่ที่เคยฟังเช่น งานของ Fourplay :
        The Best of ที่เป็น audiophile กับแบบปกติแล้วยังไม่ค่อยเห็นความต่างนัก (หรืออาจเป็นเพราะปัจจัยด้านลำโพง) แต่ทั้งนี้ CD บางแผ่นผมว่าบันทึกเสียงดีกว่า CD Audiophie นะ อันนี้ต้องยกนิ้วให้กับโปรดักชั่นและฝีมือของนักดนตรีเลย

        Comment


        • #5
          รอความกระจ่าง

          Comment


          • #6
            เท่าที่จำความได้ CD เพลงปกติ ทำได้สูงสุดที่ 16บิท นะครับ
            รอท่านเรืออีกทีดีกว่า

            Comment


            • #7
              CD audio มีมาตรฐาน REDBOOK บังคับอยู่
              ดังนั้นไม่ว่าตอนอัด ตอนมิกซ์ ตอนมาสเตอร์ จะกลับหน้ากลับหลัง พลิกแพลงตีลังกา
              กี่บิต กี่เฮิร์ตซ์ก็ช่าง
              สุดท้าย
              ตอนออกมาเป็นซีดีให้เราเปิด ก็ต้องเป็น 16 bit/ 44.1 kHz ครับ

              Comment


              • #8
                (พี่ Phokha ตอบให้หมดแล้วครับ ผมมาตอบช้าไป)

                อย่าตื่นเต้นเลยครับ งั้นๆแหละ
                ถ้าเป็นมาตรฐาน Audio CD (RedBook) ที่อยู่มานานจะครบ 30 ปีแล้ว และทุกเครื่องสามารถเล่นได้มันก็จะเป็น 2 channels of PCM 16bit, 44100Hz ครับ
                ถ้ามาตรฐานเปลี่ยนไปจากนี้ก็คือเครื่องมาตรฐานเดิมๆจะเล่นกันไม่ได้ หรือเล่นแล้วเสียงเพี้ยน มีปัญหาไป

                ดังนั้น ถ้าจะมีมาตรฐานอื่นๆขึ้นมาแล้วใช้กับเครื่องเล่นทั่วๆไปได้
                มันก็คงไม่พ้นอะไรมากไปกว่าวิธีหยิบเอาไฟล์มาตรฐานเก่าๆ พวกนี้ไป Resampling และเปลี่ยนเป็น 24-bit ตอนเล่นใหม่ซะด้วยกรรมวิธีลี้ลับ
                ที่ก็ยังตอบตรงๆกันไม่ได้ว่า คุณภาพที่ได้มันจะไปใกล้เคียงกับไฟล์ Mastering ในสตูดิโอมากกว่าเจ้า Audio CD ทั่วไปนั้นหรือเปล่า
                รู้กันแค่ว่ามันจะ"เปลี่ยนแปลงข้อมูลจากเดิม" แล้วทำให้สบายใจเฉยๆไง เพราะว่ามัน 24bit แล้วก็ Sample rate สูงกว่า

                จะว่าไป ใช้คอมทำเอาก็ได้ครับ พวก Resample กับเพิ่ม Resolution เป็น 24 bit เนี่ย
                แล้วคิดว่าคุณภาพมันจะใกล้เคียงกับ Mastering กว่าของเก่ามากขึ้นมั้ย?
                แหะ แหะ แหะ
                Last edited by Hikiyama_Matsuri; 18 May 2009, 03:01:18.

                Comment


                • #9
                  เข้ามาชมครับ

                  Comment


                  • #10
                    CD ส่วนมากที่ซื้อๆมา ที่เห็นที่หน้าปกตัวใหญ่ๆว่า 24bit ส่วนมากมันจะมีตัวหนังสือเล็กๆต่อข้างใต้ ว่า รีมาสเตอร์มาจาก 24บิต (พวกแผ่นออดิโอ้ฟิลนี่เจอประจำเลย ยิ่งรวมฮิตนี่บ่อยมากๆ)

                    เพราะถึงให้บันทึกมายังไง ยัดลง CD จะเหลือแค่16 bit เท่านั้น บางแผ่นจะเห็นว่า ถ้าเปิดดูเครดิตจะเห็นว่ามีส่วนงานการมิกซ์ดาวน์อยู่ด้วย แบบแผ่น ป้าง ดอกเดียว

                    ส่วนเครื่องเล่น CD อัฟเป็น24 bit ได้แบบเรียลทาม ที่นักเล่นกระเป๋าหนักบางคนฝันหา เห็นราคาเป็นล้าน ยังมีคนซื้อมาใช้ T_T สงสัยเรื่องคุณภาพเสียงที่ได้จากการอัฟ to 24bit เหมือนกันครับ

                    แต่ บริษัทหรือค่ายเพลง แบบอดิโอฟิลเมืองนอก บางค่าย
                    เค้ามีการขายไฟล์ต้นฉบับแบบ 24bit อยู่ด้วยครับ
                    ไม่ต้องรี ไม่ต้องอัฟ มาเต็มๆ24

                    Comment


                    • #11
                      ได้คำตอบแล้ว สงสัยอยู่เหมือนกัน

                      Comment


                      • #12
                        ถ้าคุณภาพไม่ต่างกันมากนัก(ในกรณีมีข้อจำกัดแง่เครื่องเสียงด้วย) เราซื้อ CD แบบปกติ จะช่วยะประหยัดรายจ่ายกว่าที่นำมา remaster แบบ audiophile แต่ทั้งนี้ CD ปกติบางตัวก็ใช่ว่าจะราคาไม่แพง พวกแผ่นญี่ปุ่นบางแผ่นที่ผมเคยซื้อจะเป็นพวก guitar heroes เช่น yngwie,impelliteri พวกนี้แพงกว่าแผ่น US อีก ผมเคยฟังเทียบกันนะ รู้สึกว่าแผ่นญี่ปุ่นดูมีมิติกว่า แต่ไม่ทราบด้วยเหตุผลกลใดเกี่ยวกับการบันทึก format ที่ต่างกันของสองแบบดังกล่าว หรือแม้แต่ของ The Essential : John McLaughlin ที่ทาง Sony BMG ของเรารับเข้ามา ราคาก็ยังแพงอยู่ (สงสัยว่าแพงอะไร เพราะมีแค่สองแผ่น ผิดกับ Miles Davis รวมงาน ที่ออกกับ Platinum มีถึงสามแผ่นและบอกว่าบันทึกเสียงแบบK2HD ราคาถูกกว่ากันเกือบครึ่ง) อย่างไรก็ดี พอได้ฟังแล้ว มันก็ทำให้ผมลืมเรื่องคุณภาพเสียงไปโดยปริยาย........ T V T

                        Comment


                        • #13
                          24-bit/192kHz ในกระบวนการอัด ทำให้ noise floor ต่ำลง เพราะ resolution สูงขึ้น S/N ก็สูงขึ้น แล้ว dithering กลับเป็น 16-bit/44.1kHz ของ Redbook Audio CD

                          จึงทำให้เสียงดี ซื้อไปเหอะ ไม่ได้โดนหลอกครับ

                          อ่านกันเอง >> เรื่องของ 16-bit กะ 24-bit

                          Comment


                          • #14
                            แล้วไอ้พวก HDCD 20 bit อ่ะคับ เห็นว่าคุณภาพเสียงดีกว่า

                            Comment


                            • #15
                              พูดถึง CD พวก Live หรืออัดจากแสดงสด สำหรับบางวง ขอยกตัวอย่างวงไทย(แต่ไลน์อัฟเป็นชาวต่างชาติเกือบทั้งหมด) เช่น MARK HODGKINS : Suntaraporn Jazz in The Park ได้ทำการบันทึกเสียงกันที่สวนลุมพินี ซึ่งพอผมได้ทราบแล้วก็รู้สึกแปลกใจพอสมควรเพราะหลังจากที่ได้ฟังแล้ว เสียงชัดทีเดียว ไม่มีวี่แววบ่งบอกถึงการเล่นสดเลย สงสัยอยู่ว่าเขาบันทึกเสียงกันอย่างไรถึงออกมาได้ดีเลย อย่างไรก็ดี Steve Vai กล่าวว่า เสียง noise บางทีก็มีประโยชน์ ถ้าใช้ถูกที่ ถูกเวลา อย่าง CD แสดงสดนี้ ผมกลับคิดว่าเสียงมันต้องมีความดิบหน่อยๆ มันถึงจะฟังดูมัน ดูสนุกสนานตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นแนวร๊อค เมทัล หรือแม้แต่วงออเคสตราหรืออุปรากรต่างๆ อย่างน้อยขอให้ได้ินเสียงคนดูสักนิด มันดูมี feedback ระหว่างผู้เล่นกับผู้ฟังที่สื่อสารกันอยู่ตลอดเวลา

                              Comment

                              Working...
                              X