Announcement

Collapse
No announcement yet.

CD 24 bit/192 KHz

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • #16
    Originally posted by garmin View Post
    24-bit/192kHz ในกระบวนการอัด ทำให้ noise floor ต่ำลง เพราะ resolution สูงขึ้น S/N ก็สูงขึ้น แล้ว dithering กลับเป็น 16-bit/44.1kHz ของ Redbook Audio CD

    จึงทำให้เสียงดี ซื้อไปเหอะ ไม่ได้โดนหลอกครับ

    อ่านกันเอง >> เรื่องของ 16-bit กะ 24-bit
    การทำเพลงในปัจจุบันเขาจะบันทึกเสียงกันที่ 24 bit กันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วครับ
    (ส่วนเรื่อง Sampling rate เท่าใหร่นั้น แล้วแต่ของคนบันทึกและจัดทำจะชอบครับ เพราะแต่ละคนจะใช้ไม่เหมือนกันครับ)

    ตอนสุดท้ายก็จะต้องทำให้มันเป็น 16bit, 44100Hz (ใช้ Dither ในขั้นตอนนี้) อยู่ดีครับ
    ทำเพลงตามปกติเป็นแบบนี้อยู่แล้วครับ

    Comment


    • #17
      อิอิ...มันจาเหมือนฟังหลอด กะโซลิด เปล่าครับ คือ คนร้องมันเต็มใจร้องมากกว่ากัน

      ผิดพลาดขออำภัย..คือ ผมบ้าหลอดขอรับ 555

      แต่ถ้า 24 bit กะ audio dvd นี่อย่าปิดตานะขอรับ..หงายหลังมาเยอะแล่ว

      Comment


      • #18
        ถ้าได้ลองเอาแอมป์พกพา Thunderbolt ราคาราวๆ 3 พันนิดๆ ต่อสาย mini-to-mini เข้าซาวด์การ์ดธรรมดาๆของคอม แล้วฟังด้วยหูฟังดีๆอย่าง Ultrasone Pro 2500 หรือรุ่นเล็กกว่าก็ได้ จะรู้ว่าสวรรค์ทางดนตรีอยู่แค่เอื้อม ไม่ต้องไปเปลี่ยนซาวด์การ์ด 16-bit เป็น 24-bit และเล่นแค่ 128k MP3 ก็แหล่มแล้วครับ

        รูปข้างล่างจาก >> [Reveiw] แอมป์ P-51 Mustang, Thunderbolt และ Raging Moose

        Asus Xonar ก็ใช้ opamp ตัวเดียวกันกะใน Thunderbolt ไดนามิกส์และทรานสพาเร้นท์มากๆๆๆๆๆ
        Attached Files
        Last edited by garmin; 21 May 2009, 12:01:14.

        Comment


        • #19
          แอมพ์พกพาต่อเข้าซาวการ์ดนี่
          บอกตรงๆว่าถ้าต้นทางมาห่วย มาเข้าแอมพ์นี่ยิ่งแล้วกันไปใหญ่ครับ
          อาจจะทำให้ดูมีเนื้อมีหนัง หรืออิ่มเอมในช่วงแรกๆที่ฟังครับแต่ฟังไปซักพักมันไม่ใช่ทางเลือกที่ดีแน่นอน(ผมก็เคยใช้ๆอยู่เพราะมันสะดวก ซาวการ์ด+headamp+headphone)
          ยิ่งจากตัวซาวการ์ดเองที่มีภาคขยายอยู่แล้ว เอามาขยายต่อที่แอมพ์ มันยิ่งเพี้ยนกันไปใหญ่ครับ

          เรื่องแหล่งเสียงนี่ยิ่งแล้วใหญ่ครับ เอาง่ายๆคือ ผมเปลี่ยนจาก Dock ipod ที่ใช้ไฟล์ลอสเลสด้วยซะด้วยซํา ไปเป็นเครื่องเล่น CD ความต่างของเสียงที่ได้ยังมากโขครับ (กลับไปใช้ ipod แล้วรู้สึกว่ามันแบนเป็นกระดานเลย)
          ฉะนั้น 128k MP3 นี่จบกันเลยครับ

          ที่ผมบอกแบบนี้ไม่ได้จะดิสเครดิทใครนะครับ แต่ใช้แล้ว ลองแล้วทำกับมือแล้วได้ยังไงเลยเอามาเล่าต่อนครับ^ ^
          (เจ้าRaging Moose นี่ก็ผ่านหูมาพอสมควรแล้วครับ)

          Comment


          • #20
            เครื่องสีดำที่ตั้งทางซ้ายใช่เครื่อง play station เปล่าครับ คุ้นๆ O-0

            Comment


            • #21
              Originally posted by nitroboy View Post
              แอมพ์พกพาต่อเข้าซาวการ์ดนี่ บอกตรงๆว่าถ้าต้นทางมาห่วย มาเข้าแอมพ์นี่ยิ่งแล้วกันไปใหญ่ครับ อาจจะทำให้ดูมีเนื้อมีหนัง หรืออิ่มเอมในช่วงแรกๆที่ฟังครับแต่ฟังไปซักพักมันไม่ใช่ทางเลือกที่ดีแน่นอน(ผมก็เคยใช้ๆอยู่เพราะมันสะดวก ซาวการ์ด +headamp+headphone) ยิ่งจากตัวซาวการ์ดเองที่มีภาคขยายอยู่แล้ว เอามาขยายต่อที่แอมพ์ มันยิ่งเพี้ยนกันไปใหญ่ครับ
              เห็นด้วย แต่ว่าทำไม iPod ต่อแอมป์พกพาเสียงดีกว่าเดิม ช่อง phone out ของ iPod ก็มี opamp ขยาย หลักการแบบเดียวกะที่ซาวด์การ์ดเปี๊ียบ ความเห็นส่วนตัวคือลองได้ไม่เสียหาย ซาวด์การ์ดแบบ on-board เดี๋ยวนี้ S/N ratio ก็ไม่เลวนะ ขาดแต่เรื่อง dynamic ที่ถ้าได้แอมป์มาช่วย (แต่ต้องฟังด้วยหูฟังดีพอสมควร)

              Originally posted by nitroboy View Post
              เรื่องแหล่งเสียงนี่ยิ่งแล้วใหญ่ครับ เอาง่ายๆคือ ผมเปลี่ยนจาก Dock ipod ที่ใช้ไฟล์ลอสเลสด้วยซะด้วยซํา ไปเป็นเครื่องเล่น CD ความต่างของเสียงที่ได้ยังมากโขครับ (กลับไปใช้ ipod แล้วรู้สึกว่ามันแบนเป็นกระดานเลย) ฉะนั้น 128k MP3 นี่จบกันเลยครับ
              อยากให้ไปลองฟัง Ultrasone Pro 2500 ดูก่อน 128k MP3 ก็เหอะ (ฟังเทียบกันแล้ว) แต่ว่าขอเป็นแทรกอัดมาดีๆ พวกออดิโอไฟล์ ฟังแล้วอาจจะเปลี่ยน "ความเชื่อ" ครับ หลายคนที่ได้ลองก็ประทับใจ มันทำเสียงออกมาได้ดีมากๆหูตัวนี้ ของดีที่คนไทยไม่ค่อยรู้จัก

              Originally posted by nitroboy View Post
              ที่ผมบอกแบบนี้ไม่ได้จะดิสเครดิทใครนะครับ แต่ใช้แล้ว ลองแล้วทำกับมือแล้วได้ยังไงเลยเอามาเล่าต่อนครับ^ ^ (เจ้าRaging Moose นี่ก็ผ่านหูมาพอสมควรแล้วครับ)
              ลองแล้วเหมือนกัน เลยมาเล่าต่อ ว่าแต่ชุดสวยนะครับ
              Last edited by garmin; 22 May 2009, 10:22:30.

              Comment


              • #22
                เห็นด้วย แต่ว่าทำไม iPod ต่อแอมป์พกพาเสียงดีกว่าเดิม ช่อง phone out ของ iPod ก็มี opamp ขยาย
                ถ้าอ่านดีๆผมจะเขียนว่า ต่อจาก dock ipod ครับ
                ซึ่ง คนที่ใช้แอมพ์พกพากัน และใช้ ipod เค้าไม่ใช้ช่อง phone out กันนะครับสำหรับการต่อแอมพ์
                ซึ่งหลักการของ line out จะ dock ของ ipod คืออะไร ผมว่าน่าจะคงทราบนะครับ เพราะดูๆแล้ว เหมือนจะเล่นของพวกนี้พอสมควร

                Ultrasone Pro 2500 นี่ ก็ได้ลองใช้ตามงานมีตติ้งทั้งในกลุ่ม และนอกกลุ่ม หลายครั้งแล้วครับ (บอกแล้วท้ายความเห็นครับ ว่าลองแล้ว ถึงมาพูด)
                ซึ่งจะดีไม่ดี ชอบไม่ชอบยังไงนี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญครับ
                แต่คนเรามันชอบต่างกันครับ ดีของอีกคน อาจจะเป็นแย่สำหรับอีกคน
                ซึ่ง Ultrasone นี่ค่อนข้างดังมาพอสมควรแล้วนะครับ ไม่ใช่ว่า คนไทย ไม่รู้จัก

                อยากให้ไปลองฟัง Ultrasone Pro 2500 ดูก่อน 128k MP3 ก็เหอะ (ฟังเทียบกันแล้ว) แต่ว่าขอเป็นแทรกอัดมาดีๆ พวกออดิโอไฟล์ ฟังแล้วอาจจะเปลี่ยน "ความเชื่อ" ครับ
                ซึ่งที่ผ่านๆมา ผมยังไม่เห็นนักเล่นคนไหนบอกว่าไฟล์ mp3 128k ดีกว่า CD เลยซักคนครับ ไม่ว่าจะใช้ฟังกับหูฟังตัวไหน หรือลำโพงตัวไหน
                ซึ่งผมก็ว่า ผมก็รู้จักคนที่เล่นๆของพวกนี้อยู่เยอะพอสมควรครับ

                Comment


                • #23
                  อาจจะเขียนไม่ดีเลยทำให้เข้าใจผิด เอาใหม่

                  เห็นด้วย แต่ว่าทำไม iPod ต่อแอมป์พกพา (ผ่านช่อง phone out) เสียงดีกว่าไม่ต่อ (unamp) และช่อง phone out ของ iPod ก็มี opamp ขยาย (แบบเดียวกับที่ในซาวด์การ์ดมี)

                  และที่ตัวเองฟังมา เอาแอมป์ Thunderblot ต่อกับซาวด์การ์ด ก็ได้ผลดีเช่นกันครับ (จึงมาแนะนำว่าการหาแอมป์ราคาไม่แพงมาต่อกับซาว์ดการ์ด เป็นทางเลือกที่ไม่ต้องเปลี่ยนซาวด์การ์ดก็ได้)

                  ไม่ได้ต้องการ บอกว่าต่อผ่าน dock ดีกว่า phone out อันนี้คนละประเด็นครับ

                  แต่จริงๆ แล้วต่อผ่าน dock ก็มีปัจจัยอื่นที่ทำให้เสียงจะดีหรือไม่ได้ด้วย สายและหัวต่อ ก็มีผลอยู่แล้ว แต่ว่าที่ดีของคนนึงก็ไม่ได้แปลกว่าทุกคนจะเห็นเหมือนกัน

                  ที่มาให้ความเห็นก็เพราะเห็นต่างจาก

                  Originally posted by nitroboy
                  เรื่องแหล่งเสียงนี่ยิ่งแล้วใหญ่ครับ เอาง่ายๆคือ ผมเปลี่ยนจาก Dock ipod ที่ใช้ไฟล์ลอสเลสด้วยซะด้วยซํา ไปเป็นเครื่องเล่น CD ความต่างของเสียงที่ได้ยังมากโขครับ (กลับไปใช้ ipod แล้วรู้สึกว่ามันแบนเป็นกระดานเลย) ฉะนั้น 128k MP3 นี่จบกันเลยครับ
                  128k MP3 นี่ฟังได้ดีเลย ไม่ "จบกัน" แบบที่ว่ามาหรอกครับ เดี๋ยวคนจะเข้าใจผิดครับ แค่นี้เอง ไม่ได้ต้องการบอกว่า lossless ดีกว่า mp3 อันนี้คนละประเด็นกัน

                  เอามาให้คิดเล่นหน่อย ชุดไหนฟัง mp3 แล้วไม่ฟ้อง เสียงออกมาไพเราะ ไดนามิกส์ดี คอนทรานเยี่ยม เวทีมีมิติ ก็สมควรเป็นชุดที่ดีมากเลยใช่หรือไม่ ชุดแบบนี้ก็หาได้ไม่ง่าย

                  ที่ลองมา หูฟัง Ultrasone Pro2500 + Thunderblot เป็นตัวอย่างได้อย่างดีนะครับ

                  คำตอบไม่ได้มี lossless และ docking หรือเปลี่ยนซาว์ดการ์ด เพียวอย่างเดียว เติมแอมป์ก็ช่วยได้ จริงหรือไม่ไปลองดูได้ เจ้าตัวก็จะรู้เองครับ แน่นอนที่สุด
                  Last edited by garmin; 23 May 2009, 21:45:30.

                  Comment


                  • #24
                    คุณ garmin ต้องการจะสื่อว่า ขนาด mp3 128 Kbps ยังฟังแล้วเสียงดีเลย ถ้าเป็นไฟล์ flac หรือ wav จะขนาดไหน ซึ่งคงไม่ได้คิดหมายเป็นความอย่างอื่น กลับกัน ผมว่าเป็นการพูดให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นทีเดียว

                    Comment


                    • #25
                      ถ้าเป็น studio master ของ ค่าย Linn Records ล่ะก็ มาแบบ SACD นี่ครับ

                      แผ่นเดียวกัน ถ้าเล่น CD ธรรมดา จะออกแต่ 16/44.1

                      Comment

                      Working...
                      X