Announcement

Collapse
No announcement yet.

ไลเซนส์ใหม่ของ Vista ละเมิดยากขึ้น!!!

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • ไลเซนส์ใหม่ของ Vista ละเมิดยากขึ้น!!!

    รายงานข่าวแจ้งว่า ระบบปฏิบัติการ Windows Vista จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์แบบใหม่ด้วยการปิดกั้นไม่ให้ผู้ใช้สามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ได้อย่างต่อเนื่อง หากระบบปฏิบัติการไม่ได้รับการแอคทิเวท (activate) ภายใน 30 วันหลังติดตั้งเข้าไป
    “หากระบบปฏิบัติการ Windows Vista ไม่ได้รับการกระตุ้น (activate) ด้วย product key ที่ถูกกฎหมายภายใน 30 วัน ระบบจะเข้าสู่โหมด “ลดฟังก์ชันการทำงาน” (reduced functionality mode) จนกว่าจะได้รับการแอคทิเวต” Thomas Lindeman ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ที่ไมโครซอฟท์ กล่าว ซึ่งในโหมดการทำงานนี้ ผู้ใช้จะสามารถใช้เว็บบราวเซอร์ท่องเน็ตได้หนึ่งชั่วโมง หลังจากพ้นช่วงเวลาดังกล่าว ระบบจะล็อกเอาต์ออกไป

    เทคโนโลยีใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของ “Software Protection Platform” ของไมโครซอฟท์ โดยทางบริษัทได้ประกาศแผนดังกล่าวในวันพุธ เทคโนโลยีดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของไมโครซอฟท์ที่จะออกมาในอนาคต แต่จะเริ่มใช้ใน Windows Vista และ Windows Server “Longhorn”

    อย่างไรก็ดี ผู้ใช้ส่วนใหญ่อาจจะไม่ต้องเผชิญหน้ากับเทคโนโลยีป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ใน Vista โดยเฉพาะผู้ที่ซื้อคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Vista ไว้แล้วจากบริษัทอย่างเช่น Dell, HP และ Gateway เนื่องจากคอมพิวเตอร์ของบริษัทเหล่านี้ได้รับการแอคติเวทระบบปฏิบัติการเรียบร้อยแล้ว

    สำหรับผู้บริโภคที่ติดตั้ง Vista ด้วยตนเอง จะมีระยะเวลา 30 วันในการแอคทิเวทระบบปฏิบัติการ โดยในช่วง 30 วัน ผู้ใช้จะได้รับข้อความแจ้งเตือนที่แสดงการนับถอยหลังจำนวนวันที่เหลือ และในระหว่าง 3 วันสุดท้ายก่อนสิ้นสุดมันจะมีการแจ้งเตือนถี่มากเป็นพิเศษ

    หากผู้ใช้ละเลยการแอคทิเวทภายใน 30 วัน Vista จะแสดงทางเลือกให้ 4 ทางด้วยกัน โดยทางเลือกแรก เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถแอคทิเวทผ่านออนไลน์ ทางเลือกที่สอง ใช้งาน Vista ในโหมดลดฟังก์ชันการทำงาน ทางเลือกที่สาม ป้อน Product Key ที่ถูกกฎหมาย และทางเลือกที่สี่ แสดงวิธีแอคทิเวทโดยการติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ Lindeman กล่าว

    อย่างไรก็ตาม ไมโครซอฟท์จะยังคงมีการตรวจสอบความถูกต้องตามกฎหมายของระบบปฎิบัติการ Vista แม้ภายหลังที่ได้ทำแอคทิเวทไปแล้ว ซึ่งการตรวจสอบในลักษณะดังกล่าวมีโอกาสเกิดขึ้นได้ในหลายๆ สถานการณ์เช่น เมื่อดาวน์โหลดโปรแกรมเพิ่มเติมจากทางไมโครซอฟท์ เป็นต้น

    และในระหว่างที่ระบบปฏิบัติการถูกแจ้งเตือน(เนื่องจากไม่ยอมแอคทิเวท) Vista จะปิดกั้นการเข้าถึงเครื่องมือ Windows Defender anti-spyware ตัวเลือกสำหรับคุณสมบัติการเพิ่มขยายหน่วยความจำ ReadyBoost และกราฟิก Aero นอกจากนี้ ที่มุมด้านล่างขวายังจะมีการแสดงข้อความ “This copy of Windows is not genuine” ค้างไว้ตลอดเวลาอีกด้วย และขั้นสูงสุดของการป้องกันลิขสิทธิ์คือ ปิดกั้นไม่ให้ผู้ใช้สามารถใช้งานระบบปฏิบัติการ Vista ได้

    ความพยายามเพิ่มความยากในการละเมิดลิขสิทธิ์ในผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ ทางบริษัทยังได้มีการเปลี่ยนวิธีให้ไลเซนส์ซอฟต์แวร์อีกด้วย โดยระบบไลเซนส์แบบใหม่จะเข้าไปทับไลเซนส์โวลุ่มแบบเก่าที่องค์กรธุรกิจใช้ และเป็นไลเซนส์ที่มักจะถูกนำไปใช้ในการละเมิด เนื่องจากคีย์ประเภทนี้จะสามารถใช้รันผลิตภัณฑ์ได้หลายก็อปปี้ไม่จำกัดจำนวน โดยเฉพาะไลเซนส์ของ Windows XP และ Office XP

    สำหรับในระยะเริ่มต้นของการใช้แพลตฟอร์มป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ใน Vista ไมโครซอฟท์จะให้คีย์ที่แตกต่างกัน 2 ชนิด พร้อมทางเลือก 3 วิธี เพื่อกระจายคีย์เหล่านี้ภายในองค์กร โดยในทุกกรณีอาจจะต้องมีงานเพิ่มเติมที่แผนกไอทีของบริษัทต้องเข้าไปช่วยดำเนินการให้เรียบร้อย

    Product key ชนิดแรกที่ใช้แทนระบบปัจจุบันเรียกว่า “multiple activation key” หรือ MAK ผู้เชี่ยวชาญไอทีของบริษัทจะสามารถติดตั้งคีย์ชนิดนี้ลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องการแอคทิเวทผ่านออนไลน์ หรือเซตอัพพล็อกซี่ของส่วนกลางด้วยคีย์ดังกล่าว เพื่อแอคทิเวทหลายๆ เครื่องพร้อมกันในคราวเดียว

    ทางเลือกสำหรับไลเซนส์ชนิดที่สองเรียกว่า “key management service” หรือ KMS การที่องค์กรจะเลือกใช้ระบบในลักษณะนี้จะต้องเซตอัพบริการ KMS บนเครือข่ายของบริษัทขึ้นมาก่อน เพื่อแอคทิเวทเครื่องไคลเอ็นต์ คอมพิวเตอร์ทีรัน Vista จะมองหาบริการ KMS และแอคทิเวทเองโดยอัตโนมัติ

    ข่าว : Arip.co.th

  • #2
    อุอุ เอาแล้วไง . .

    Comment


    • #3
      ไม่พ้นการแงะหรอกครับ มีคนกันก้อมีคนแกะ- -

      Comment


      • #4
        Originally posted by Crossfires View Post
        ไม่พ้นการแงะหรอกครับ มีคนกันก้อมีคนแกะ- -

        Comment


        • #5
          จะแงะไหวมั้ยเน้อ - -"

          Comment


          • #6
            Originally posted by Crossfires View Post
            ไม่พ้นการแงะหรอกครับ มีคนกันก้อมีคนแกะ- -
            ถูกเลย

            Comment


            • #7
              ใช่ๆเดี่ยวเราก็ได้ใช้ฟรีๆกานเพราะคนไทยชอบของฟรีอิอิ

              Comment


              • #8
                เรื่องแค่นี้แฮกเกอร์ สามารถ ปกติก้อทำให้เป็นตัวเต็มได้แล้วไม่ใช่หรอครับ

                Comment


                • #9
                  โธ่เอ้ยทามไมไมโคซอฟไม่ใช้แบบปิดการทำงานของเลเซอเมื่อทำการก๊อปแล้วถ้าไม่ทำการใส่โค้ดให้เปิดวินโดวไม่ได้ไปเลยแต่ยังไงของฟรีก็มี555+

                  Comment


                  • #10
                    ชอบของฟรี

                    Comment


                    • #11
                      ปัญหานี้จะหมดไป ถ้าคนไทย รวมใจ ทำใจ หันไปใช้ Linux

                      ของฟรี .....

                      Comment


                      • #12
                        เชื่อฝีมือ พี่ ไทย เถอะ รับรอง ทำได้

                        Comment


                        • #13
                          อ๋อๆๆๆๆๆ เพิ่งอ่านจบ ดีๆ

                          เสียใจครับ ปัญหานี้ คนไทยเขา Hack ได้แล้วนะครับ

                          คือการที่ Microsoft ป้องกันหนาถึงขนาดนี้ ย่อมเป็นไปได้ยากที่จะแก้ไขที่ตัว Windows ให้ปลดโน่น ปล่อยนี่

                          คนไทยหัวใสบางกลุ่มเล็งเห็นว่า ผู้ที่จะมีสิทธิ์ได้รับลิขสิทธิ์แบบเต็มที่ จะมีอยู่ 2 ประเภท

                          1. ซื้อ Windows Vista ของแท้ไปเลย โดย WGA จะตรวจสอบได้จาก CD-Key
                          2. ซื้อคอมพิวเตอร์ แบบ แบรนด์เนม เช่น Acer HP Dell ฯลฯ โดยเครื่องพวกนี้จะได้ Windows ลิขสิทธิ์ติดมาเลย โดยการได้รับอนุญาติจาก Microsoft โดยตรง ซึ่ง WGA จะตรวจสอบได้จากเลขทะเบียนใน Bios ของคอมพวกนี้

                          ทีนี้การที่จะ Hack แบบในข้อแรกน่ะ มันทำได้ยาก เพราะต้องยอมรับว่า มันเหนียวเหลือเกินนะ

                          คนไทยหัวใส จึงเขียนโปรแกรม เสริมเข้าไปใน Bios เพิ่มเข้าไป เพื่อใส่ Code ที่เป็นเลขทะเบียนแบบเดียวกับที่บริษัท Computer Brandname ได้รับอนุญาติ แล้วลง Windows Vista ลงไป

                          ทีนี้ตอนจะ Activate ตัว WGA ก็จะตรวจว่าเป็นของแท้หรือของปลอม โดยที่ไม่ได้ตรวจที่ CD-key ที่ใส่ตามข้างกล่อง แต่จะตรวจเฃขทะเบียนใน Bios เอง

                          สรุปก็คือเป็นการไปแก้ที่ Bios เลย มิได้แก้ไขตัว Software Windows แต่อย่างใด
                          ก็ถือว่า เป็นการ Hack ที่ยุ่งยากไปนิดนึงนะ แต่ก็ได้ผลดี ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นนะครับ

                          Comment


                          • #14
                            เข้าประตูหน้าไม่ได้ก็เข้าทางประตูหลังเอา

                            แฮกเกอร์นี่ก็เก่งซะเหลือเกิน

                            Comment


                            • #15
                              เหอะๆๆ ลง CERT แป้บเดียวจบ ของแท้ด้วย อิอิ

                              Comment

                              Working...
                              X