Announcement

Collapse
No announcement yet.

30 TIP แบ่งๆกันรู้ แบ่งปันรอยหยัก

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • #16
    อันนี้ก็เป็นความรู้ และวิธีแก้ปัญหา

    คลิกขวาแล้ว Explorer เดี้ยง (หลังติดตั้ง SP2)


    สำหรับผู้ใช้ Windows XP ที่ติดตั้ง Service Pack 2 เข้าไปแล้วพบว่า เมื่อคลิกขวาบนไอคอน หรือโฟลเดอร์ที่อยู่บนเดสก์ทอป พอยท์เตอร์จะเปลี่ยนเป็นรูปนาฬิกาทราย Taskbar จะหายไป หลังจากนั้น 30 วินาทีหน้าจอจะกลับคืนมาเป็นปกติ ในขณะที่คลิกขวาใช้ไม่ได้อีกต่อไป...ปัญหานี้วินทิปเรามีคำตอบให้ครับ

    อาการแปลกๆ นี้จะเกิดขึ้นหลังจากที่ผู้ใช้ติดตั้ง SP2 แต่ต้องชี้แจงก่อนว่า ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นจาก SP2 นะครับ แต่เป็นเพราะการทำงานที่เข้ากันไม่ได้ของตัวจัดการเมนูคอนเท็กซ์ (Context-menu) จากซอฟต์แวร์บีบอัดข้อมูลวิดีโอ DivX กับการทำงานของ SP2 ต่างหาก
    อย่างไรก็ตาม DivX 5.2.1, DivX Pro 5.2.1 และ Dr DivX 1.0.6 ที่ออกมาล่าสุดจะสามารถทำงานเข้ากันได้กับ Microsoft Windows XP SP2 แล้ว และสามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ www.divx.com แต่ถ้าคุณยังคงต้องการใช้เวอร์ชั่นเก่าจะสามารถแก้ปัญหาได้โดยกำจัดตัวจัดการเมนูคอนเท็กซ์จากรีจิสทรี ซึ่งมีขั้นตอนของการแก้ไขมีดังนี้
    ขั้นตอนแรก รันโปรแกรม Registry Editor โดยคลิกปุ่ม Start เลือกคำสั่ง Run พิมพ์คำสั่ง Regedit กดปุ่ม Enter แล้วคลิกเข้าไปที่

    [HKEY_CLASSES_ROOT\*\shellex\ContextMenuHandlers\EncodeDivXExt]

    จากนั้นแบ็คอัพคีย์เป็นไฟล์นามสกุล REG (ไว้กันเหนียว) แล้วลบคีย์ EncodeDivXExt
    ขั้นตอนสุดท้ายปิดโปรแกรม Registry Editor แล้วรีสตาร์ท Windows เพียงแค่นี้อาการแปลกๆ ดังกล่าวก็จะหายเป็นปกติแล้วล่ะครับ
    แล้ว WinTip จะทยอยนำเทคนิคการแก้ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากติดตั้ง SP2 มาเล่าสู่กันฟังนะครับ

    นิตยสาร WinMag

    Comment


    • #17
      คลิกขวามหากาฬ เปิดโปรแกรมที่ต้องการได้ทุกที่


      ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะมีโปรแกรมอยู่ในดวงใจ 4-5 ตัวที่ใช้อยู่บ่อย ๆ เพื่อความคล่องตัวในการใช้งาน โดยทั่วไปโปรแกรมที่ใช้งานที่ชื่นชอบมักจะวางไว้บนสุดของรายการเมนูเหนือปุ่ม Start แต่มันจะง่ายและเร็วกว่าใหมถ้าเราเพิ่มโปรแกรมเหล่านั้นเข้าไปในเมนู คลิกขวา บนปุ่ม Start แทน
      ปกติเมนูคลิกขวาบนปุ่ม Start ผู้ใช้สามารถเปิดหน้าต่าง Windows Explorer และหน้าต่างค้นหา (Search) แต่ด้วยทิปนี้ คุณสามารถเพิ่มคำสั่งเรียกโปแกรมที่ชื่นชอบเข้าไปเป็นรายการในเมนูได้ ซึ่งช่วยให้การใช้โปรแกรมได้คล่องตัวมากขึ้น
      งานนี้คงต้องใช้ Registry Editor อีกแล้วครับท่าน โดยไปที่ Start >Run พิมพ์คำสั่ง regedit คลิก OK แล้วเข้าไปที่คีย์ HKEY_CLASSES_ROOT\Directory\shell จากนั้นคลิกขวาบนคีย์ shell เลือกคำสั่ง New > Key พิมพ์ชื่อคีย์ ตามต้องการ เสร็จแล้วด้านขวามือ ให้ดับเบิ้ลคลิกบนตัวแปรสตริง (Default) กำหนดค่า (Value) ให้เป็นชื่อโปรแกรมที่ต้องการโดยพิมพ์ตัว & เข้าไปด้านหน้าของชื่อโปแกรม (เช่น ¬epad) เสร็จแล้วที่กรอบด้านซ้าย คลิกขวาบนคีย์ที่สร้างเข้าไปใหม่ เพื่อสร้างคีย์ชื่อว่า command ภายใต้คีย์เดิมที่เพิ่งสร้างไป จากนั้นดับเบิ้ลคลิกบนสตริง (Default) ที่กรอบด้านขวา พิมพ์คำสั่ง เรียกโปแกรมที่ต้องการเข้าไป (เช่น c:\windows\notepad.exe) คราวนี้ลองคลิกขวาบนปุ่ม Start คุณจะพบชื่อโปรแกรมปากฎในเมนูที่โผล่ขึ้นมาแล้ว ซึ่งคุณสามารถเรียกเพื่อสั่งให้ทำงานได้

      Comment


      • #18
        โอ้.......... ความรู้ครับ ยิ่งแบ่งปันให้แก่ยิ่งเพิ่มพูน

        Comment


        • #19
          ดีครับ

          Comment


          • #20
            Outlook Express แจ้งข้อผิดพลาดเมื่อลบ Windows Messenger แก้ไง


            ปกติ Outlook Express จะพยายามเริ่มต้นการทำงานโปรแกรม Windows Messenger โดยอัตโนมัติ สำหรับวิธีหลีกเลี่ยงการแจ้งข้อความผิดพลาดดังกล่าว ให้เปิดโปรแกรม Outlook Express คลิกเมนู Tools เลือกคำสั่ง Options คลิกแท็บ General ยกเลิกเช็คบ๊อกซ์หน้าข้อความ “Automatically log on to Windows Messenger” แล้วคลิกปุ่ม OK เพียงแค่นี้คุณก็จะไม่พบข้อความผิดพลาดโผล่ขึ้นมากวนใจอีกแล้ว

            Comment


            • #21
              Windows XP อยู่ดี ๆ ก็ชอบรีสตาร์ทจะแก้ปัญหาอย่างไร


              หากประสบปัญหาที่อยู่ดี ๆ Windows XP ก็ชอบรีสตาร์ท นั้นเป็นเพราะว่า Windows XP ได้ถูกกำหนดให้รีสตาร์ททันทีที่ตรวจพบว่าบางส่วนของระบบมีปัญหา ซึ่งเราสามารถเข้าไปยกเลิกค่านี้ได้ โดยมีขั้นตอนดังนี้

              1. คลิกขวาที่ My Computer เลือก Properties
              2. เมื่อหน้าต่าง System Properties ขึ้นมาให้คลิกแท็ป Advance
              3. ที่กรอบคำสั่ง Startup and Recovery ให้คลิกปุ่ม Settings
              4. จะปรากฎหน้าต่าง Startup and Recovery ขึ้นมาให้คลิกเครื่องหมายูกที่ช่อง Automatically restart ออก แล้วคลิก OK เพียงเท่านี้ปัญหานี้ก็จะหมดไป

              Comment


              • #22
                WinXP ไม่ยอมให้ลบไฟล์ ?


                ถาม: ผมต้องการลบไฟล์ที่ไม่ได้ใช้ออกจากเครื่อง แต่ Windows XP ฟ้องว่า “can not delete file…in use by another program” ทำให้ลบไฟล์ดังกล่าวออกไปไม่ได้ รบกวนช่วยแนะนำวิธีแก้ปัญหาด้วยครับ

                ตอบ: เป็นปัญหาที่พบเห็นกันได้เสมอ ขั้นแรกให้คุณรีสตาร์ทเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยกด F8 เพื่อเข้าสู่เมนู “Advanced Boot Options” ซึ่งเมื่อเข้าไปในเมนูดังกล่าวแล้วให้เลือกออปชัน “Safe Mode w/ Command Prompt” จากนั้นให้ระบบเริ่มต้นทำงานตามปกติ และล็อกอินเข้าไปสู่ระบบด้วยบัญชีผู้ใช้ที่เป็น administrator ของเครื่อง
                เมื่อเข้าสู่ระบบเรียบร้อยแล้ว ให้คลิกเข้าไปยังไดเร็กทอรีที่จัดเก็บไฟล์เจ้าปัญหา (ที่ลบไม่ออกสักที) จากนั้นคลิกเลือกไฟล์ที่ต้องการกำจัดออกไป กดปุ่ม del บนคีย์บอร์ด ยืนยันการลบเพื่อลบไฟล์เจ้าปัญหาออกไประบบ

                ขั้นตอนการลบข้างต้นจะช่วยป้องกันไม่ให้ Explorer เริ่มต้นการทำงานของไฟล์ดังกล่าว ก่อนที่คุณจะเข้าถึงไฟล์ เพื่อลบมันออกไป ซึ่งโดยทั่วไปของการทำงาน Windows จะไม่ยอมให้คุณลบไฟล์ใดๆ ขณะที่มันกำลังใช้งานไฟล์นั้นอยู่นั่นเอง

                Comment


                • #23
                  Yahoo ใช้ “คุ้กกี้” ติดตามผู้ใช้?


                  ถาม: ได้ยินมาว่า เว็บไซต์ Yahoo ใช้กลไกที่เรียกว่า “cookies” ติดตามผู้ใช้ขณะที่เข้าไปเยี่ยมชม ซึ่งไม่เพียงแต่เฉพาะในเว็บไซต์ Yahoo เท่านั้น แต่ยังติดตามไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ต่อจากนั้นด้วย ไม่ทราบว่า เรื่องนี้จริงเท็จ ประการใดครับ?

                  ตอบ: เป็นเรื่องจริงครับ เนื่องจาก Yahoo กำลังใช้กลไกการติดตามที่เรียกว่า “Web beacons” หรือ “super cookie” ซึ่งสามารถติดตามได้ไม่เฉพาะผู้เยี่ยมชมไปดูอะไรบ้างในเครือข่ายเว็บไซต์ Yahoo เท่านั้น แต่ยังสามารถตามติดผู้เยี่ยมชมภายหลังที่ออกไปนอกเครือข่าย Yahoo ได้ด้วย โดยอาศัยไฟล์พิเศษที่คงอยู่บนฮาร์ดดิสก์ อย่างไรก็ดี เฉพาะผู้ที่เป็นสมาชิก Yahoo เท่านั้นจึงจะถูกติดตามในลักษณะนี้ ในกรณีที่คุณไม่ต้องการให้ Yahoo ติดตามพฤติกรรมการเข้าดูเว็บไซต์ต่างๆ ของคุณ สามารถทำได้โดยล็อกอินเข้าไปใน Yahoo จากนั้นไปที่ privacy.yahoo.com
                  เมื่อเข้าไปถึงแล้ว ให้เลื่อนลงไปยังเซคชั่นล่างๆ ที่มีหัวข้อว่า cookies คุณจะเห็นลิงค์ “web beacons” คลิกเพื่อเข้าไปหยังหน้าเว็บถัดไป เลื่อนหน้าจอไปยังเซคชั่น “Outside the Yahoo network” สังเกตุลิงค์เล็กๆ ที่เขียนว่า “click here to opt-out” ให้คลิกบนลิงค์นี้
                  หน้าเว็บยืนยันจะปรากฏขึ้น โดยแจ้งว่า ตอนนี้คุณได้ยกเลิกออปชันการติดตามนอกเครือข่าย Yahoo แล้ว (You have opted out successfully) แต่ถ้าคุณคลิกปุ่ม Cancel Opt-out ที่อยู่ในหน้าเว็บเดียวกัน มันจะกลายเป็นว่า คุณยกเลิกการ opt-out และอนุญาติให้เว็บไซต์ Yahoo กลับไปติดตามคุณนอกเครือข่าย Yahoo เหมือนเดิม (Yahoo ใช้ลูกเล่นแบบเดียวกับ Spyware ในการทำให้ผู้ใช้รู้สึกสับสนแล้วคลิกผิดปุ่ม!!!) ปิดหน้าเว็บ โดยคลิกปุ่ม x ที่อยู่มุมขวาของหน้าต่างบราวเซอร์

                  ถึงขั้นตอนนี้ เราก็คงต้องเชื่อใจว่า Yahoo ได้ยกเลิกการติดตามนอกเครือข่ายให้กับคุณแล้วจริงๆ

                  Comment


                  • #24
                    เตรียมรับมือกับการเกิดหน้าจอ ฟ้า ปัญหาหน้าจอสีฟ้า


                    ที่กินเนื้อที่บนจอทั้งหมด ซึ่งแสดงความผิดผลาดที่เรียกว่า Windows General Protection Fault (GPF) บ่อยๆ อาจเป็นเพราะว่า ไฟล์ DLL (Dynamic Link Libraries) หลายไฟล์เกิดปัญหาขึ้น แต่ไม่ต้องกังวลไปนะครับ เราจะมาช่วยกันหาจุดกำเนิดของปัญหานี้ด้วยกัน ว่าแล้วเราก็มาลองทำกันดูนะครับ

                    1. ให้คุณลองถอดโปรแกรมที่เพิ่งจะทำการติดตั้งออกให้เรีบยร้อย โดย Start menus >> Setting Add/Remove Prorams >> เลื่อกชื่อโปรแกรม ถ้าหากเครื่องคุณเกิดการแครช หรือว่าหยุดทำงานหลังจากการติดตั้งโปรแกรมตัวใหม่ลงไป ก็เดาเอาไว้ก่อนครับว่าเจ้าโปรแกรมตัวใหม่นี้เองหละ ที่ทำให้เครื่องโปรของเราเกิด แครชครับ

                    2. ตรวจสอบไฟล์ DLL (Dynamic Link Libraries ) คือ โปรแกรมขนาดเล็กที่ ถูกแอปปิเคชั่นบนวินโดว์หลายๆตัว ใช้ร่วมกัน ดังนั้นให้เริ่มต้นค้นหก่อนว่ามี ไฟล์ DLL ซ้ำซ้อน กันอยู่หรือไม่โดยเปรียบ เทียบกับเวอร์ชั่น แล้วกำจัดไฟล์ตัวเก่าออกไป ทำตามขั้นตอนดังนี้นะครับ

                    ที่เดสก์ท๊อปของวินโดว์ให้กดปุ่ม <F3> เพื่อเป็นการเปิดไดอะล็อกบ๊อกซ์ Find( ใน Windows 98 เป็น Search Results) อย่าลืมติ๊กที่เครื่องหมาย Inculde subfolder (ใน Windows ME จะอยู่ที่ Search >> Options และ Search subfolders) แล้วในช่อง "Look In" เลือก My Coputer ในช่อง Named พิมพ์ *.dll แล้วในหน้าต่าง

                    ผลลัพธ์ ที่ได้จะแสดงชื่อ ไฟล์ที่ตรงกับเงื่อนไขการค้นหา ให้เรียงไฟล์เหล่นี้โดย View >>Details แล้วคริ๊กที่หัวคอลัมพ์ Name **เคล็ดลับในการที่จะค้นหา เพื่อให้ค้นหาต้นต่อได้ง่ายขึ้น

                    คุณอาจเริ่มต้นจากการหาไฟล์ DLL ที่มักสร้างปัญหาบ่อย ซึ่งมักเป็นไฟล์ที่มีคำขึ้นต้นด้วยตัวอักษรดังต่อไปนี้ : BWCC, CO, CLT, MCF, MSV, และ OLE การป้อนชื่อให้พิมพ์ .dll ไว้ข้างหน้าตัวอักษรเหล่านี้เช่น MFD.dll เพื่อเป็นการค้นหาไฟล์ dll ที่มีคำว่า MFC นำหน้า

                    3. เปรียบเทียบ เวอร์ชั่นของไฟล์ การเปรียบเทียบไฟล์ ให้คลิ๊กขวาตรงไฟล์ที่ซ้ำกัน แลัวเลือก Properties ดู้แทป Version จากนั้นเปรียบเทียบจากเวอร์ชั่น(ไฟล์ที่เวอร์ชั่นสูงกว่ามักจะอยู่ใน โฟลเดอร์ System******** ข้อควรจำ : การเปรียบเทียบให้ดูจากเวอร์ชั่น วันที่ไม่มีความสำคัญ

                    4. เปลี่ยนไฟล์ชื่อ DLL หากคุณพบไฟล์ DLL เวอร์ชั่น ต่ำกว่าในโฟล์เดร์แอปพลิเคชั่น และในโฟลเดอร์ System อย่าเพื่งลบไฟล์ในนั้น ให้กด <F2> เพื่อเปลี่ยบนามสกุลเป็น *.d_l การทำเช่นนี้จะช่วยให้เก็บไฟล์ ในเวอร์ชั่น เก่าเอาไว้ ในขณะเดียวกัน ก็บังคับให้โปรแกรมโหลด DLL ที่ถูกจากโฟลเดอร์ System หลังจากเปลี่ยนชื่อไฟล์ DLL แล้วให้ไปบู๊ทเครื่องใหม่ หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ให้เปลี่ยนชื่อ DLL ตัวเก่าต่อไป

                    ที่เดสก์ท๊อปของวินโดว์ให้กดปุ่ม <F3> เพื่อเป็นการเปิดไดอะล็อกบ๊อกซ์ Find

                    Comment


                    • #25
                      “สกรีนเซฟเวอร์” รีเซตเป็น NONE ?


                      ถาม: เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ตอนนี้ถูกตั้งค่าไม่ให้สามารถเปลี่ยนสกรีนเซฟเวอร์ได้ โดยมันจะรีเซตกลับไปเป็น “NONE” ทุกครั้ง ไม่ทราบว่าจะแก้ไขให้กลับเป็นเหมือนเดิมได้อย่างไร

                      ตอบ: ผู้ดูและระบบจะสามารถกำหนดนโยบาย (policies)การใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows XP ได้ อย่างเช่น กำหนดให้ผู้ใช้ไม่สามารถเปลี่ยนสกรีนเซฟเวอร์ (Screensaver) ได้เป็นต้น สำหรับขั้นตอนการแก้ไขให้กลับเป็นเหมือนเดิมมีดังนี้
                      1. คลิกปุ่ม Start -> Run พิมพ์คำสั่ง gpedit.msc คลิกปุ่ม Open
                      2. ในหน้าต่าง Group Policy คลิกเข้าไปที่
                      • User Configulation -> Admin Templates -> Control Panel -> Display
                      3. ดับเบิ้ลคลิกบนไอเท็ม Screensaver เลือก Enable แล้วคลิกปุ่ม Apply

                      เพียงแค่นี้ Screensaver ก็จะอนุญาติให้แก้ไขได้แล้ว ลองทำดูนะครับ
                      * หมายเหตุ: Group Policy Editor (gpedit.msc) จะมีอยู่ใน Windows XP Professional เท่านั้น

                      คลิ๊กปุ่ม Start -> Run พิมพ์คำสั่ง gpedit.msc คลิกปุ่ม Open " อันี้ดีพิ่รู้ "
                      Last edited by hornetpc719; 12 Nov 2006, 01:40:12.

                      Comment


                      • #26
                        SP2 แจ้งเตือน ActiveX


                        ถาม: ผมเพิ่งติดตั้ง Windows XP Service Pack 2 ล่าสุด ผมได้รับข้อความแจ้งเตือนเกี่ยวกับการดาวน์โหลดคอมโพเนนต์ ActiveX จากบางเว็บไซต์ อยากทราบว่า ข้อความเตือนพวกนี้หมายความอย่างไรครับ?

                        ตอบ: หน้าที่โดยทั่วไปของ ActiveX ก็คือ การทำให้เว็บเพจสามารถโต้ตอบการทำงานกับผู้ใช้ได้มากขึ้น ในขณะเดียวกัน ActiveX บางตัวที่มากับเว็บไซต์ที่ไม่คุ้นเคยอาจจะมีการทำงานที่ไม่พึงประสงค์สำหรับผู้ใช้ก็ได้ เนื่องจากผู้ไม่หวังดีสามารถสร้างคอมโพเนนต์ ActiveX ให้มันส่งคุ้กกี้เข้าไปในระบบ เพื่อติดตามการทำงานของผู้ใช้, สร้างไวรัส หรือโปรแกรมที่สามารถสร้างความเสียหายให้กับระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ของคุณได้ ซึ่งทำได้ไม่ยากนัก
                        ดังนั้น ถ้าคุณไม่คุ้นเคย หรือไว้ใจชื่อของผู้สร้างคอมโพเนนต์ ActiveX ที่กำลังจะดาวน์โหลดเข้ามาในเครื่องของคุณ ก็อย่ายอมรับมัน ตามที่ข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นมาย้ำความมั่นใจให้กับคุณนั่นเอง

                        บางคนที่ยังไม่รู้ อิอิ..

                        Comment


                        • #27
                          ตรวจสอบ Serial Number ของโปรแกรม
                          เขียนโดย Poj , 18-04-2006

                          ทีนี้เราก็สามารถดู Serial Number ของโปรแกรมต่างๆที่ลงไปแล้วได้
                          ในการติดตั้งโปรแกรมบน Windows นั้นทุกโปรแกรมจะต้องใส่หมายเลข Serial Number ที่โปรแกรมนั้นๆมีมาเพื่อแสดงว่าโปรแกรมได้รับอนุญาติให้ใช้งานได้อย่างถูกต้อง
                          ซึ่งเมื่อมีการติดตั้งโปรแกรมลงไปแล้วเราก็จะไม่สามารถตรวจสอบ Serial Number ได้อีก บทความนี้มีวิธีการดู Serial Number มาฝากครับ
                          1. คลิกที่ Start เลือก Run
                          2. พิมพ์คำว่า regedit
                          3. คลิกที่ HKEY_LOCAL_MACHINE
                          4. คลิกที่ Software แล้วเลือกโปรแกรมที่ต้องการ
                          5. โดยส่วนมาก Serial Number จะอยู่ที่ Registration ของแต่ละโปรแกรม จากนั้นที่หน้าต่างทางขวาให้ดูตรง Serial Number

                          โดยบางโปรแกรม Serial Number จะอยู่ที่ HKEY_CURRENT_USER > Software

                          หรือโดยโปรแกรม Everest จขกท.

                          Comment


                          • #28
                            อิอิ ชอบจัง tipแบบนี้ อ่านไปลองไปสนุกดี

                            แต่ใช้จิงจำไม่หมด เอิ๊กๆ

                            Comment


                            • #29
                              ผมขอถามคับ
                              คือเครื่องผม ไม่สามารถใส่ภาพหน้าจอได้คับ คำสั่งต่างๆมันไม่แอคทีฟ ต้องทำไงคับ

                              Comment


                              • #30
                                ขอบคุณหลายๆ ครับ ท่าน

                                Comment

                                Working...
                                X