VE Asura
Earbud ที่ทุกคนควรจะมี
คำกล่าวอ้างนี่ไม่เกินจริงเลยซักนิด
จากกระแสที่มาแรง ผมเลยจับเอามารีวิวซะเลย
เริ่มจากสัมผัสภายนอกเริ่มจากแจ็ค สวยมากให้สัมผัสที่มีราคา
ดูแพงทำจากอะลูมิเนียมงานสีเนี๊ยมมาก
ตัวสายทำได้ดี อ่อนนุ่ม ไม่ดีดไม่เด้ง ทิ้งตัวกำลังดี
ฉนวนนอกสุดจะใสและผิวไม่เรียบ ขรุขระนิดหน่อยตามลักษณะสายด้านใน
สายด้านในมีฉนวนสีดำ นำมาตีเกลียวกัน ไล่มาถึงจุดแยกตัว Y
ใช้วัสดุเดียวกับตัวแจ็ค สวยดูดี น้ำหนักเบา
ข้อเสียคือไม่มีตัวรูดๆให้ บางคนอาจจะติดตัวรูดๆนี้
แต่อาจจะไม่ต้องมี เพราะตัวสายน้ำหนักเบา
สายด้านซ้าย-ขวา ยาวเท่ากัน
จะไม่เหมือน earbud เจ้าตำนานอย่าง sony E-888 ที่สายด้านนึง
ออกแบบมาสำหรับคล้องคอด้านหลัง
VE Asura ตัวหูฟัง ทำจากพลาสติคคุณภาพดี
มีดีไซน์ที่ดูแพงมาก แพงกว่าหูตัวละ 199 บาทนิดนึง
มองโลกในแง่ดี น่าจะออกแบบมากันขโมย
วางไว้ไม่มีหาย เพราะไม่มีใครคิดว่าแพง 55555
เข้าเนื้อเรื่องหลัก ไม่ย้อนอดีตแบบเมะยุคเก่า
ยุคนี้ต้องกระชับฉับไวได้ใจความ
เสียงดี แต่!!! ขับยากพอสมควร
อย่าพึ่งกังวล มือถืออย่าง iPhone ขับได้ไม่ถึงกับดี แต่ไม่น่าเกลียด
ต้องเร่งหนักหน่อยเร่งไปซัก 60-70% ฟังในห้องเงียบๆนี่กำลังดีเลย
ขับด้วย Player นี่ผมลองใช้ Fiio X3 ขับ
ป๊าดดดด ใช้ High Gain หรือ Low Gain ก็ได้
เพียงแต่ Vol นี่เปิดระดับ 70-75 จาก 120 เรียกว่าราวๆ 60% เลย
ตกใจใช้ได้เลย
เริ่มแรกมาสิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือเสียงร้อง mid ไปจนถึง mid-hi
จะเด่นเป็นพิเศษ เป็นหูฟังที่มีความโปร่งฟังสบาย
สปีดดีกระชับ แต่เนื้อเสียงอาจจะบางไปซักนิด
ยิ่งมาจับกับ Fiio X3 ที่จูนเสียบมาค่อนข้างเป็น Audiophile
เลยทำให้เสียงอาจจะบางไปซักหน่อย หน่อยเดียวจริงๆ
แต่พอลองเสียบ iPhone เสียงก็หนาอุ่นขึ้นมาอีกนิด
ก็คงจะต้องแมชกับเพลเยอร์หรือแอมป์ซักหน่อย จะได้ฟังได้ดียิ่งขึ้น
เรื่องมิติทำได้ดี ไม่อึดอัด มีถอยไปด้านหลังเล็กน้อย
อาจจะด้อยเรื่องอิมแพคไปซักหน่อย เบสดีมีคุณภาพ แต่ปริมาณอาจจะไม่มาก
ตรงนี้ผมไม่มองเป็นข้อเสีย มันแล้วแต่รสนิยมส่วนบุคคลจริงๆ
เรื่องเสียงกลางเด่นมาก เรียกว่าเป็นทีเด็ดที่เอาไว้โอ้อวดได้เลย
เสียงกลางนั้นมีทรวดทรงกำลังสวย ติดหวานนิดนึง
จากประโยคนี้ หลายๆคนคงเริ่มจินตนาการแล้วว่ามันดีขนาดนั้นจริงๆหรือ
เอาเป็นว่ามันดีแน่นอน ชอบหรือไม่นั่นคืออีกเรื่อง
ส่วนจุดเด่นอีกอย่างคือสปีดที่ดี กระชับ แม่นมาก เรียงว่าฟังแล้วจะไม่รู้สึกเร่งรีบ
หรือเหยาะแหยะย่อนยาน ไดนามิคถือว่าคุ้มค่าตัว
ฟังมาหลายเพลงแล้วยังไม่เจอสิ่งแย่ๆออกมาให้ได้ยินเลย ที่รู้สึกแย่ก็จะมีแค่
หน้าตาที่ดูบ้านๆตลาดนัด แล้วก็เรื่องที่มันขับยากนี่แหละ
ส่วนเรื่องความสบายในการสวมใส่ จากที่ฟังมามานานสิบกว่าปี
ทำให้ได้รับรู้ว่าพวก Ear-bud จะใส่สบายที่สุดก็คือแค่วางไว้ที่หู
อยากไปกดไปยัดไปจัดอะไรมันทั้งนั้น ถ้าแค่วางไว้จะทำให้ใส่สบาย
และไม่รู้สึกเจ็บอะไรทั้งนั้น ไม่ว่ามันจะใหญ่กว่าหูเราซักหน่อยก็ใส่ได้สบาย
โดยรวมแล้ว ใครชอบ Ear-bud ก็ควรจะมีไว้ในกระเป๋าแหละครับ
หยิบมาต่อฟังกับโทรศัพท์ได้สบายๆเลย หรือถ้าเพลเยอร์ให้เสียงที่แมชกันได้
Asura ก็น่าจะฟังติดหูได้ไม่ยากเย็นนัก
สรุปคือเป็นหูฟังที่ราคาเบา จ่ายง่าย ฟังง่าย
ขับไม่ง่าย ฟังสนุกๆ โดนส่วนตัวแล้ว Asura ทำให้ผมลืม E-888 ไปได้เลย
ยังไงก็อย่าลืมติดตาม www.facebook.com/reviewlenlen หน่อยนะครับ
เราจะรีวิวสิ่งที่อยากจะรีวิว ต่อไปอาจจะมีร้านอาหารด้วยแบบขำๆ
ส่วนพวกรีวิวลำโพงหรือ dac เก่าๆ จะทะยอยเอามาลงตามที่เวลาจะสะดวกครับ
แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้าจ้า คงเป็น DAP อีกเช่นเคย
Earbud ที่ทุกคนควรจะมี
คำกล่าวอ้างนี่ไม่เกินจริงเลยซักนิด
จากกระแสที่มาแรง ผมเลยจับเอามารีวิวซะเลย
เริ่มจากสัมผัสภายนอกเริ่มจากแจ็ค สวยมากให้สัมผัสที่มีราคา
ดูแพงทำจากอะลูมิเนียมงานสีเนี๊ยมมาก
ตัวสายทำได้ดี อ่อนนุ่ม ไม่ดีดไม่เด้ง ทิ้งตัวกำลังดี
ฉนวนนอกสุดจะใสและผิวไม่เรียบ ขรุขระนิดหน่อยตามลักษณะสายด้านใน
สายด้านในมีฉนวนสีดำ นำมาตีเกลียวกัน ไล่มาถึงจุดแยกตัว Y
ใช้วัสดุเดียวกับตัวแจ็ค สวยดูดี น้ำหนักเบา
ข้อเสียคือไม่มีตัวรูดๆให้ บางคนอาจจะติดตัวรูดๆนี้
แต่อาจจะไม่ต้องมี เพราะตัวสายน้ำหนักเบา
สายด้านซ้าย-ขวา ยาวเท่ากัน
จะไม่เหมือน earbud เจ้าตำนานอย่าง sony E-888 ที่สายด้านนึง
ออกแบบมาสำหรับคล้องคอด้านหลัง
VE Asura ตัวหูฟัง ทำจากพลาสติคคุณภาพดี
มีดีไซน์ที่ดูแพงมาก แพงกว่าหูตัวละ 199 บาทนิดนึง
มองโลกในแง่ดี น่าจะออกแบบมากันขโมย
วางไว้ไม่มีหาย เพราะไม่มีใครคิดว่าแพง 55555
เข้าเนื้อเรื่องหลัก ไม่ย้อนอดีตแบบเมะยุคเก่า
ยุคนี้ต้องกระชับฉับไวได้ใจความ
เสียงดี แต่!!! ขับยากพอสมควร
อย่าพึ่งกังวล มือถืออย่าง iPhone ขับได้ไม่ถึงกับดี แต่ไม่น่าเกลียด
ต้องเร่งหนักหน่อยเร่งไปซัก 60-70% ฟังในห้องเงียบๆนี่กำลังดีเลย
ขับด้วย Player นี่ผมลองใช้ Fiio X3 ขับ
ป๊าดดดด ใช้ High Gain หรือ Low Gain ก็ได้
เพียงแต่ Vol นี่เปิดระดับ 70-75 จาก 120 เรียกว่าราวๆ 60% เลย
ตกใจใช้ได้เลย
เริ่มแรกมาสิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือเสียงร้อง mid ไปจนถึง mid-hi
จะเด่นเป็นพิเศษ เป็นหูฟังที่มีความโปร่งฟังสบาย
สปีดดีกระชับ แต่เนื้อเสียงอาจจะบางไปซักนิด
ยิ่งมาจับกับ Fiio X3 ที่จูนเสียบมาค่อนข้างเป็น Audiophile
เลยทำให้เสียงอาจจะบางไปซักหน่อย หน่อยเดียวจริงๆ
แต่พอลองเสียบ iPhone เสียงก็หนาอุ่นขึ้นมาอีกนิด
ก็คงจะต้องแมชกับเพลเยอร์หรือแอมป์ซักหน่อย จะได้ฟังได้ดียิ่งขึ้น
เรื่องมิติทำได้ดี ไม่อึดอัด มีถอยไปด้านหลังเล็กน้อย
อาจจะด้อยเรื่องอิมแพคไปซักหน่อย เบสดีมีคุณภาพ แต่ปริมาณอาจจะไม่มาก
ตรงนี้ผมไม่มองเป็นข้อเสีย มันแล้วแต่รสนิยมส่วนบุคคลจริงๆ
เรื่องเสียงกลางเด่นมาก เรียกว่าเป็นทีเด็ดที่เอาไว้โอ้อวดได้เลย
เสียงกลางนั้นมีทรวดทรงกำลังสวย ติดหวานนิดนึง
จากประโยคนี้ หลายๆคนคงเริ่มจินตนาการแล้วว่ามันดีขนาดนั้นจริงๆหรือ
เอาเป็นว่ามันดีแน่นอน ชอบหรือไม่นั่นคืออีกเรื่อง
ส่วนจุดเด่นอีกอย่างคือสปีดที่ดี กระชับ แม่นมาก เรียงว่าฟังแล้วจะไม่รู้สึกเร่งรีบ
หรือเหยาะแหยะย่อนยาน ไดนามิคถือว่าคุ้มค่าตัว
ฟังมาหลายเพลงแล้วยังไม่เจอสิ่งแย่ๆออกมาให้ได้ยินเลย ที่รู้สึกแย่ก็จะมีแค่
หน้าตาที่ดูบ้านๆตลาดนัด แล้วก็เรื่องที่มันขับยากนี่แหละ
ส่วนเรื่องความสบายในการสวมใส่ จากที่ฟังมามานานสิบกว่าปี
ทำให้ได้รับรู้ว่าพวก Ear-bud จะใส่สบายที่สุดก็คือแค่วางไว้ที่หู
อยากไปกดไปยัดไปจัดอะไรมันทั้งนั้น ถ้าแค่วางไว้จะทำให้ใส่สบาย
และไม่รู้สึกเจ็บอะไรทั้งนั้น ไม่ว่ามันจะใหญ่กว่าหูเราซักหน่อยก็ใส่ได้สบาย
โดยรวมแล้ว ใครชอบ Ear-bud ก็ควรจะมีไว้ในกระเป๋าแหละครับ
หยิบมาต่อฟังกับโทรศัพท์ได้สบายๆเลย หรือถ้าเพลเยอร์ให้เสียงที่แมชกันได้
Asura ก็น่าจะฟังติดหูได้ไม่ยากเย็นนัก
สรุปคือเป็นหูฟังที่ราคาเบา จ่ายง่าย ฟังง่าย
ขับไม่ง่าย ฟังสนุกๆ โดนส่วนตัวแล้ว Asura ทำให้ผมลืม E-888 ไปได้เลย
ยังไงก็อย่าลืมติดตาม www.facebook.com/reviewlenlen หน่อยนะครับ
เราจะรีวิวสิ่งที่อยากจะรีวิว ต่อไปอาจจะมีร้านอาหารด้วยแบบขำๆ
ส่วนพวกรีวิวลำโพงหรือ dac เก่าๆ จะทะยอยเอามาลงตามที่เวลาจะสะดวกครับ
แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้าจ้า คงเป็น DAP อีกเช่นเคย
Comment