สวัสดีชาวโอเวอร์คล็อกโซน ในยุค 2025 การใส่สมาร์ทวอทช์นอนคงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างไรนัก จะดีกว่ามั๊ยที่มีทางเลือกของสมาร์ตแบนด์ที่ “เข้าใจร่างกายคุณ” มากกว่าแค่การนับก้าว ในยุคที่สมาร์ทวอทช์ และ สมาร์ตแบนด์แข่งขันกันด้วยสเปก ฟีเจอร์สุขภาพ และ AI Tracking แต่ ASUS VivoWatch 6 AERO สมาร์ตแบนด์รุ่นแรกของโลก ที่สามารถตรวจวัดได้ทั้ง ความดันโลหิต และ คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) แบบเรียลไทม์ เพียงแตะนิ้วลงบนเซ็นเซอร์ ก็สามารถรับข้อมูลสุขภาพได้ทันที หน้าจอสัมผัส AMOLED ดีไซน์ใหม่พร้อม UI โฉมสด แสดงผลสีสันสดใส รายละเอียดคมชัด ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดื่มด่ำราวกับมีจอภาพคุณภาพสูงอยู่บนข้อมือ เซ็นเซอร์ ECG และ PPG แบบเฉพาะของ ASUS ให้ความแม่นยำสูงขึ้นในการติดตามสุขภาพ พร้อมผิวสัมผัสผ่านกระบวนการ sputtering technology ที่เพิ่มความทนทานและให้รูปลักษณ์เรียบหรู เล็กแต่ทรงพลัง: น้ำหนักเบาไม่ถึง 27 กรัม มาพร้อม GPS ในตัว, กันน้ำระดับ 5ATM (ใส่ว่ายน้ำได้) และดีไซน์แบบ Smart Casual ที่เข้ากับทุกลุค พร้อม แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 7 วัน ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
Package

แพคเกจที่ดูมินิมอล มาเป็นกล่องกระดาษแข็งสีดำ ตรงกลางชัดเจนโลโก้ ASUS VivoWatch AERO

ในชุดที่มีคู่มือการใช้งาน พร้อมสาย USB A to นาฬิกา ความยาวประมาณคืบนึง และสายเส้นที่สอง
Band Detail

เป็นทรงสี่เหลี่ยมแนวตั้ง หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.1 นิ้ว พร้อมกระจก Gorilla Glass 3 ตัวเรือนน้ำหนักประมาณ 27 กรัม (รวมสาย) และรองรับมาตรฐานกันน้ำ 5 ATM แบตเตอรี่ความจุราว 135 mAh พร้อมใช้งานได้ถึง “ประมาณ 5 วัน” ในโหมดปกติ หรือสูงสุดถึง 7 วันในโหมดประหยัดพลังงาน เซนเซอร์ครบครัน ECG Sensor, PPG Senor, GPS sensor, G sensor ฟีเจอร์สุขภาพ วัดความดันโลหิต-โดยนิ้วแตะ (finger-touch)และ ECG ได้ รวมถึงติดตามการนอน ความเครียดได้

หน้าจอขนาดเล็ก ถ้าอายุหลักสี่ ที่มองข้อความลำบากหน่อย หน้าจอแบบ AMOLED ก็ให้ภาพที่คม สวยงาม เซ็นเซอร์ด้านหน้า เมื่อวางนิ้วบนโมดูลเซ็นเซอร์ด้านหน้า คุณสามารถตรวจวัด ความดันโลหิต, ระดับออกซิเจนในเลือด (SpO₂) หรือทำการ วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ได้ทันที ตัวเรือนคาดว่าเป็นตัวเรือนอะลูมิเนียมอัลลอย

เซ็นเซอร์ด้านหลัง เมื่อสวมใส่ เซ็นเซอร์ด้านหลังจะสัมผัสแนบกับข้อมือ สามารถตรวจวัดและติดตามข้อมูลได้อย่างต่อเนื่อง เช่น ค่าดัชนี Pulse Transit Time (PTT Index), ระดับ SpO₂, และ อัตราการเต้นของหัวใจ แม้ในขณะพักผ่อนหรือหลับก็ตาม การชาร์ทเป็นแบบแม่เหล็ก

ตัวสายที่ออกแบบมาเรียบง่าย แต่แอบซ่อนไว้ด้วยคุณภาพ

สายสีชมพู ที่มีมาให้ในชุด ถ้าเป็นผู้หญิงใส่ที่ดูดีมาก ตัวล็อคสายนาฬิกา หรือ บัคเคิ้ล หรือ Buckle เล่นด้วยสี Rose Gold
ปุ่มกดทางขวา ถ้าใครใส่นาฬิกาแบบ Chronograph คงคุ้นเคยกับปุ่มที่ตัวเรือน ใน VivoWatch 6 จะมีปุ่มบน ที่มีวงแหวงสีแดง ที่ใช้ประโยชน์ในการวัดค่าที่ต้องใช้ เซนเซอร์ตามภาพบน
สิ่งที่หายากคือสายชาร์จ ต้องใช้ของรุ่นมัน ขนาด ASUS โมเดลอื่น ที่ผมมีใช้ร่วมกันไม่ได้
สายนาฬิกา ที่สามารถเปลี่ยนสาย ความกว้างขนาด 22 มม. ทั่วไปได้ หาสายง่ายมาก หรือ ตัดสายที่ไม่ยากครับ
เพื่อการวัดค่าที่ดีที่สุด ต้องรัดสายให้พอดีกับแขนเรา เอาเป็นว่าแค่พอตึงครับ ถ้าหลวมไปวัดค่าความเครียดไม่ได้เลย

ใช้งานร่วมกับแอป ASUS HealthConnect ซึ่งสามารถดูข้อมูลสุขภาพทั้งหมด แชร์กับครอบครัว (Care Track) ได้

เมื่อเข้าแอปมา จะมีการแจ้งเตือนให้ปรับเทียบ (Calibration) ในการเทียบสามารถใช้เครื่องมือที่เชื่อถือได้ในการวัดค่าด้านสุขภาพคุณ จากนั้นจึงเริ่มการปรับเทียบ (Calibrate) นาฬิกาของ โดยป้อนค่าที่วัดได้ลงไป

ในส่วนของอุปกรณ์ ที่เราสามารถปรับแต่งการทำงานได้

จุดด้อย ที่ไม่สามารถแสดงผลภาษาไทยได้ ถ้าไม่ได้ใช้จุดนี้ เหมือนเราหลับตาไม่มองจุดด้อยไปได้ครับ

การแสดงผลเวลา ที่สามารถป้องค่ามากกว่าเวลาที่แสดงได้ เช่นไปเที่ยวต่างประเทศ สามารถป้อนเวลาที่สองได้ โดยไม่ต้องไปปรับเวลาที่เครื่อง และ การปลุก ถ้าใครชอบตั้งปลุกตอนเช้าทุก 5 นาที คงถูกใจมาก

ช่วงเวลาวัดความดันและการตรวจสุขภาพแบบเบื้องหลังอัตโนมัติ สามารถตั้งให้วัดความดันช่วงหลังตื่นนอน (กำหนดเวลาช่วงเช้าได้) ,ตั้งให้วัดความดันช่วงก่อนนอน (กำหนดเวลาช่วงกลางคืนได้)

การแจ้งเตือน ที่สามรถสั่นในการเตือนได้ รวมไปถึงการแจ้งเตือนการใช้งานพื้นฐานของนาฬิกา ที่ผมถูกใจมากในการแจ้งเตือน เรียกได้ว่าครบมากครับ ขนาดแอป E-Mail ที่ผมใช้อยู่ (เป็นเมลองค์กร) ที่ VivoWatch 6 สามารถแจ้งเตือนได้ดีมาก

โหมดการประหยัดพลังงาน ที่เปิดแล้วความสามารถลดลงไปบ้าง ส่วนตัวไปต่างประเทศกลัวสายชาร์จหายเหมาะมาก

การปรับเปลี่ยนหน้าปัดแสงผล รูปแบบหน้าปัดที่มีหลากหลายพอสมควร

หน้าปัดที่มีมาให้ ถ้าไม่ถูกใจ สามารถใช้รูปที่เรามีภายในเครื่องได้ครับ พร้อมแสดงค่า ได้สี่ค่า ที่ในภาพไม่เห็นคือ ค่า Step

มาถึงหน้าหลัก ที่รวมข้อมูลสุขภาพไว้ทั้งหมด เค้าสรุปข้อมูลให้เราทันที

การวัดความดันโลหิต ถ้าเทียบในความแม่นยำกับเครื่องวัดเกรดใช้งาน อย่าง Omron ถือว่าใกล้เคียงมาก ซึ่งในการวัดความดันจาก VivoWatch มีการจับตัวที่เซ็นเซอร์เข้าร่วมด้วย VivoWatch 6 AERO เลยต้องใช้ความคิดมากมากกว่ากัน ความดันจาก VivoWatch 6 AERO สูงกว่าการวัดจากเครื่อง Omron ในแบบผ้าพับแขน หรือ Cuff เล็กน้อย ในภาพ เวลา 04.26 ที่ผมวัดเทียบ หลังผมล้างหน้าแปรงฟัน

อัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate) คือจำนวนครั้งที่หัวใจเต้นในหนึ่งนาที โดยอัตราการเต้นขณะพักปกติสำหรับผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 60-100 ครั้งต่อนาที ซึ่งอัตรานี้จะแตกต่างกันไปตามปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุ ระดับความฟิต อารมณ์ และกิจกรรมที่ทำอยู่ หากหัวใจเต้นช้ากว่า 60 ครั้งต่อนาทีเรียกว่า หัวใจเต้นช้า (bradycardia) และหากเต้นเร็วกว่า 100 ครั้งต่อนาทีเรียกว่า หัวใจเต้นเร็ว (tachycardia) ในภาพที่ช่วงเวลาช่วงประมาณ 04.00 ที่อยู่ระหว่างนอนคิดอะไรก่อนลุก ส่วนก่อน 04.00 ผมเฝ้าพระอินทร์อยู่ครับ

PTT หรือ Pulse Transit Time คือ “ระยะเวลาที่คลื่นชีพจรใช้เดินทางในหลอดเลือด” นับตั้งแต่หัวใจบีบตัวส่งเลือดออกไป จนคลื่นชีพจรไปถึงตำแหน่งที่เซนเซอร์อีกจุดหนึ่งตรวจจับได้ ใช้พลังงานในการตรวจจับไม่สูงมาก โดยที่หลังผมหลับไปแล้วยังสามารถตรวจจับ PTT ได้อยู่
ECG คือ การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram) เป็นการตรวจอย่างง่าย ปลอดภัย และไม่เจ็บปวด โดยจะบันทึกกิจกรรมไฟฟ้าของหัวใจออกมาเป็นกราฟ เพื่อประเมินการทำงานของหัวใจ เช่น อัตราการเต้น ความสม่ำเสมอของจังหวะ และช่วยในการวินิจฉัยโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับหัวใจ ในการแชร์ผล จะถูกส่งเป็นไฟล์ PDF ที่จะมีจังหวะ มีแสดงค่าได้ยาวมากขึ้น

ระดับการคลายเครียด (De-stress Level) แสดงว่าในวันนี้โดยรวมร่างกายอยู่ในภาวะ “ผ่อนคลายมาก” แทบตลอดวัน เพราะคะแนน De-stress ยิ่งสูงยิ่งหมายถึง ความเครียดต่ำ / ความผ่อนคลายสูง

สรุปคุณภาพการนอน (Sleep Report) โดยสมาร์ทวอทช์แสดงข้อมูลระยะเวลาการนอนและชนิดของ Sleep Stage (Light Sleep) ซึ่งเป็นระยะพักผ่อนเริ่มต้น, (Deep Sleep) ที่ร่างกายฟื้นฟูและซ่อมแซม และระยะ REM (Rapid Eye Movement) ซึ่งสมองทำงานคล้ายช่วงตื่น และเป็นช่วงที่มักเกิดความฝัน ซึ่งช่วยบอกว่าร่างกายได้พักจริงมากน้อยแค่ไหน ถ้าเทียบความละเอียดที่น้อยไปหน่อยในระดับราคานี้ ปกติผมต้องเอาข้อมูลเรื่องการนอนไปส่งการบ้านให้หมอดู พอดีคืนนั้นผมไม่ได้กินยานอนหลับ หลับได้แค่นี้ถือว่าปกติมากสำหรับผมแล้ว

พอเข้ามาดูในรายละเอียด ที่สามารถบอกถึงจำนวนการพลิกตัวด้วย ถ้านับเทียบกับในกล้องวงจรปิด ถือว่านับได้ใกล้เคียงมากครับ

Exercise หรือ ออกกำลังกาย จะต้องเข้าการใช้งานด้วย วิ่งเป็นโลมันก็ไม่นับรวมครับ ในการออกกำลังการที่จะมีการเก็บข้อมูลอย่างครบถ้วน

จากที่ผมลองเดินออกกำลังกาย จะมีข้อมูลเก็บไว้ให้เราดูได้อย่างครบถ้วน

หมดห่วงในกิจกรรมกลางแจ้ง พร้อมเก็บข้อมูลที่คุณต้องการได้อย่างครบถ้วน โดยไม่จำเป็นต้องพกโทรศัพท์ติดตัว ในการทดลองผมไม่ได้พกโทรศัพท์ติดตัวด้วย แต่ VivoWatch 6 AERO มี GPS ความถี่เดียว ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกในการ Cool Start ที่มีโอกาศเพี้ยนในการระบุตำแหน่งครับ

การใช้พลังงานในกิจกรรมประจำวัน และ เผาพลังงาน สามารถตรวจได้จาก VivoWatch 6 AERO

ยังไงเสียแล้ว เราก็หนี AI ไม่ได้ ที่จะเก็บข้อมูล และ สรุปออกมาให้ปรับการตัว
Conclusion
ASUS VivoWatch 6 AERO ถ้าดูจากขนาดมันคือสมาร์ตแบนด์ แต่ความสามารถของมันคือสมาร์ทวอทช์ ถ้ามองที่ราคาไม่เกินห้าพันบาท ดูที่ขนาดถือว่าแพงมากครับ แต่ลองมองดูลงลึกกับความสามารถที่ทำได้ เช่นวัดได้ความดันโลหิต และ คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) แบบเรียลไทม์ ที่บอกเลยว่าสมาร์ทวอทช์หลักหมื่นถึงทำได้ ซึ่ง ASUS ยกระดับฟีเจอร์ด้านสุขภาพของ VivoWatch 6 AERO อย่างจริงจัง จุดเด่นคือระบบ ASUS HealthAI ที่ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ ECG, PPG, ฟีเจอร์หลัก การวัดคลื่นหัวใจ (ECG) แม่นยำระดับเครื่องการแพทย์ ใช้ได้ทั้งตรวจภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะและติดตามแนวโน้มสุขภาพหัวใจระยะยาว พร้อมการวัดระดับออกซิเจนในเลือด (SpO₂) ทำงานต่อเนื่องโดยไม่ต้องกดวัดเอง วัดความเครียดวัดการเปลี่ยนแปลงของกระแสไฟฟ้าผิวเพื่อประเมินภาวะเครียดแบบเรียลไทม์ AI Health Insights ใช้ Machine Learning วิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพสะสม แล้วให้คำแนะนำเฉพาะบุคคล เช่น ควรพักมากขึ้น หรือปรับเวลานอน ที่น่าสนใจคือ ฟีเจอร์ ECG สามารถใช้งานโดยไม่ต้องเชื่อมกับสมาร์ทโฟนตลอดเวลา เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบวิ่งแบบ “Minimal Gear” สำหรับสายออกกำลังกาย VivoWatch 6 AERO ให้ความรู้สึก “เข้าใจคนเล่นกีฬา” มากกว่าแค่เก็บสถิติพื้นฐาน โหมดออกกำลังกายหลัก: วิ่ง (Run) / เดิน (Walk) / ปั่นจักรยาน (Cycle) / ว่ายน้ำ (Swim) โหมด Strength Training และ Yoga พร้อม GPS ในตัว ใช้สัญญาณ GNSS 5 แกน (GPS, GLONASS, GALILEO, QZSS, BEIDOU) ระหว่างวิ่ง ตัวนาฬิกาจะคำนวณค่า VO₂ Max, Cadence, Pace, และ Recovery Time ได้ละเอียดระดับนักกีฬาอาชีพ และยังสามารถเชื่อมต่อกับแอป ASUS HealthConnect เพื่อดูกราฟแนวโน้มสมรรถภาพในระยะยาว นอกจากนี้ยังมี AI Coaching Mode ที่เรียนรู้จากพฤติกรรมการออกกำลังกายของผู้ใช้จริง เพื่อปรับโปรแกรมฝึกและเป้าหมายให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายในแต่ละวัน เหมือนมีเทรนเนอร์ส่วนตัวอยู่บนข้อมือ ลงตัวกับผู้ที่ให้ความสำคัญกับการติดตามสุขภาพอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่ก้าวเดินหรือชีพจรเท่านั้น รวมถึงคนที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง เช่น วิ่ง/ปั่นจักรยาน และอยากได้ GPS ที่ต้องการแบตเตอรี่ใช้งานได้หลายวัน ไม่อยากชาร์จทุกวัน คนที่อยากแชร์ข้อมูลสุขภาพกับครอบครัวหรือคนดูแล ข้อด้อยที่ต้องสนใจไม่มีระบบตอบข้อความหรือแอปบุคคลที่สามแบบสมาร์ทวอทช์ทั่วไป และ ตัวเลือกหน้าปัดยังไม่เยอะเท่าแบรนด์คู่แข่ง ถ้าไม่ได้สนใจสองสิ่งนี้ จะมองข้ามสิ่งที่แย่ที่สุดไปได้ วันนี้ผมก็ต้องขอลากันแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
Special Thanks : ASUSTek Computer (Thailand) Co.,Ltd.



