

แพ็คเกจภายนอกมาในโทนสีดำ ส่วนกล่องด้านในมาในโทนสีเหลื่องตามสไตล์แบรนด์ CORSAIR โดยจะมีรูปหูฟัง รายละเอียด พร้อมฟีเจอร์ต่าง ๆ ของหูฟังโชว์เอาไว้ชัดเจนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
อุปกรณ์ภายในกล่อง
.jpg)



สำหรับ Headband ของหูฟังรุ่นนี้จะไม่สามารถปรับระดับของหูฟังได้ ทำให้โครงสร้างโดยรวมอาจจะไม่เหมาะกับคนที่มีรูปศีรษะที่ใหญ่ ส่วนของ Earcups สามารถบิดหมุนได้ 90 องศา ทั้งซ้ายและขวา ทำให้รองรับรูปทรงศีรษะได้ทุกรูปทรง ใช้วัสดุอย่าง Memory Foam หุ้มด้วยผ้าอีกที ให้ผิวสัมผัสที่นุ่มสบายหูสวมใส่ได้สบายเป็นเวลานานและตัดเสียงรบกวนภายนอกได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยตัดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้กับ Earcups ที่ใช้หนังเทียม ที่เมื่อใช้งานไประยะเวลาหนึ่งจะมีปัญหาหนังลอกและยุ่ยออกมาได้

ระบบควบคุมต่าง ๆ จะอยู่บนตัวหูฟังทั้งหมด ทั้ง การเปิด-ปิดไมโคโฟน, เพิ่ม-ลดเสียง, รูเสียบสาย และไฟบอกสถานะแบตเตอรี่ ที่จะมี 3 ระดับด้วยกัน คือ ไฟสีเขียวคือระดับแบตเตอรี่เหลือเยอะ ไฟสีส้มคือระดับปานกลาง และไฟสีแดงคือไฟระดับที่ต่ำ

การเชื่อมต่อของ CORSAIR HS80 RGB WIRELESS จะมีเพียง 2 รูปแบบเท่านั้น คือ รูปแบบของ Wireless การเชื่อมต่อไร้สายที่ใช้เทคโนโลยีสมรรถนะสูงอย่าง SLIPSTREAM CORSAIR WIRELESS TECHNOLOGY ที่มีความรวดเร็วในการรับ-ส่งสัญญาณแบบ Real Time ดีเลย์ต่ำ พร้อมระยะการเชื่อมต่อไกลถึง 60 ฟุต ( ประมาณ 18 เมตร ) โดยที่ไม่มีสัญญาณรบกวน ทำให้การพูดคุย หรือการฟังเพลงไม่มีติดขัดแม้จะไม่ได้อยู่ใกล้หน้าจอ และยังใช้งานแบตเตอรี่ได้แบบต่อเนื่องยาวนานถึง 20 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังสามารถใช้ตัวรับสัญญาณเพียงตัวเดียวกับอุปกรณ์ทั้งหมดที่รองรับเทคโนโลยี SLIPSTREAM อีกด้วย และการเชื่อมต่ออีกรูปแบบ คือ เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อย่างง่ายดายผ่านทางพอร์ต USB ซึ่งจะช่วยชาร์จแบตเตอรี่ไปในตัว
.jpg)
ไมโครโฟนคุณภาพระดับ Broadcast Quality ที่ใช้การรับเสียงแบบ Omni-Directional ทำให้รับเสียงได้รอบทิศทางและเก็บรายละเอียดได้สูง พร้อมทั้งตัดเสียงรบกวนจากภายนอกทำให้ผู้ใช้งานสามารถสื่อสารกันได้แบบชัดเจนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเสียงที่ส่งออกไปยังฉับไว Real Time ไม่ดีเลย์ พร้อมทั้งตอบสนองต่อย่านความถี่เสียงที่กว้างและชัดเจน โดยความไวต่อการรับเสียงจะอยู่ในช่วง -40 dB (± 3 dB) และย่านความถี่ 100Hz ถึง 10kHz
หูฟังตัวนี้จะมาในรูปแบบไมโครโฟนในตัวไม่สามารถถอดแยก ปรับความยาว หรือปรับรูปทรงได้ ซึ่งในส่วนนี้อาจเป็นหนึ่งในปัญหาการใช้งานที่น่าหงุดหงิดใจสำหรับบางคนที่อาจจะทำให้รู้สึกเกะกะไปสักหน่อย ส่วนการใช้งานอย่างการเปิด-ปิดเสียงพูดสามารถใช้งานได้ง่าย ๆ ด้วยกันพับก้านไมค์ขึ้นไปด้านบน เมื่อไฟ LED เป็นสีแดง คือไมค์ของเราปิดการใช้งานอยู่ หากต้องการเปิดก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการพับก้านไมค์ลงมาให้ไฟ LED กลายเป็นสีขาว




Audio CUE Software | Supported in iCUE |
Surround Sound | Yes |
Detachable Microphone | No |
Rechargble Battery | Yes |
Headset Frequency Response | 20Hz - 30 kHz |
Headset Battery Life | Up to 20 hours |
Headphone Sensitivity | 116dB (+/-3dB) |
Headset Wireless Range | 60ft |
Impedance | 32 Ohms @ 1 kHz |
Headset Type | Wireless |
Headset Drivers | 50mm |
Color | BLACK |
Audio | Dolby Atmos |
Lighting | RGB |
Platform | NA |
Microphone Impedance | 2.2k Ohms |
Microphone Type | Omnidirectional |
Microphone Frequency Response | 100Hz to 10kHz |
Microphone Sensitivity | -40 dB (± 3 dB) |
รองรับการใช้งานผ่าน PC, Mac, Playstation 4 และ Playstation 5
Conclusion
หลังจากที่ได้ทดลองฟังเจ้า Corsair HS80 RGB Wireless มาในระยะเวลาหนึ่ง ทั้งการเล่นเกม ฟังเพลง และดูหนัง จะขอสรุปออกมาตามนี้... สไตล์เสียงของ Corsair HS80 RGB Wireless จากการใช้งานแบบ Wireless ที่ถ่ายทอดออกมาจากไดร์เวอร์ขนาด 50มม. บรรยากาศโอบล้อมดี มีมิติค่อนข้างชัดเจน น้ำเสียงที่ส่งออกมามีความดุดัน เสียงต่ำลงได้ลึก แต่ปริมาณไม่ได้เยอะ ไม่มีอาการที่เรียกว่า Bass Boom หรืออาการ Bass คราง เสียงแหลมคมกริบ แต่แปลกที่ไม่กัดหู เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้เล่นเกม ช่วยเพิ่มบรรยากาศแวดล้อมได้เป็นอย่างดี จนบางทีก็รู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในเกมจริง ๆ เวลาคุยกับเพื่อน เสียงเพื่อนชัดเจน ไม่อู้อี้เหมือนหูฟังราคาถูก
และสำหรับการใช้หูฟังผ่านสาย USB-C ตามสเป็ก เสียงต้องดีกว่าการฟังผ่าน Wireless อยู่แล้ว แต่มันดีกว่าตรงไหนล่ะ...?? ที่ดีกว่าแน่ ๆ คือการส่งข้อมูลได้มากกว่า และการตัดข้อจำกัดในการส่งข้อมูลผ่านอากาศ ต่างจาก Wireless ที่มีโอกาสที่จะโดนสัญญาณรบกวนได้ค่อนข้างมาก แต่ก็ได้มาซึ่งความสะดวก ไม่เกะกะ
ซึ่งแนวเสียงตอนเสียบผ่านสาย USB-C สไตล์เสียงออกไปในแนวสดใส สะอาด ๆ คม ๆ รายละเอียดดี มีมิติพอสมควร เสียง Bass ไม่มากจนรู้สึก Over เก็บตัวได้ดี แต่เวลาเร่ง Volume ดัง ๆ มีอาการพร่ามัวบ้างเล็กน้อย ถือเป็นเรื่องปกติ สรุปได้ว่า Corsair HS80 RGB Wireless เหมาะกับการฟังเพลงสไตล์สนุก ๆ เร้าใจมากกว่าจะเอาไปฟังเพลงช้า ๆ แต่ถ้าเน้นฟังเพลงช้า ชอบรายละเอียดสูง ๆ แนะนำให้ไปลองฟังเปรียบเทียบกับรุ่นพี่อย่าง CORSAIR VIRTUOSO RGB WIRELESS XT ที่ในครั้งหน้าเราจะหยิบมารีวิวให้ได้ชมกันบ้าง รับรองเงินในกระเป๋าสั่นแน่นอนจ้าา
Price: 4,999 baht
Special Thanks: Corsair Gaming, Inc.
Official Website: https://www.corsair.com/ww/en/