คุณโดน BitLocker เล่นงานหรือยัง?
ตั้งแต่ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 เป็นต้นไป — Microsoft จะเปิดใช้งานการเข้ารหัสไดรฟ์ (BitLocker) อัตโนมัติทันทีเมื่อคุณตั้งค่าเครื่องใหม่
ในอดีต BitLocker เป็นฟีเจอร์เฉพาะของ Windows 11 Pro เท่านั้น แต่ตอนนี้ รุ่น Home ก็โดนด้วย
แม้ BitLocker จะมีไว้เพื่อ “ความปลอดภัย” ของผู้ใช้ แต่ปัญหาคือ... Microsoft ไม่เคยถามคุณก่อนเลยว่าจะเปิดไหม!
แถม Windows ยัง ไม่เตือนด้วยซ้ำ ว่ามันเพิ่งเข้ารหัสทุกไดรฟ์ของคุณเรียบร้อยแล้ว — ทำให้ผู้ใช้หลายคน สูญเสียข้อมูลสำคัญ โดยไม่รู้ตัว
วิธีตรวจว่าเครื่องคุณถูกเข้ารหัสด้วย BitLocker หรือไม่
-
เปิด File Explorer แล้วดูที่ไอคอนของแต่ละไดรฟ์
-
ถ้ามี “รูปแม่กุญแจเล็ก ๆ” แปลว่า เปิดใช้งาน BitLocker แล้ว
-
ถ้าไดรฟ์ถูกล็อกไว้ คุณต้องป้อนรหัสกุญแจ (Recovery Key) เพื่อเข้าถึง
-
ถ้าไม่มีรูปกุญแจ หรือไดรฟ์อยู่ในสถานะ “ปลดล็อก” — ก็ยังไม่ถูกเข้ารหัส
-
วิธีตรวจผ่าน CMD
-
เปิด Command Prompt ด้วยสิทธิ์ผู้ดูแลระบบ (Run as Administrator)
-
พิมพ์คำสั่ง:
-
จากนั้นดูสองบรรทัดนี้:
-
Conversion Status (สถานะการเข้ารหัส) — บอกว่าถูกเข้ารหัสอยู่หรือไม่
-
Encryption Method (วิธีเข้ารหัส) — บอกว่าเป็นแบบ ซอฟต์แวร์ (Software Encryption) หรือ ฮาร์ดแวร์ (Hardware Encryption)
-
ถ้าเจอคำว่า XTS-AES → คือใช้ BitLocker แบบซอฟต์แวร์
ถ้าเจอคำว่า Hardware Encryption → คือแบบฮาร์ดแวร์
วิธีปิด BitLocker และถอดการเข้ารหัส
-
เปิด File Explorer
-
คลิกขวาที่ไดรฟ์ที่ถูกล็อก แล้วเลือก จัดการ BitLocker (Manage BitLocker)
-
จะเข้าสู่หน้าต่าง BitLocker Drive Encryption Options
-
เลือกไดรฟ์ที่ต้องการ และคลิก ปิด BitLocker (Turn off BitLocker)
หากไดรฟ์ถูกล็อกไว้ Windows จะให้คุณใส่ รหัสกุญแจ BitLocker (Recovery Key)
ถ้าใช้บัญชี Microsoft อยู่ รหัสนี้มักจะถูกเก็บไว้ในบัญชีนั้นโดยอัตโนมัติ — ระบบจะปลดล็อกให้เอง
แต่ถ้าไม่มี คุณต้องหาคีย์นี้ด้วยตัวเอง
ระหว่างการ “ถอดการเข้ารหัส” กระบวนการอาจใช้เวลานาน ขึ้นอยู่กับขนาดของไดรฟ์และประสิทธิภาพของ CPU
แต่คุณยังสามารถใช้งานเครื่องได้ตามปกติ เพียงแค่ อย่าปิดเครื่อง ระหว่างนั้น
ทำไมควรปิด BitLocker ถ้าไม่จำเป็น
มีรายงานว่าพีซี Windows 11 หลายเครื่อง (โดยเฉพาะรุ่นที่ติดตั้งจากโรงงาน)
เปิดใช้ BitLocker แบบซอฟต์แวร์ไว้ล่วงหน้า ซึ่งส่งผลให้ SSD ช้าลงได้มากถึง 45%
เพราะทุกครั้งที่อ่านหรือเขียนข้อมูล CPU จะต้องทำการ “เข้ารหัส” และ “ถอดรหัส” ไปด้วย
ถ้าคุณไม่ได้ต้องการระบบความปลอดภัยระดับองค์กร —
ปิด BitLocker ซะ แล้วคุณจะเห็นว่าเครื่องเร็วขึ้นแบบรู้สึกได้ทันที
ที่มา: HKEPC



