ผู้เล่นเกมตระหนักดีว่า Windows 10 ได้สิ้นสุดการสนับสนุนไปแล้วเมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดการย้ายระบบครั้งใหญ่ไปยัง Windows 11 เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถใช้งานเกมได้ต่อไปในระยะยาว การเปลี่ยนแปลงส่วนแบ่งตลาดระหว่าง Windows 10 และ Windows 11 จึงเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น ตามข้อมูลล่าสุดจากแบบสำรวจ Steam Hardware and Software ประจำเดือนพฤศจิกายน โดย Windows 10 มีส่วนแบ่งลดลงต่ำกว่า 30% ซึ่งลดลง -2.08% จากเดือนตุลาคม ขณะที่ Windows 11 เพิ่มขึ้น +2.02% ซึ่งแทบจะเท่ากับจำนวนผู้ใช้ที่หายไปจาก Windows 10
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ การเพิ่มขึ้นของผู้ใช้ Linux โดยเพิ่มขึ้นอีก 0.15% แตะที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.20% ซึ่งอาจเกิดจากผู้ใช้ Windows 10 บางส่วนย้ายไปใช้ Linux อีกสาเหตุอาจเป็นเพราะช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน ผู้ใช้จำนวนมากซื้อเครื่องเล่นเกมพกพา เช่น Steam Deck ซึ่งใช้ระบบ SteamOS ที่พัฒนาบน Linux รวมถึงผู้เล่นหลายคนอาจกำลังทดลองใช้ Linux ไว้ล่วงหน้าเพื่อตอบรับการสิ้นสุดการสนับสนุนของ Windows 10
ตัวเลข 30% อาจคงที่อยู่สักระยะ เพราะมีคอมพิวเตอร์ราว 500 ล้านเครื่องที่ไม่สามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้เมื่อ Windows 10 หมดอายุการสนับสนุน เพราะต้องผ่านการอัปเกรดฮาร์ดแวร์ก่อน ซึ่งตลาดโดยรวมยังลังเลต่อการอัปเกรด โดยเฉพาะหลังจาก Microsoft ผลักดันระบบปฏิบัติการสาย AI อย่างหนักจนทำให้ผู้ใช้บางส่วนถอยออกห่าง ขณะเดียวกัน Extended Security Updates (ESU) ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้เปลี่ยนผ่านได้ราบรื่นขึ้น ไม่ใช่เป็นทางออกถาวร โดยโปรแกรมนี้ไม่มีฟีเจอร์ใหม่หรือแพตช์แก้ปัญหาที่ไม่ใช่ด้านความปลอดภัย
ตามคำกล่าวของ COO จาก Dell ระบุว่า ยังมีคอมพิวเตอร์อีกประมาณ 500 ล้านเครื่องที่สามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ใหม่
ที่มา: TechPowerUp



