ถ้าย้อนไปหลายๆปีก่อน ถ้าใครใช้ HDD 1TB นี่คือเพียงพอสำหรับการเก็บข้อมูลแทบทุกอย่างแล้ว ถ้าไม่นับคนที่โหลดบิทเก็บหนังแล้วไม่ลบนะ ... จนกระทั่งมาเป็นยุคของ SSD เราก็เหมือนได้ไล่ความจุกันใหม่อีกครั้ง ตั้งแต่มาตรฐานที่เป็น 250GB - 500GB - ไปจนถึงยุค 1TB ที่ยังไงก็มีราคาสูงกว่า HDD อยู่พอสมควร แต่ถ้าคุณมี SSD ความจุซัก 1TB นี่ก็น่าจะสบายใจได้แล้วสำหรับคอมที่เอาไว้เล่นเกมเป็นหลัก จนปัจจุบันความจุ 1TB กลายมาเป็นมาตรฐานของ คอมพิวเตอร์เกมมิ่ง ระดับกลาง หรือถ้าเป็นฝั่ง Notebook ก็อาจจะเป็นรุ่นที่ราคาระดับบนซักหน่อย
แต่ประเด็นมีอยู่ว่าทุกวันนี้ มันเริ่มจะไม่พอแล้วซินะ ด้วยความที่เกมเปิดตัวใหม่มาเรื่อยๆมันมีความละเอียดและคุณภาพของภาพมากขึ้นเรื่อย Texture ก็มีรายละเอียดนู่นนี่เข้ามามากขึ้น รวมไปถึง Model ต่างๆในเกมก็ไม่ได้เรียบง่ายเหมือนแต่ก่อน ซึ่งแน่นอนว่าพวกที่เพิ่มมาเหล่านี้ก็ต้องการพื้นที่เก็บมันเพิ่มตามไปด้วย และแต่ละเกมจากที่สมัยก่อน 40GB ก็ถือว่าเยอะมากแล้ว ในยุคนี้กลายเป็น 40GB คือขนาดเล็กไปทันที แต่ขนาดตัวเกมเรากลับได้เห็นเลขหลักร้อย และ แพทช์อัปเดทกันที 10GB ++ เป็นเรื่องปกติ .. บางเกมนี่มีการยัดเยียด DLC เข้ามาในพื้นที่แล้ว แม้ว่าเรายังไม่ได้ซื้อ DLC นั้นๆด้วยนะ !
ทีนี้เราลองมาวิเคราะห์กันซักหน่อย ว่าถ้าเราต้องการ Gaming PC ซักเครื่อง โดยมีข้อแม้ว่าอยากเล่นเกมที่ฮิตตามยุคสมัย เราต้องจ่ายเงินซื้อพื้นที่เก็บเท่าไหร่ ถึงจะสามารถเก็บเกมพวกนี้ได้โดยไม่ต้องมาคอยเล่นๆลบๆ .. หรือไม่ก็ถ้าเราไม่อยากตกเทรนด์ ซื้อเกมเปิดใหม่ ฟอร์มยักษ์ทุกเกม เราจะต้องใช้พื้นที่เก็บซักขนาดไหน .. อ๋อ และอย่าลืมนะครับ ว่าความจุของ HDD จานหมุนไม่สามารถเอามาแทนตรงนี้ได้ เพราะเกมสมัยนี้หลายๆเกม มีความต้องการระบบเข้ามาแล้วว่าต้องเป็น "SSD เท่านั้น"
ลองย้อนกลับไปในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา มีเกมอะไรกินพื้นที่เท่าไหร่บ้าง .. เริ่มกันที่ Starfield ก่อนเลย อันนี้กินพื้นที่ไปราวๆ 125GB , Baldur's Gate 3 ที่ 150GB อันนี้ก็เกือบ 300GB แล้ว ซึ่งตัวเลขที่เห็นตรงนี้ก็เป็นแค่ตัวเกมเฉยๆนะครับ แถมเป็นเกมเวอร์ชั่นแรกๆด้วย ยังไม่ได้มี Mod หรือ DLC อะไรที่อาจจะเพิ่มเข้ามาในอนาคตอีก .. ส่วนพวกเกมเก่าๆที่ยังลบไม่ได้ เพราะมีอัปเดทออกมาแบบไม่หยุดหย่อนอย่าง Cyberpunk 2077 ที่เงียบไปนาน แต่ล่าสุดปล่อยอัปเดทใหม่ Phantom Liberty มา ก็จะกินพื้นที่ไปอีก 77GB ซึ่งไม่แน่ว่าในอนาคตจะอัปเดท Patch อะไรเข้ามาอีกหรือเปล่า .. และอีกอันนึงที่หนักสุดเลยก็คือ Jedi: Survivor ที่ล่อไปถึงระดับ 155GB เลยทีเดียวครับ และอีกเกมนึงก็คือ Call of Duty : Modern Warfare 3 ที่เริ่มต้นกับตัวเลขช๊อคๆที่ 150GB และคาดว่าจะมีการอัปเกรดเพิ่มเติม เพราะในความต้องการระบบนั้นระบุมาว่า "149GB at launch" ก็คือ ณ วันเปิดตัว แบบนี้เล่นไปซักพัก นู่นนี่จะมีอะไรเข้ามาอีกก็ต้องรอดู และยังมีเกมฟอร์มยักษ์อีกมากมายที่จ่อคิวกินพื้นที่บน SSD ของคุณอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Forza Motorsport จะกินพื้นที่ราวๆ 130GB ซึ่งก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรมากมาย ถ้าเราต้องมามองกันในเรื่องของ Texture และ Model ของตัวรถที่ต้องละเอียดมากขึ้น บวกกับแสงและเงาที่ต้องทำให้สมจริงมากขึ้นกว่าเวอร์ชั่นก่อน ..
โดยรูปภาพที่เห็นตรงนี้เป็นรายงานล่าสุดในเดือนกันยายนจากทางสื่อ PC Gamer กับเกมฟอร์มยักษ์ที่เปิดตัวไปแล้วขณะนั้น เราก็จะเห็นว่าเกมพวกนี้ ถ้าจะโหลดเล่นแล้วไม่ลบ จะกินพื้นที่ไปราวๆ 1.42TB เลยทีเดียว ซึ่งอันนี้นับแค่ตัวเกมอย่างเดียวนะครับ อย่าลืมไปว่าคอมที่เราใช้งานนั้นมันไม่ได้มีแค่พื้นที่สำหรับตัวเกมเท่านั้น ตัว OS เอง หรือพวกแอปและโปรแกรมอื่นๆที่นับวันจะกินขนาดใหญ่ขึ้นไม่ต่างจากตัวเกมด้วย
แบบนี้ใครที่ใช้ SSD ความจุ 1TB จากที่เมื่อก่อนเป็นทางเลือกที่เหลือเฟือ เก็บเกมฟอร์มยักษ์แห่งยุคได้โดยไม่ต้องมาคอยเล่นๆลบๆ ตอนนี้ไม่ได้อีกต่อไปแล้วครับ มันจะเพียงพอแค่สำหรับเกมหลักๆที่คุณเล่นอยู่ในขณะนี้เท่านั้น ถ้าไม่เล่นเกมไหนก็ต้องคอยมาลบออก หรือ ถ้าอยากกลับมาเล่นใหม่ก็คงต้องมาโหลดกันอีกรอบ .. ยิ่งพวกคอม Gaming ระดับกลางที่ให้ SSD มาระดับ 512GB นี่บอกได้เลยว่าอึดอัดมากๆ เพราะแค่จะลงเกมสำหรับเอามาเทส Benchmark เครื่อง ก็ไม่พอต้องมาเทสๆลบๆกันแล้ว ส่วน 256GB นี่บอกได้เลยว่าบาปกรรมสุด เอาไว้ลง Windows แล้วทำงานเอกสารอย่างเดียวเถอะ
ข้อมูล : PC Gamer