Processor ของ AMD Ryzen รหัส X3D นั้น ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งใน Processor สำหรับการเล่นเกมที่ดีที่สุด ด้วยจำนวน Cache ที่มหาศาล ใกล้เคียงระดับ 100MB .. ซึ่ง Cache ในตัว CPU นี่แหละ มันเปรียบเสมือน Memory ที่มีความเร็วสูงที่สุดแล้ว นั่นแปลว่าถ้าเราหางานที่ใช้ประโยชน์จากมันได้โดยตรง เราก็จะได้เห็นตัวเลขด้านประสิทธิภาพที่แรงอย่างน่าตกใจ
อย่างเช่นล่าสุดนี้ มีคนลองเอา Ryzen X3D มาทำเป็น RAM Disk เพื่อที่จะทดสอบความเร็ว ว่าถ้ามันถูกแปลงมาใช้งานเป็น Storage แล้วนั้น จะทำตัวเลขออกมาได้ประมาณไหน .. โดยเรื่องนี้เริ่มต้นจากนาย Albert Thomas ที่หยิบ Processor Ryzen 7 7800X3D มาลองเล่นเป็น RAM Disk โดยโปรเจคของเขาก็ต้องเริ่มด้วยการแปลงสถานะ L3 Cache ของตัว Processor ให้กลายมาเป็น Block Storage Device เพื่อที่ให้ระบบนั้นตรวจจับได้ว่าเป็น Storage เช่นเดียวกับ SSD
วิธีนี้ถูกค้นพบโดยผู้ใช้ Twitter ชื่อ Nemez ที่ได้เจอวิธีดังกล่าว โดยทำได้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แต่เหมือนจะไม่มีใครสนใจซักเท่าไหร่ โดยนาย Thomas ก็ได้ลองวิธีเดียวกัน และด้วยความที่ Thomas นั้นเป็นสื่อ จึงสามารถขุดคุ้ยประเด็นดังกล่าวมาทำให้เป็นกระแสได้
วิธีการทำก็จะใช้วิธี OSDMount ซึ่งเป็นซอฟท์แวร์ฟรีที่อนุญาตให้ผู้ใช้สร้าง RAM Disk และ Mount ตัว Image File อะไรต่างๆเข้าไปได้ และแม้ว่าการสร้าง Format ให้เป็น FAT32 นั้นก็ไม่ใช่อะไรที่แปลกใหม่ แต่การจะเอามาใช้งานในกรณีนี้ก็ยากเหมือนกัน โดยการตั้งค่าทดสอบจากโปรแกรม Benchmark อย่าง CrystalDiskMark ก็จัดว่ายากเหมือนกัน ผู้ใช้ต้องเลือกการทดสอบเป็น SEQ256KB, Queue Depth เป็น 1 และ Threads เป็น 16 และนอกจากนั้น Data Fill ต้องเลือกเป็น 0 ด้วย ห้าม Random เหมือนปกติ .. และต่อให้ตั้งค่าอย่างถูกต้อง 100% แล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าจะ Benchmark ผ่านในครั้งเดียวอยู่ดี ต้องลองหลายๆครั้งก่อนที่จะได้ผลออกมาครับ
ผลทดสอบก็ทำออกมาได้อย่างน่าตกใจ โดยเราได้เห็นความเร็วในการอ่านและเขียนถึงระดับ 170-180GB/s ซึ่งตัวเลขแบบนี้ก็เร็วกว่า SSD มาตรฐานล่าสุด PCI-Express 5 อยู่ 12 เท่าเลย ! และนี่ก็เป็นตัวเลขในการทดสอบเฉยๆนะครับ เพราะความเป็นจริงแล้ว 3D V-Cache นั้นเร็วกว่านี้มาก เพราะรุ่น Gen แรกก็มี Bandwidth ราวๆ 2TB/s แล้ว ยิ่งรุ่นหลังนี้มีความเร็วระดับ 2.5TB/s ได้เลย .. นั่นแปลว่าการทดสอบนี้ ยังไม่สามารถดึงประสิทธิภาพของ 3D V-Cache ออกมาได้เต็มที่ และยังห่างไกลเลยด้วย
แต่ถ้าว่ากันตามตรง จุดประสงค์ของการทดสอบครั้งนี้คืออะไร ? แอดมินคิดว่าเขาทำเอาสนุกล้วนๆเลยครับ ไม่ว่าจะเร็วแค่ไหน RAM Disk ที่ขนาดแค่นี้ก็ไม่น่าจะเอาไปทำอะไรมากมายได้ และต่อให้ทำได้ มันก็ไม่ใช่วิธีการเก็บข้อมูลที่ "เก็บข้อมูล" ได้จริงๆ เหมือนกับ SSD และ Harddrive อยู่ดี และอีกอย่าง ความเร็ว SSD ปัจจุบันนี้ก็จัดว่าทำได้ดีพอที่การทำ RAM DISK ไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว
ส่วนใครที่สงสัยว่า RAM DISK นั้นเอาไว้ทำอะไร .. ก็คือต้องการ Storage ความเร็วสูงไงครับ สมัยก่อนตอนที่ Storage ส่วนใหญ่เป็น Harddisk จานหมุนกันอยู่ RAM Disk นี่แหละ เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการความเร็วสูงจริงๆ เพราะทางเลือก SSD ยังไม่มี และ Memory ก็เป็นหน่วยความจำที่ความเร็วสูงมากๆ เลยแปลงมันมาเป็น Storage เอาซะเลย แต่ข้อจำกัดก็มีอยู่หลายๆอย่างครับ อย่างเช่นข้อแรกเลยก็คือ RAM นั้นมันเป็น Volatile Memory ที่ต้องการไฟเลี้ยงตลอดเวลาในการเก็บข้อมูล ถ้าไฟเลี้ยงหายไปเมื่อไหร่ ข้อมูลนั้นก็จะหายไปด้วย ทำให้การทำ RAM Disk นั้นต้องหาวิธีในการหลีกเลี่ยงข้อจำกัดตรงนี้ด้วยวิธีต่างๆนาๆ แต่พอมี SSD ที่ทำความเร็วได้ดี แม้ว่าจะไม่เร็วเท่า RAM แต่ด้วยความที่มันเป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบตรงจุดประสงค์จริงๆ บวกกับความเร็วที่ใช้งานแล้วดีกว่า Harddisk จานหมุนอยู่หลายขุมแล้ว เราจึงไม่ค่อยเห็นคนมาทำ RAM Disk กันอีกต่อไป
ข้อมูล : Tom's Hardware