วงการ Audiophile นี่เป็นอีกหนึ่งวงการที่ต้องใช้ความสามารถ และ Sense พิเศษของผู้ฟังพอสมควร เพราะหลายๆครั้งนั้นมีอุปกรณ์ที่ไม่สามารถทดสอบทางวิทยาศาสตร์ได้ว่ามันดีขึ้นหรือแย่ลงยังไง และการฟังเพลงก็มักจะเป็นเรื่องของอารมณ์และความสบายใจของผู้ฟังเอง เราจึงไม่สามารถเอาหลักการทางวิทยาศาสตร์ไปตัดสินได้เสมอไป
อุปกรณ์หลายๆอย่างที่ได้รับการถกเถียงระหว่างสาวก Audiophile กันเองว่ามันช่วยประสิทธิภาพเรื่องเสียงให้ดีขึ้นจริงไหม ก็ยกตัวอย่างเช่น สายที่เกี่ยวกับฝั่ง Digital ทั้งหลาย เช่นสาย USB, สาย LAN เพราะบางคนก็บอกว่า ใช้ของดีกว่ามันก็ดีกว่าจริง แต่บางคนก็บอกว่าไม่สามารถทดสอบทางวิทยาศาสตร์ได้ มันจะดีกว่าได้ยังไง .. เอาเป็นว่าตรงนี้เราจะไม่เข้าข้างใครครับ เพราะถึงแม้ว่าส่วนตัวผมจะไม่ได้สามารถแยกคุณภาพเสียงอะไรได้ออกทุกกรณี แต่ถ้าบางคนเขาสบายใจที่จะยอมจ่ายเพื่อให้รู้สึกดีขึ้น ไม่ว่าเขาคนนั้นจะรู้สึกดีขึ้นจริงๆ หรือว่ามโนเอาเพราะเสียเงินไปแล้ว อันนี้ก็จัดว่าเป็นความพึงพอใจของบุคคลนั้นครับ ไม่ต่างกับวงการคอมที่บางคนยอมจ่ายแพงกว่า เพราะไฟ RGB ที่มีแล้วรู้สึกว่าคอมเรามัน "สุด" นั่นแหละครับ ฮ่าๆ
แต่ด้วยเหตุผลเหล่านี้แหละ มันทำให้มิจฉาชีพหรือพวกที่ตั้งใจจะหลอกเอาเงินชาวบ้าน เข้ามาในวงการ Audiophile มากขึ้น เพราะบางครั้งเขาก็อาจจะคิดค้นคำแปลกๆ วัสดุแปลกๆ และดีไซน์ที่ดูสวยหรู เพื่อให้หลายๆคนหลงเชื่อ .. เอาวัสดุเทพๆเหล่านั้นมาใส่ในสิ่งของที่บ้านๆและเขียนเรื่องราวของมันขึ้นมาเพื่อให้สิ่งนั้นน่าสนใจในหมู่คนที่มีกำลังจ่าย
วันนี้เราก็ไปเห็นสิ่งๆนึงจากเว็บข่าวต่างประเทศมา .. มันคือสาย SATA เส้นละ $500 หรือตีเป็นเงินไทยก็ราวๆ 17,xxx บาท ซึ่งสาย SATA ตัวนี้ถูกวางขายอยู่บน eBay และเป็นสินค้ามือสองด้วย ! ลองดูจากหน้าตาแล้วมันก็คือสาย SATA ที่เราใช้เชื่อมต่อกันระหว่าง Storage และ Mainboard นี่แหละครับ แต่ความอลังการมันเรียกว่าจัดเต็มมากๆ เพราะสิ่งแรกที่คุณเห้นก็คือขนาดความยาว 0.5m แต่ความหนานั้นหนาถึง 25mm ด้วยวัสดุที่ดูแล้วเหมือนสายน้ำดีเข้าชักโครกที่ทำจากโลหะในห้องน้ำที่บ้านผม อันนี้คิดว่าจุดประสงค์คงเป็นการทำ Shield ป้องกันสัญญาณรบกวนจากอุปกรณ์รอบข้าง (มั้ง) แต่บริเวณตรงต้นและปลายสายก็ลงมาเหลือขนาดเท่าสาย SATA ธรรมดาอยู่ดี เพราะเช่นนั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่า Shield ที่ใส่เพิ่มเข้ามา มันจะมีประโยชน์หรือเปล่า
ตรงบริเวณหัวที่เชื่อมต่อกับ Shield นั้นมันมีหินดำๆที่ดูแล้วน่าจะเป็นสิ่งที่เรียกว่า Superstar Crystal Formular" หรือเป็นคริสตัลแบบพิเศษที่เป็นสูตรเฉพาะของผู้ขาย ซึ่งตรงนี้เขาว่ามันออกแบบมาเพื่อใช้งานกับออดิโอไฟล์ในคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะด้วย ซึ่งงานนี้รายละเอียดสินค้าก็จัดว่าดูอลังการพอตัวเลยแหละครับ .. แต่ในรายละเอียดมีเขียนไว้ด้วยว่า มันถูกวางไว้เฉยๆอยู่สี่ปี เพราะเช่นนั้นใครเอาไปก็ต้อง Burn-in ก่อน ซึ่งงานนี้ไม่รู้ว่าเป็นความจริง หรือว่าดักทางกลัวคนซื้อไปแล้วบอกไม่ต่าง เลยใช้คำว่า "ต้องเอาไป Burn-in ก่อน" เพื่อดักทางไว้หรือเปล่า
แต่สุดท้ายแล้ว สายนี้จะเป็นสาย Audiophile จริงตามที่เคลมหรือเปล่า หรือใส่ไปแล้วมันแตกต่างจากสาย SATA เดิมหรือไม่ อันนี้ก็เป็นเรื่องที่เรายังไม่ทราบได้ รู้แค่ว่าราคา $500 ของมันนั้นเมื่อเทียบกับสาย SATA ทั่วๆไปนั้นก็แพงกว่ากันเป็นร้อยเท่า .. แต่วงการ Audiophile จริงๆแล้ว เป็นวงการของคนมีเงินครับ สายไฟสั้นๆเส้นละ 17,xxx แบบนี้ถือว่าเป็นอะไรที่เข้าขั้นระดับเริ่มต้นด้วยซ้ำ เพราะมันยังมีสายอื่นๆที่ราคาถึงหลักล้านขายกันอยู่เป็นเรื่องปกติ ซึ่งใครจะซื้อมาใช้ด้วยเหตุผลอะไรอันนี้เราไม่ขอวิจารณ์ เพราะมีอุปกรณ์หลายๆอย่างที่พิสูจน์แล้วว่าคุณภาพดีขึ้นจริง ส่วนหลายๆอย่างที่พิสูจน์ไม่ได้ก็ให้อยู่ในหมวด "ความสบายใจ" เอาแล้วกันครับ บางทีทั้ง System การฟังเพลงของเขาราคารวมกันเป็นหลักสิบล้าน จะเอาสาย SATA อีกเส้นเพิ่มเข้าไปในราคา 17,xxx บาท มันก็คงไม่ได้เสียหายอะไร แม้ว่าอาจจะเป็นแค่เรื่องความสวยงามก็ตาม
ข้อมูล : Tom's Hardware