ฟีเจอร์ Anti-Lag+ ของ AMD นั้นออกแบบมาเพื่อให้ตัวเกมมีการตอบสนองที่ดีขึ้น ทำให้ประสบการณ์เล่นของผู้ใช้นั้นดีขึ้นตามไปด้วย แต่ปัญหาของมันก็คือตอนนี้มันกลับทำให้ระบบ Anti-Cheat หรือตัวป้องกันการโกงของหลายๆเกมนั้นทำงานขึ้นมา จนผู้ใช้ไม่สามารถเล่นเกมได้

หลังจากเปิดฟีเจอร์ Anti-Lag+ เกมหลายๆเกม ไม่ว่าจะเป็น Call of Duty : Modern Warfare 2, Call of Duty : Warzone , Apex Legends ก็จะถูกฟีเจอร์ Anti-Cheat ตรวจจับว่าเป็นการโกง หรือในบางกรณีก็ทำให้ตัวเกมนั้น Crash เลยก็มีเหมือนกัน .. และที่หนักกว่านั้น อย่างในเกม Counter-Strike 2 ก็ทำให้ผู้ใช้โดนแบนไปเลยด้วย เพราะระบบคิดว่าผู้เล่นนั้นกำลังโกงเกมอยู่

ฟีเจอร์ Anti-Lag+ ของ AMD และ Reflex ของ NVIDIA มีจุดประสงค์คือต้องการจะลด Input Lag จากตัวอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นเม้าส์และคีย์บอร์ด ด้วยการ Optimize ตัว Input จากอุปกรณ์นั้นๆและการสั่ง Render Graphic ออกมา .. แม้ว่าหลักการโดยรวมจะเหมือนกัน แต่วิธีที่ทำให้ได้มานั้นก็แตกต่างกันอยู่ครับ

สำหรับ NVIDIA Reflex ก็จะมีฟีเจอร์นี้ "รองรับด้วยตัวเกม" โดยถ้าจะใช้ก็ต้องเล่นด้วยเกมที่รองรับเท่านั้น โดยตัวฟีเจอร์ก็จะทำงานคู่กับตัว Game Engine ไปเลย .. แต่ในขณะที่ของ AMD Anti-Lag+ นั้นต้องมีฟีเจอร์ในตัว Driver และการปรับแต่งตัว Game Engine ซึ่งปัญหามันอยู่ตรงนี้แหละครับ การปรับแต่งตัว Engine ของตัวเกมนั้นเป็นอะไรที่ระบบตรวจจับการโกงมีหน้าที่ตรวจสอบอยู่แล้ว ถ้าเกิดเจอการปรับแต่งโดยไม่ได้รับอนุญาตก็แน่นอนว่าต้องตีเป็นการโกงไว้ก่อน เพราะพวกโปรแกรมโกงทั้งหลายมันก็ทำงานในลักษณะนี้เหมือนกัน

ปัจจุบันนี้ฟีเจอร์ Anti-Lag+ ของ AMD ก็จะรองรับในการ์ดตระกูล Radeon RX7000 Series เท่านั้น และการ์ดตระกูลดังกล่าวก็ยังมีผู้ใช้ไม่มากเท่าไหร่ เราจึงยังไม่รู้ว่าในอนาคตแล้ว AMD เองจะสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้หรือไม่ เพราะการแก้ปัญหานั้นเป็นไปได้สองทาง อย่างแรกก็คือ AMD จะต้องหาวิธีทำให้ฟีเจอร์ดังกล่าวใช้ได้ โดยไม่ยุ่งกับตัว Game Engine และอีกวิธีก็คือต้องให้ผู้พัฒนาเกมทั้งหลาย จัดการกับระบบ Anti-Cheat ของตัวเอง ให้มองฟีเจอร์ Anti-Lag+ เป็นฟีเจอร์ ไม่ใช่ระบบการโกง ซึ่งอันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ใช้งานการ์ดด้วย ถ้ามีจำนวนผู้ใช้เยอะ ก็แปลว่าค่ายเกมก็น่าจะแก้ปัญหาตรงนี้ได้ไว แต่ถ้ายังเป็นผู้ใช้ส่วนน้อยของเกมอยู่ เขาอาจจะไม่มีความจำเป็นต้องมาแก้ไขให้เลยก็เป็นไปได้

เอาเป็นว่าตอนนี้ ใครที่กำลังใช้ฟีเจอร์นี้อยู่ และเล่นเกมที่เน้นการแข่งขันแบบเคร่งๆหน่อย ก็ควรไปปิดซะก่อนนะครับ มิเช่นนั้นอาจจะเด้งออกจากเกม หรือ อย่างแย่ก็อาจจะถูกแบนไอดีไปด้วยเลย ซึ่งอันนี้ไม่น่าจะมีใครช่วยได้แล้ว

ข้อมูล : Tom's Hardware