AMD Ryzen 5000 Series แน่นอนว่าเปิดตัวมานานมากแล้ว เรียกได้ว่าใกล้จะถึงเวลาตกรุ่นก็ได้ครับ ซึ่ง AMD เองก็กำลังจะถึงคิวเปิดตัว Ryzen 7000 Series ในอีกไม่นานนี้ .. แต่ระหว่างนั้น ทางบริษัทก็จะปล่อยให้ตลาดเงียบ และให้คู่แข่งอย่าง Intel เอาส่วนแบ่งการตลาดไปกินเนียนๆไม่ได้ จึงมีการเปิดตัว Ryzen 5000 รุ่นอัปเกรดเพิ่มเข้ามา ในชื่อว่า Ryzen 7 5800X3D
หลักๆแล้ว Processor รุ่นนี้มันก็คือ Ryzen 7 5800X ที่มีการใส่เทคโนโลยี 3D V-Cache เข้าไป ทำให้มี Cache เพิ่มเติมจากเดิมเข้าไปอีก 64MB จนมีตัวเลขรวมถึง 100MB และตรงนี้ก็แน่นอนว่าจะทำให้ประสิทธิภาพของมันดีขึ้นเป็นอย่างมาก ใน Workload ที่จำเป็นต้องมีการใช้ Cache
รายละเอียดอื่นๆของตัว Processor ก็ใกล้เคียงกับ Ryzen 7 5800X ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานสถาปัตยกรรม Zen 3 ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิต 7nm มีจำนวน Core ทั้งหมด 8 Core และ Thread ทั้งหมด 16 Thread ส่วน Clock Speed นั้นจะอยู่ที่ 3.4GHz (Base Clock) และ 4.5GHz (Boost Clock) ทั้งหมดนี้ทำให้มันมีค่า TDP ที่ 105W .. เรื่องราคา ก็จะเปิดจำหน่ายที่ $449 หรือราวๆ 15,xxx บาท และตัว Ryzen 7 5800X รุ่นพื้นฐานที่ไม่มี 3D V-Cache ก็น่าจะลดราคาลงมาที่ $399 หรือต่ำกว่านั้น .. ราคาแบบนี้ก็แปลว่ามันจะแพงกว่า Intel Core i7-12700K ที่มีจำนวน Core มากกว่า แต่ Cache น้อยกว่า ทำให้ทั้งคู่เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้งานต้องการจะใช้ประสิทธิภาพส่วนไหนมากกว่า
ล่าสุดนี้เราก็ได้เห็นผล Benchmark ของมันหลุดออกมาเพิ่มเติม โดยเครื่องที่ใช้ทดสอบนั้นจะมี Mainboard ของทาง ASRock ในรุ่น X570 Taichi จับคู่กับ Memory DDR4-3200 ขนาด 32GB .. ผลคะแนนสำหรับโปรแกรม GeekBench 5 ของมันก็ทำออกมาได้ในระดับที่โอเคเลยครับ ด้วยคะแนน 1637 ในแบบ Single Core และ 11250 ในแบบ Multi-Core เมื่อเปรียบเทียบกับ Ryzen 7 5800X รุ่นมาตรฐานที่ทำคะแนนได้ที่ 1671 (Single) และ 10333 (Multi) แล้ว เราก็น่าจะพอสรุปได้ว่าประสิทธิภาพของ Multi-Core นั้นดีกว่า แต่ Single Core นั้นลดลง เนื่องจาก Clock Speed ลดลงไปจากรุ่นมาตรฐาน 400MHz และ Boost Clock ที่หายไปอีก 200MHz .. แต่ถึงอย่างไรก็ตาม Multi-Core Workload นั้น มันทำคะแนนได้ดีกว่ารุ่นมาตรฐานราวๆ 9% ซึ่งก็น่าจะเป็นผลจากตัว Cache ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม คะแนนที่เห็นนี้แม้ว่าจะเป็น Workload หลากหลายประเภทของโปรแกรม GeekBench 5 ที่น่าจะพอสรุปอะไรหลายๆอย่างได้ แต่เราก็ยังไม่ได้เห็นประสิทธิภาพในการเล่นเกมแบบเพียวๆ ว่าจะดีขึ้นอย่างที่ AMD ได้มีการเคลมไว้หรือไม่ .. แต่จาก Workload ของการเล่นเกมที่มักจะเน้นประสิทธิภาพในเรื่อง Cache แล้ว ก็มีความเป็นไปได้สูงว่ามันจะต้องออกมาดีครับ
Ryzen 7 5800X3D จะวางจำหน่ายในวันที่ 20 เมษายนนี้ และจะสามารถใช้งานกับ Mainboard ที่เป็น AM4 ยุคปัจจุบันได้ เพียงแค่อาจจะต้องมีการอัปเดท BIOS ให้เป็นรุ่นล่าสุดเท่านั้น .. ใครที่กำลังอยากได้อยู่ หรือ อยากจะอัปเกรด Platform AM4 ของตัวเองให้เป็นร่างสุดท้าย ก็เตรียมตัวได้เลยครับ
ข้อมูล : Wccftech