ปัจจุบันนี้ ต้องยอมรับว่า CPU รุ่นที่น่าประทับใจที่สุด คงจะเป็น Core i9-12900K โดยเฉพาะในเรื่องประสิทธิภาพที่มีการอัปเกรดขึ้นมาจาก Gen ที่แล้วอยู่พอสมควร รวมไปถึงการจัดการ Core Configuration แบบใหม่ ที่มีทั้ง Performance และ Efficient Core ทำให้มันทั้งมีประสิทธิภาพที่ดีทั้งใน Task ที่ซับซ้อน และ Basic จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า 12900K เป็น Processor สำหรับการเล่นเกมที่ทรงพลังที่สุด ในยุคสมัยของปี 2021
แต่ล่าสุดนี้ในต้นปี 2022 ในงาน CES2022 ทาง AMD คู่แข่งสำคัญก็ได้มีการเปิดตัว Processor รุ่นใหม่ (ที่อาจจะไม่ใหม่ซะทีเดียว) โดยเขาเคลมว่าสามารถทำประสิทธิภาพในการเล่นเกมได้ดีกว่า Core i9-12900K ได้โดยไม่ต้องรอสถาปัตยกรรมใหม่อย่าง Zen 4 ที่เรารอคอยกัน
คือจริงๆแล้ว AMD ก็จะเปิดตัว Processor ที่ใช้สถาปัตยกรรม Zen 4 บน Socket AM5 ในช่วงปีนี้แหละครับ แต่ในงาน CES ตอนนี้เขาแค่บอก (ขิง) ว่า เขาสามารถชนะ Intel ได้แล้ว โดยไม่ต้องรอถึงตอนนั้นด้วยซ้ำ
CPU ตัวที่ AMD บอกเอาชนะได้นั้น จะเป็น Ryzen 7 5800X3D ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี AMD 3D V-Cache ซึ่งมากับสเปกที่เรางงๆซักหน่อย อย่างแรกเลยก็คือค่า Clock ของมันลดลงมาจาก 5800X รุ่นมาตรฐาน แต่สิ่งที่ทำให้มันน่าประทับใจก็จะเป็นเรื่องของ 3D V-Cache ที่จะมาอัปเกรดประสิทธิภาพให้กับ Zen 3 เดิมนั่นเองครับ .. ตัวเทคโนโลยีนี้ก็คือการเอา S-RAM ความเร็วสูงขนาด 64MB มา Stack ไว้บน CPU Core Die (CCD) ทำให้มันมี Last Level ระดับ 96MB โดยทางบริษัท AMD ก็ได้เปิดตัวเทคโนโลยีนี้ไปแล้วกับ Processor ระดับบนของกลุ่ม Enterprise อย่าง EPYC Milan-X .. เพราะเช่นนั้น Ryzen 7 5800X3D จะเป็น CPU เกรดสำหรับคนทั่วไปรุ่นแรก ที่จะมากับ CCD ประเภทนี้
3D Vertical Cache ก็จะทำให้สถาปัตยกรรม Zen 3 เดิม มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในการเล่นเกม เปรียบเสมือนการอัปเกรด Generation ไปอีกยุคนึงเลย (AMD ว่ามาแบบนั้น) ด้วยตัวเลขประสิทธิภาพที่อาจจะดีขึ้นตั้งแต่ 10-40% เมื่อเทียบกับรุ่นบนกว่าอย่าง Ryzen 9 5900X แม้ว่ามี Core น้อยกว่าถึง 4 หน่วยก็ตาม .. และด้วยความแรงประมาณนี้ ก็จะทำให้มันสู้กับ Core i9-12900K จากคู่แข่งอย่าง Intel ได้อย่างสูสีเลยหล่ะ
CEO ของ AMD อย่าง Dr.Lisa Su ก็ระบุมาเลยว่า CPU รุ่นใหม่นี้ เกิดมาสำหรับคนที่ใช้ PC สำหรับจุดประสงค์เดียวเท่านั้น ก็คือ "Gaming" .. ตัว CPU จะมี 8-Core และด้วยการทำงานของ SMT จะทำให้มันมี Logical Processor 16 หน่วย .. แต่ละหน่วยจะมี L2 Cache ขนาด 512KB และ มี L3 Cache ขนาด 96MB แชร์กันอยู่ .. ทางด้าน Clock Speed นั้นก็จะอยู่ที่ 3.4GHz (5800X อยู่ที่ 3.8GHz) และ Boost Clock อยู่ที่ 4.5GHz (5800X อยู่ที่ 4.7GHz) ส่วนค่า TDP ก็จะเท่ากับ 5800X คือ 105W
การใช้งานนั้นก็จะสามารถใช้คู่กับ Mainboard รุ่นเดิมที่เป็น Socket AM4 บน Chipset 500-Series และ 400-Series ได้เลย เพียงแค่ต้องอัปเดทตัว BIOS ให้ได้เท่านั้น .. และเนื่องด้วยการบริโภคพลังงานที่ใกล้เคียงเดิม จึงทำให้ไม่จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงอะไรในส่วนของ VRM หรือพวกภาคจ่ายไฟของบอร์ดทั้งสิ้น
ซึ่ง Intel เองก็ไม่ยอมง่ายๆเหมือนกันครับ และมีการเปิดตัว Core i9-12900KS เข้ามาเพิ่มเติม โดยมันจะเป็น i9-12900K ที่มีการอัปเกรดค่า Clock ที่ระดับ 5.5GHz สำหรับ P-Core เพื่อมาชนกับ Ryzen 7 5800X3D โดยเฉพาะ .. งานนี้ก็ต้องรอดูนั่นแหละครับ ว่าเมื่อมีสินค้าจริงออกมาจำหน่ายแล้ว ทาง AMD จะทำประสิทธิภาพได้ดีเหมือนที่พูดไว้หรือเปล่า
ข้อมูล : TechPowerUp