มีใครจำกันได้บ้างกับ CPU ตระกูลรถไถจากทาง AMD ที่เปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2011 .. หรือที่ Codename เต็มๆคือ Bulldozer นั่นแหละ .. หลังจากที่มีกระแสด้านลบมากมาย ทั้งเรื่องการบริโภคพลังงานมหาโหด , ไม่สามารถทำความเร็ว Boost Speed ได้ตามสเป็ค, และประสิทธิภาพตอนนั้นถือว่าห่างขั้นกับ Intel Sandy Bridge อยู่พอสมควร .. และชื่อเสียต่างๆที่คนไม่ชอบ AMD ยกมาอ้างก็มาจากตอนยุคสมัยนี้แหละครับ ถึงแม้ว่าตอนนี้ AMD จะกลับมากู้ชื่อเสียงและกลับลงสู่สนามการแข่งขันได้อีกครั้งด้วยตระกูล Ryzen แล้ว แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนนั้น AMD ก็ปล่อยโปรดักส์ที่ทำให้ตัวเองมีชื่อเสียอันยากจะลืมเลือนมาจริงๆ
นอกจากเรื่องที่ว่าไปเมื่อกี้แล้ว .. ทาง AMD ก็ได้โปรโมท Processor รุ่นดังกล่าวว่ามีรุ่น 8-Core แต่ความเป็นจริงแล้วมันกลับมี 4 Module ซึ่งแต่ละอันมี Execution Core สองตัว ซึ่งใช้ทรัพยากรร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น Front End, Cache และ Floating Point Unit ทำให้แต่ละ Core นั้นไม่สามารถทำงานแยกกันได้อย่างสมบูรณ์ .. ตรงนี้บางคนก็สรุปออกมาว่า ถือเป็นการโฆษณาเกินจริงกันเลยทีเดียวครับ
กรณีทั้งหมดนี้ทำให้เกิดการฟ้องร้องยกใหญ่ในช่วงปี 2015 จนกระทั่งล่าสุดนี้คดีได้ข้อสรุปแล้วก็คือ AMD นั้นจะต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นเงิน $12.1 ล้านดอลล่าร์ ซึ่งก็ถือไม่เยอะ ... และถ้าคำนวนต่อ Chip แล้วก็จะตกชิพละประมาณ $35 ซึ่งทางศาลที่ทำคดีตรงนี้ก็คาดว่าจะมีผู้เสียหายที่ซื้อ Chip Bulldozer ไปประมาณ 1/5 เท่านั้นที่จะมารับค่าเสียหายตรงนี้ไป (ผู้เสียหายที่มีสิทธิเรียกร้องต้องซื้อ Processor จากทางเว็บไซต์ของ AMD หรือซื้อภายใน California เท่านั้น)
อย่างไรก็ตาม กรณีค่าเสียหายครั้งนี้ก็ถือว่าไม่มากมาย เมื่อเทียบกับรายได้ของบริษัท AMD ที่กำลังไปได้สวยตอนนี้ ซึ่งค่าเสียหายประมาณ $35 ต่อตัวโดยเฉลี่ย ก็เป็นแค่เศษเสี้ยวของราคา CPU รุ่นเหล่านั้นตอนเปิดตัว รวมไปถึงการชำระค่าเสียหายที่ AMD ต้องทำนี่ก็รวมแค่ Processor ตระกูล Bulldozer แค่บางส่วนเท่านั้น ไม่ใช่ทุกตัวที่ขายออกไป (อย่างที่ว่าไปในย่อหน้าด้านบน)
ที่มาของข้อมูล : Tom's Hardware