ตอนที่ AMD Radeon VII เปิดตัว กระแสของมันก็ถือว่าแรงใช้ได้เลย เพราะว่ารายละเอียดทางวิศวกรรมและข้อมูลทางเทคนิคนั้นจัดได้ว่าอลังการมากๆ ใครที่พอรู้เรื่องสเป็คของการ์ดจอหน่อยคงต้องตาลุกวาวและร้องกรี๊ดกันไปตามๆกัน ด้วยความที่ใช้ขบวนการผลิตแบบ 7nm พร้อมกับ Memory แบบ HBM2 ที่ดูแล้วล้ำยุคมากๆในช่วงที่เปิดตัวออกมา
แต่ผลการทดสอบของมันเอาตรงๆก็ไม่ได้น่าประทับใจเท่าไหร่ เพราะถึงแม้จะมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย แต่การใช้งานจริงและผลเทสท์นั้นกลับอยู่ใกล้เคียง NVIDIA GeForce RTX2080 ซึ่งในมุมมองของ Gamer นั้นดูน่าสนใจกว่าด้วยฟีเจอร์ Realtime Ray Tracing .. แต่ก็ใช่ว่า Radeon VII จะสู้ไม่ได้นะ เพราะมี Workload หลายประเภทที่เกี่ยวกับการทำงานที่ AMD ทำออกมาได้น่าสนใจ เพียงแค่มันยังไม่สามารถติดตลาดหลักได้เท่านั้นเอง ! .. และยิ่งล่าสุด AMD ก็ได้มีการเปิดตัว Radeon RX5700XT ออกมาด้วย และประสิทธิภาพของมันก็ด้อยกว่า Radeon VII แค่ราว 5-12% เท่านั้น แต่ราคากลับถูกกว่าเกือบครึ่ง .. นี่ยังเทียบกับแค่การ์ด Reference นะ ไม่นับการ์ด Custom หรือการ์ดเวอร์ชั่น OC ที่ยังไม่ขาย เพราะถ้าพวกนั้นออกมาแล้ว ความแรงก็คงจะอยู่ระดับเดียวกับ Radeon VII เลยหล่ะ
ทางด้านการผลิตเอง ค่า Bill of Materials หรือต้นทุนที่ทาง AMD ต้องจ่ายเมื่อผลิต RX5700XT นั้น ก็น้อยกว่า Radeon VII อยู่มาก เพราะว่าตัว ASIC ที่ใหม่ ออกแบบมาเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน และ Memory ที่เป็น GDDR6 ไม่ใช่ HBM2 ทำให้ AMD เองก็แบกรับภาระต้นทุนที่น้อยกว่าอีกด้วย นอกจากนั้นแล้วพวกอุปกรณ์ที่ดู High-End ของ Radeon VII ที่เป็น Codename การผลิต Vega ยังต้องมีการรองรับที่ดีกว่า อย่างเช่นพวกภาคจ่ายไฟ VRM ต่างๆก็ต้องมีคุณภาพสูงกว่าการ์ดปกติ การบริโภคพลังงานก็ถือว่าไม่ได้เบาซักเท่าไหร่อีก .. บวกตรงนี้เข้าไป Radeon VII ก็จะสู้ RX5700XT ไม่ได้เลย ในแง่ของประสิทธิภาพต่อการบริโภคพลังงาน
นี่แหละครับ คือสัจธรรมของวงการเทคโนโลยี .. ทุกอย่างมีการพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ถึงแม้โปรดักส์ที่คุณซื้อจะเป็นเรือธง มันก็อาจจะถูกแทนที่ได้โดยรุ่นที่ถูกกว่า และประสิทธิภาพใกล้เคียงภายในเวลาแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น จนบางทีเราต้องเอาคติที่ว่า "ซื้อก่อนใช้ก่อน" มาปลอบใจเลยหล่ะ
ที่มาของข้อมูล : TechPowerUp