หลายปีมาแล้ว การทำ Multiple GPU (ต่อการ์ดจอหลายใบ) สำหรับการเล่นเกมนั้นก็ถือว่าเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ใช้คอมพิวเตอร์กระเป๋าหนัก หลักๆแล้วก็คือหน้าตาของคอมเมื่อเปิดฝาเคสมานั้น มันดูอลังการงานสร้างเสียจริง ไหนจะมีการหา Bridge สวยๆมาใส่ให้ดูงามขึ้นไปอีก
แต่ถ้าว่ากันเรื่องประสิทธิภาพแล้วหล่ะก็ เหมือนว่าจะไม่ได้ดีอย่างที่หวังกันนัก .. การใส่การ์ดจอสองใบ มันไม่ได้หมายความว่าประสิทธิภาพการประมวลผล Graphic จะดีขึ้นเท่าตัว และที่หนักกว่านั้นก็คือไม่ใช่ว่าทุกเกมและทุกการใช้งานจะรองรับ Multi-GPU ด้วย ทำให้หลายๆครั้งใส่ไปก็เป็นการเปลืองไฟเปล่าๆ ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาเลย
บวกกับที่การ์ดจอรุ่นใหม่ๆนั้นมีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับการเล่นเกมในทุกความละเอียด และทุกค่า Setting แล้ว แถม I/O ด้านหลังการ์ดจอเองก็เพียงพอสำหรับการต่อ Output ให้กับจอหลายๆตัวไ้ด้อย่างไม่มีปัญหา .. ถ้าต้องการอัพความแรงทั้งที เพิ่มงบไปซื้อการ์ดรุ่นที่สูงขึ้นไป จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าซื้อรุ่นเดิมมาต่อเสริมอีกใบ
เอาจริงๆแอดมินก็เกือบลืมไปแล้วว่า CrossFire เนี่ยมันยังมีการใช้งานกันอยู่ แม้กระทั่งตอนที่ได้เล่น RX5700 และ RX5700XT ก็ไม่ได้พูดถึงมัน .. จนกระทั่งได้ยินมาไม่นานนี้ว่าการ์ดรุ่นใหม่ทั้งคู่ต่างก็ไม่ซัพพอร์ต CrossFire
ตรงนี้จึงเป็นคำถามให้กับสื่อมวลชนที่จะถามต่อ CEO อย่าง Lisa Su ในงาน Hot Chip Conference ที่ผ่านมา ว่าทำไมการ์ดรุ่นใหม่ถึงไม่มีการรองรับแล้ว และทิศทางของบริษัทต่อเทคโนโลยีดังกล่าวจะเป็นยังไง ... คุณป้า Lisa Su จึงได้บอกว่า "มันไม่ใช่โฟกัสหลักอีกต่อไป" .. ทำให้เราได้รู้เลยว่า เทคโนโลยีนี้ใกล้จะเป็นอะไรที่ตกยุคไปแล้ว
ส่วนฝั่งของ NVIDIA เอง การ์ดรุ่นล่าสุดอย่าง RTX นั้นก็ยังรองรับการทำ Multi GPU แบบ SLI หรือ NVLink อยู่ แต่เราก็สังเกตได้เลยว่าไม่ได้รับความนิยมซักเท่าไหร่ รวมไปถึงงบประมาณในการซื้อ Bridge ก็จะต้องเพิ่มขึ้นด้วย.. ซึ่งเอาจรืงๆแล้วก็ไม่จำเป็นซักเท่าไหร่ครับ เพราะการ์ด RTX ใบเดียว ถ้าเป็นรุ่นบนๆมันก็รองรับการเล่นเกมแบบปรับสุดทุกความละเอียดอยู่แล้ว