El Capitan: ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลก
El Capitan ตั้งอยู่ที่ Lawrence Livermore National Laboratory ยังคงรักษาตำแหน่งซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลก โดยทำคะแนนการประมวลผลในด้าน High Performance Linpack (HPL) สูงถึง 1.742 เอ็กซะฟลอปส์ (exaflops) ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับเอ็กซาสเกล (exascale) นี้สร้างโดย HPE และยังคงส่งมอบประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องผ่านขุมพลัง AMD Instinct™ MI300A ซึ่งผนวกรวมการประมวลผลของโปรเซสเซอร์ (CPU) และกราฟิกการ์ด (GPU) ไว้ในแพ็กเกจเดียว เพื่อขับเคลื่อนเวิร์กโหลดงานด้าน AI และงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ขนาดใหญ่
สถาปัตยกรรมแบบบูรณาการนี้ออกแบบมาเพื่อตอบรับเวิร์กโหลดงานแบบผสมผสาน ทั้งการจำลอง, การวิเคราะห์ และการอนุมานด้าน AI (AI inference) ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถทำได้บนแพลตฟอร์มเดียว
Forrest Norrod, รองประธานบริหารและผู้จัดการทั่วไปกลุ่ม Data Center Solutions ของ AMD กล่าวว่า "ตั้งแต่ El Capitan ไปจนถึง Frontier, AMD ยังคงขับเคลื่อนซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยที่สุดในโลก เพื่อส่งมอบประสิทธิภาพการประมวลผลที่ยกระดับและคงความเป็นผู้นำด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การจัดอันดับ Top500 ครั้งล่าสุดนี้ AMD ไม่เพียงครองความเป็นผู้นำในสองอันดับแรก แต่ยังขับเคลื่อนขุมพลังการประมวลผลให้กับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลกถึง 172 ระบบ ซึ่งมากกว่าที่เคยมีมา ตอกย้ำถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของเราและความไว้วางใจที่เหล่าผู้นำด้าน HPC มีต่อโปรเซสเซอร์และกราฟิกการ์ดของเราเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมด้าน AI"
Rob Neely, ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่าย Weapon Simulation and Computing ที่ LLNL กล่าวว่า "El Capitan เป็นทรัพยากรระดับชาติที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงเกมครั้งสำคัญ ซึ่งช่วยขยายขีดความสามารถในการประมวลผลให้กับห้องปฏิบัติการ NNSA ที่ Livermore, Los Alamos และ Sandia อย่างมากในการสนับสนุนภารกิจด้านความมั่นคงของชาติและงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ของเรา ด้วยสถาปัตยกรรม APU ขั้นสูงของ AMD ทำให้ปัจจุบันเราสามารถทำการจำลองด้วยความแม่นยำและมีความมั่นใจในเป้าหมายที่เราตั้งไว้เมื่อ 15 ปีก่อน ที่เส้นทางของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับเอ็กซาสเกลนั้นเป็นไปได้ยากเกินกว่าที่เราจะคาดการณ์ได้ และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น แพลตฟอร์มนี้เป็นนวัตกรรมที่ให้ “ประโยชน์สองต่อ” (two-fer) อย่างแท้จริง ด้วยเป็นทั้งขุมพลังด้าน HPC และด้าน AI ที่จะเข้ามาปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินงานของเรา"
Frontier: ยังคงรักษาตำแหน่งอันดับ 2 ได้อย่างแข็งแกร่ง
Frontier ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับเอ็กซาสเกล (exascale) เครื่องแรกของโลก ตั้งอยู่ที่ Oak Ridge National Laboratory ยังคงรักษาตำแหน่งอันดับ 2 ด้วยคะแนนประมวลผลด้าน HPL ที่ 1.353 เอ็กซะฟลอปส์ สร้างขึ้นโดย HPE และขับเคลื่อนขุมพลังการประมวลผลโดยโปรเซสเซอร์ AMD EPYC™ และกราฟิกการ์ด AMD Instinct™ MI250X รองรับการวิจัยงานทางวิทยาศาสตร์และการวิจัยเชิงคำนวณขั้นสูง ตั้งแต่การจำลองพลังงานและสภาพอากาศไปจนถึงงานด้าน AI ในยุคถัดไป
HPL-MxP และ Green500: ประสิทธิภาพการประมวลผลที่มาพร้อมการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า
ในการทดสอบด้าน HPL-MxP ซึ่งประเมินซูเปอร์คอมพิวเตอร์จากเวิร์กโหลดงาน AI แบบผสานความแม่นยำ (mixed-precision AI workloads) El Capitan เป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ครองอันดับ 1 โดยทำคะแนนได้ 16.7 เอ็กซะฟลอปส์ โดย Frontier และ LUMI ซึ่งเป็นอีกหนึ่งระบบชั้นนำที่ขับเคลื่อนโดย AMD ตามมาในอันดับสามและสี่ตามลำดับ ตอกย้ำความเป็นผู้นำของ AMD ในการผสานรวมงานด้าน AI และ HPC
El Capitan ยังได้คะแนนเกณฑ์มาตรฐานด้าน High-Performance Conjugate Gradient (HPCG) สูงสุดที่ 17.4 เพตะฟลอปส์ (petaflops) ครองตำแหน่งอันดับ 1 โดยในหมวดหมู่ HPCG เป็นตัวชี้วัดทางเลือกสำหรับการประเมินประสิทธิภาพของแอปพลิเคชันทางวิทยาศาสตร์ ตอกย้ำให้เห็นว่า Instinct MI300A ใน El Capitan ส่งมอบแบนด์วิดท์หน่วยความจำในระดับชั้นนำของโลก
AMD กำลังขับเคลื่อนขุมพลังการประมวลผลให้กับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ 12 ระบบจาก 20 อันดับแรกในการจัดอันดับ Green500 ครั้งล่าสุด โดยในรายชื่อ Green500 ยังเน้นย้ำถึงประสิทธิภาพการใช้พลังงานของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ El Capitan และ Frontier ซึ่งทำคะแนนประสิทธิภาพได้อย่างน่าประทับใจ โดยอยู่ในอันดับที่ 26 และ 32 ตามลำดับ แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ยอดเยี่ยมของโปรเซสเซอร์ AMD EPYC และกราฟิกการ์ด AMD Instinct ซี่งเมื่อพิจารณาถึงพลังการประมวลผลมหาศาลพร้อมประสิทธิภาพด้าน HPL ระดับสูงสุด การจัดอันดับสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำด้านประสิทธิภาพการประมวลผลต่อวัตต์ของกราฟิกการ์ด AMD Instinct และโปรเซสเซอร์ EPYC ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากเวิร์กโหลด HPC และ AI ใช้พลังงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การเติบโตทั่วโลก: AMD ขับเคลื่อนขุมพลังการประมวลผลบนซูเปอร์คอมพิวเตอร์จำนวน 172 ระบบในการจัดอันดับ Top500
AMD ยังคงขยายฐานในตลาดกลุ่ม HPC ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
· ปัจจุบัน มีซูเปอร์คอมพิวเตอร์จำนวน 172 ระบบที่อยู่ในการจัดอันดับ Top500 ครั้งล่าสุดที่ใช้ขุมพลังการประมวลผล AMD ซึ่งนับเป็นมากกว่าหนึ่งในสามของระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังที่สุดในโลก รวมถึง:
· ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ใหม่ 17 ระบบที่เปิดตัวในการจัดอันดับครั้งล่าสุด รวมถึงอีก 5 ระบบที่ขับเคลื่อนขุมพลังการประมวลผลบนโปรเซสเซอร์ 5th Gen AMD EPYC
· ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Hunter ที่ตั้งอยู่ที่ High-Performance Computing Center (HLRS) ใน University of Stuttgart (HLRS) ซึ่งขับเคลื่อนขุมพลังการประมวลผลบน AMD Instinct MI300A
· ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Viper ของ University of Hull ซึ่งขับเคลื่อนขุมพลังการประมวลผลบน AMD Instinct MI300A
· ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Pitagora รุ่นใหม่ ที่ตั้งอยู่ในศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ CINEA ประเทศอิตาลี สำหรับผู้ใช้ในกลุ่ม EUROfusion ซึ่งขับเคลื่อนขุมพลังการประมวลผลบนโปรเซสเซอร์ 5th Gen AMD EPYC
ผลลัพธ์และไฮไลต์จากการจัดอันดับ Top500 ครั้งล่าสุดนี้เป็นมากกว่าความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ แต่ยังเป็นข้อพิสูจน์ในภารกิจสำคัญที่ AMD กำลังดำเนินงานเพื่อส่งมอบประสิทธิภาพด้านการประมวลผลและการใช้พลังงานที่ยอดเยี่ยมในระดับงานขนาดใหญ่
การขับเคลื่อนอนาคตของ HPC และ AI
ในขณะที่ AI และ HPC ยังคงผสานการทำงานร่วมกัน บทบาทของการประมวลผลที่ปรับขนาดได้และมีประสิทธิภาพก็มีความสำคัญมากยิ่งกว่าที่เคย AMD ยินดีที่ได้เป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เพื่อเข้ามาปรับเปลี่ยนวิธีการที่สถาบันวิจัยและองค์กรต่าง ๆ ใช้แก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน ตั้งแต่ด้านความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และการจำลองสภาพอากาศไปจนถึงการฝึกอบรมด้าน LLM และการอนุมานด้าน generative AI โดย AMD กำลังขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านการประมวลผลในทุกระดับตั้งแต่ระดับเอ็กซาสเกลไปจนถึงนวัตกรรม edge AI ผ่านกลุ่มผลิตภัณฑ์ CPU, GPU และ APU ที่สามารถปรับสเกลได้ และได้รับการพัฒนาเพื่อยกระดับประสิทธิภาพและประสิทธิผล