AMD อาจกำลังเจอสถานการณ์ลำบากในตอนนี้ ไม่ใช่เพราะคู่แข่ง แต่เพราะสิ่งที่บริษัทไม่ได้ตั้งใจทำขึ้นมาเอง
เมื่อสองวันก่อน AMD ได้ปล่อย FidelityFX SDK 2.0 ซึ่งดันมี FSR 4 รวมมาด้วย แต่หลังปล่อยออกไปก็ชัดเจนทันทีว่าบริษัทเผลอใส่ซอร์สโค้ดโอเพ่นซอร์สลงไปในคลังอย่างเป็นทางการโดยไม่ได้ตั้งใจ
แม้ AMD จะรีบลบไฟล์ออกไปแล้ว แต่ไฟล์ที่เชื่อมโยงบางส่วนยังคงเข้าถึงได้อยู่หลายชั่วโมง และบางไฟล์ยังคงเปิดดาวน์โหลดได้จนถึงตอนนี้ ผู้ใช้บางรายได้ทำการ fork โค้ดเก็บไว้แล้ว และอย่างที่หลายคนชี้ให้เห็นว่า เมื่อโค้ดถูกปล่อยเป็นโอเพ่นซอร์สแล้ว จะไม่สามารถ “ย้อนกลับ” ได้อีก
จากโค้ดที่หลุดออกมา เผยให้เห็นว่า AMD กำลังทำงานบนเวอร์ชัน INT8 ของ FSR 4 แต่ดูเหมือนว่ายังไม่เสร็จสมบูรณ์ และยังไม่แน่ชัดว่าตั้งใจจะใช้กับฮาร์ดแวร์จริงหรือเป็นเพียงงานที่ค้างมาจากการพัฒนาก่อนหน้า นอกจากนี้ AMD เคยยืนยันแล้วว่าได้สำรวจการรองรับ RDNA3 ก่อนการเปิดตัว RX 9000 แต่ก็ไม่ได้ให้สัญญาที่ชัดเจน
หลังโค้ดถูกเผยแพร่ ก็เกิดการถกเถียงว่า AMD ควรเดินหน้าปล่อย FSR 4 แบบโอเพ่นซอร์สเต็มรูปแบบหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ FSR รุ่นเก่า ๆ บริษัทก็ปล่อยเป็นโอเพ่นซอร์สมาโดยตลอด แม้ว่าในกรณีของ FSR 4 AMD ไม่เคยยืนยันแผนนี้ก็ตาม แต่หลายคนคาดหวังไว้
หากผู้ใช้ดาวน์โหลดไฟล์จากคลังที่อยู่ภายใต้ MIT License ไปแล้ว ก็ถือว่าพวกเขาได้รับสิทธิ์ใช้งาน คัดลอก และแก้ไขทันที การลบไฟล์ออกทีหลังไม่สามารถยกเลิกสิทธิ์ที่เคยให้ไปแล้วได้ เนื่องจากสัญญาอนุญาตโอเพ่นซอร์สโดยทั่วไปไม่สามารถเพิกถอนได้ เว้นแต่ผู้ใช้งานละเมิดเงื่อนไขของสัญญาอนุญาต ข้อยกเว้นอีกอย่างคือผู้เผยแพร่ไม่มีสิทธิ์ในโค้ดตั้งแต่แรก แต่ในกรณีนี้ FSR 4 เป็นผลงานที่ AMD ทำเองทั้งหมด จึงไม่น่าเข้าเงื่อนไขนั้น
การแข่งขันในเทคโนโลยี Super Resolution และ Frame Generation กำลังร้อนแรง AMD อาจไม่ต้องการเปิดช่องให้คู่แข่งได้เปรียบ การตัดสินใจที่สมเหตุสมผลอาจเป็นการรอปล่อยโอเพ่นซอร์สเมื่อมีเทคโนโลยีรุ่นถัดไปมาแทนที่ หรืออีกทางหนึ่ง AMD อาจใช้วิธีเดียวกับ Intel คือ “ประกาศให้ความหวัง” เรื่องโอเพ่นซอร์ส แต่ไม่เคยทำจริงก็ได้
สถานะโอเพ่นซอร์สของ Super Resolution