ซ็อกเก็ต AM4 ของ AMD เปิดตัวครั้งแรกสำหรับ OEM และผู้ผลิตพีซีสำเร็จรูปในเดือนกันยายนปี 2016 ควบคู่ไปกับ APU ตระกูล Bristol Ridge ซึ่งตอนนั้นแทบไม่มีใครคาดคิดเลยว่ามันจะมีอายุยาวนานขนาดนี้ และกลายเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญของ CPU ฝั่งเดสก์ท็อป
ปัจจุบัน AMD มี CPU มากกว่า 24 รุ่น ในตระกูล Ryzen 5000 Series ที่ใช้ซ็อกเก็ต AM4 โดยถือเป็นซีรีส์สุดท้ายแล้ว เนื่องจาก Ryzen 6000 จำกัดไว้เฉพาะโน้ตบุ๊ก ส่วน Ryzen 7000 ได้ย้ายไปใช้ AM5 เรียบร้อย ดังนั้น CPU รุ่นใหม่ที่ออกมาในตอนนี้ (หรือที่เคยเลื่อนการเปิดตัวมาก่อน) จะยังคงอยู่ภายใต้ชื่อ Ryzen 5000 Series
Ryzen 5 5600F เองก็เช่นกัน มันไม่ได้เป็นซีพียูระดับสูง แต่เป็นเวอร์ชันที่ลดสเปกลงจาก Ryzen 5 5600 โดยมี Base Clock ที่ 3.0 GHz และ Boost Clock ที่ 4.0 GHz ซึ่งต่ำกว่ารุ่น 5600 อยู่ 300 MHz และ 400 MHz ตามลำดับ
ข่าวดีคือ ชิปนี้ใช้สถาปัตยกรรม Vermeer (Zen 3) ตัวเต็ม ไม่ใช่ APU ตระกูล Cezanne แบบโมบาย นั่นหมายความว่าน่าจะได้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าและยังคงรองรับ PCIe เต็มรูปแบบ ถึงอย่างนั้น ในการใช้งานจริง CPU รุ่นนี้คงไม่ได้สร้างความแตกต่างมากนัก จุดประสงค์หลักน่าจะเอาไว้ให้ OEM และผู้ผลิตพีซีสำเร็จรูป หยิบไปใช้ในเครื่องประกอบสำเร็จ หรือไม่ก็เป็นทางเลือกในกลุ่ม พีซีสำนักงาน/พีซีเชิงพาณิชย์ราคาประหยัด
ณ ตอนนี้ ดูเหมือน AMD กำลังจะปล่อย CPU ตัวสุดท้ายสำหรับ AM4 แล้วปิดฉากแพลตฟอร์มตำนานนี้อย่างเป็นทางการ
ที่มา : VideoCardz