อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) บริษัทในเครือ Amazon.com ประกาศเปิดให้บริการ Amazon Bedrock ใน AWS Asia Pacific (Thailand) Region โดย Amazon Bedrock เป็นบริการที่ครบวงจร ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงโมเดล AI ประสิทธิภาพสูงที่เหมาะกับการใช้งานเฉพาะด้าน และพัฒนาขยายแอปพลิเคชัน Generative AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Amazon Bedrock เปิดให้บริการในประเทศไทย เพื่อรองรับการใช้งานเทคโนโลยี Generative AI เพื่อส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีล้ำสมัย Amazon Bedrock ได้ขยายการให้บริการครอบคลุมพื้นที่สำคัญทั่วโลกในปี 2566 โดยเฉพาะการเปิดให้บริการใน AWS Asia Pacific (Thailand) Region ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อองค์กรภาครัฐ บริษัทในอุตสาหกรรมที่มีการกำกับดูแล และธุรกิจที่ต้องการพัฒนานวัตกรรมด้วย Generative AI การให้บริการในประเทศไทยมีจุดเด่นสำคัญในการช่วยลดความหน่วงในการประมวลผล เนื่องจากศูนย์ข้อมูลอยู่ใกล้ผู้ใช้งานมากขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานที่ต้องการการตอบสนองแบบทันที เช่น การสร้างเนื้อหาแบบเรียลไทม์ ระบบโต้ตอบอัตโนมัติ และการวิเคราะห์การสนทนาแบบทันที
คุณวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager ประจำ AWS ประเทศไทย กล่าวว่า “AWS มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถนำ AI มาใช้งานได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยที่สุด เราเข้าใจความต้องการที่หลากหลายขององค์กรต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรที่ต้องการพัฒนาโซลูชันด้วยตนเองตั้งแต่เริ่มต้น หรือองค์กรที่ต้องการโมเดลเฉพาะทางที่พร้อมใช้งานทันที เป้าหมายของเราคือการสร้างความมั่นใจว่าธุรกิจในประเทศไทยจะสามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งและคุ้มค่า เพื่อใช้ประโยชน์จาก AI ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ”
องค์กรต่าง ๆ ทั่วประเทศไทยกำลังใช้ประโยชน์จาก Generative AI ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน สร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ใช้ และปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานแบบดั้งเดิมให้ทันสมัยยิ่งขึ้น Amazon Bedrock เป็นบริการที่มีการจัดการอย่างครบวงจร นำเสนอโมเดลประสิทธิภาพสูงที่หลากหลายและสามารถปรับแต่งให้เหมาะกับการใช้งานเฉพาะด้าน พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวระดับองค์กร นอกจากนี้ AWS ยังจัดเตรียมเครื่องมือ ทรัพยากร และการฝึกอบรมที่จำเป็นให้กับลูกค้า เพื่อส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรม Generative AI อย่างมีความรับผิดชอบและปลอดภัย ปัจจุบัน ลูกค้าสามารถเข้าถึงโมเดลพื้นฐานชั้นนำผ่าน Amazon Bedrock ได้หลากหลาย ประกอบด้วยโมเดลจาก Amazon Nova (Micro, Lite, Pro) และ Anthropic (Claude Sonnet 4)
“Amazon Bedrock กำลังเปิดมิติใหม่แห่งนวัตกรรมในทุกภาคส่วน ยกตัวอย่างเช่น ในภาคการเงิน บริษัทเทรดดิ้งสามารถพัฒนาอัลกอริทึมด้วย AI เพื่อปรับกลยุทธ์การเทรดแบบไดนามิก โดยวิเคราะห์ข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์และผลการดำเนินงานของพอร์ตโฟลิโอ ส่วนในด้านการแพทย์ เรากำลังช่วยให้โรงพยาบาลสามารถใช้ผู้ช่วยเสมือนที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในการตอบคำถามผู้ป่วย ซึ่งช่วยลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” คุณวัตสัน กล่าวเสริม
ลูกค้าของ AWS ที่สร้างนวัตกรรมด้วย Generative AI
คุณกวิน มโนมัยอุดม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ที่แสนสิริ เรากำลังปฏิวัติวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยผ่านการนำ AI มาใช้อย่างมีกลยุทธ์ร่วมกับ AWS โดยใช้ความสามารถด้าน Generative AI ของ AWS เพื่อยกระดับการให้บริการลูกค้าและการบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่หลากหลายของเรา เทคโนโลยีนี้ช่วยให้เราสร้างประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับผู้อยู่อาศัย พร้อมทั้งสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม ด้วย AWS เรากำลังสร้างรากฐานที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งจะกำหนดอนาคตของวงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย”
คุณชาญวุฒิ เจียมลักษณ์ไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยี BTS Thailand (SEAC) กล่าวว่า “AWS Bedrock ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการจัดการเรียนรู้และพัฒนาในระดับองค์กรของเราอย่างสิ้นเชิง สิ่งที่เคยใช้เวลาหลายสัปดาห์ ตอนนี้ทำได้ในเวลาไม่กี่นาที และเราสามารถขยายการเข้าถึงได้มากขึ้นถึง 5 เท่าโดยไม่ต้องเพิ่มทีมงาน แต่ความสำเร็จที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่เทคโนโลยีเท่านั้น แต่อยู่ที่ผลลัพธ์ที่เรามอบให้กับลูกค้า AWS Bedrock ช่วยให้เรามองเห็นกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาในมุมใหม่ ก้าวข้ามจากการทำงานอัตโนมัติแบบง่าย ๆ ไปสู่การเปลี่ยนแปลงธุรกิจอย่างแท้จริง”
ดร.วินน์ วรวุฒิคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง Botnoi Group กล่าวว่า “บอทน้อยได้ยกระดับแพลตฟอร์ม Voicebot และ Chatbot ที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยผสานเทคโนโลยี Generative AI ล้ำสมัยของ AWS การย้ายจากโมเดลเดิมมาใช้ Amazon Nova Lite ที่ปรับแต่งเฉพาะทาง ช่วยพัฒนาความเข้าใจไวยากรณ์และบริบทภาษาไทย เราได้เพิ่มขีดความสามารถอย่างมาก มอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าชาวไทย ด้วยการลดเวลาตอบสนองลง 20% เพิ่มความแม่นยำ 7% และประหยัดต้นทุนได้มากกว่า 30% ส่งผลให้ Voicebot และ Chatbot ของบอทน้อยสามารถเข้าใจและพูดภาษาไทยได้เหมือนคนไทย”
การพัฒนาทักษะและส่งเสริมผู้ประกอบการด้าน Generative AI
AWS ทุ่มงบประมาณสนับสนุนพันธมิตรและโครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพทั่วประเทศไทย เพื่อเสริมศักยภาพองค์กรในประเทศในการพัฒนาแอปพลิเคชัน Generative AI เฉพาะทาง โดยหนึ่งในโครงการสำคัญคือ Tech for Digital Future ที่มุ่งเตรียมความพร้อมให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-6) ด้วยความรู้พื้นฐานด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและการประมวลผลแบบคลาวด์ ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญต่ออนาคตดิจิทัลของประเทศ
เพื่อยกระดับการผลิตบุคลากรด้าน AI ของไทย AWS ได้ริเริ่มโครงการ Skills to Jobs Tech Alliance ในประเทศไทยเมื่อต้นปีนี้ โดยร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในการปรับปรุงหลักสูตรให้ทันสมัย ผ่านแผนที่ทักษะที่ได้รับการรับรองจากภาคอุตสาหกรรม ครอบคลุมด้านต่าง ๆ อาทิ วิศวกรรมซอฟต์แวร์ การวิเคราะห์ข้อมูล และปัญญาประดิษฐ์ เพื่อช่วยเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาสำหรับอาชีพด้านเทคโนโลยีที่เป็นที่ต้องการ AWS ได้ประสานความร่วมมือกับภาครัฐ สถาบันการศึกษา และผู้ประกอบการ เพื่อสร้างระบบนิเวศด้านทักษะสู่การจ้างงานที่ครบวงจร
ในเดือนพฤศจิกายน 2566 Amazon เปิดตัวโครงการ AI Ready เพื่อขยายโอกาสการเข้าถึงการฝึกอบรมทักษะด้าน AI ในระดับโลก โดย AWS ได้บรรลุเป้าหมายการฝึกอบรมทักษะคลาวด์แก่ผู้เรียนกว่า 31 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 29 ล้านคนภายในปี 2568 นอกจากนี้ AWS ยังนำเสนอหลักสูตร Generative AI แบบไม่มีค่าใช้จ่าย ที่ออกแบบสำหรับทั้งบุคลากรด้านเทคนิคและไม่ใช่ด้านเทคนิค เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนได้พัฒนาทักษะสำหรับอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AI
“เรากำลังเสริมศักยภาพให้องค์กรในทุกอุตสาหกรรมด้วยพลังของ AI ผ่านการลงทุนในการพัฒนาทักษะ การเสริมความแข็งแกร่งให้กับโปรแกรมสนับสนุนนักพัฒนาและสตาร์ทอัพ ตลอดจนการขยายการเข้าถึงบริการ AI รุ่นล่าสุด รวมถึง Amazon Bedrock สำหรับลูกค้าในประเทศไทย AI จะเป็นเทคโนโลยีที่สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่สุดในยุคของเรา และเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้สนับสนุนลูกค้าในประเทศไทยในการใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ ๆ และแก้ไขความท้าทายทางธุรกิจต่าง ๆ” คุณวัตสัน กล่าวทิ้งท้าย
AWS แสดงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนลูกค้าและชุมชนท้องถิ่นในประเทศไทยอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยได้ประกาศเปิดตัว AWS Asia Pacific (Thailand) Region ในเดือนมกราคม 2568 การลงทุนครั้งสำคัญนี้มีมูลค่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคาดการณ์ว่าจะสร้างงานเต็มเวลากว่า 11,000 ตำแหน่งต่อปี และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โครงสร้างพื้นฐานของ AWS ส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจไทยในวงกว้าง โดยเฉพาะด้านการพัฒนาทักษะดิจิทัลและการรับรองมาตรฐานวิชาชีพ นับตั้งแต่ปี 2560 AWS ได้มุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ผ่านการจัดฝึกอบรมด้านการประมวลผลแบบคลาวด์ให้แก่ผู้สนใจกว่า 100,000 คน ผ่านโครงการพัฒนาทักษะต่าง ๆ