อีกหนึ่งข่าวใหญ่ที่มีการพูดถึงในวงการไอทีประจำเดือน มกราคม ก็คือ "Windows 7 EOL" หรือการสิ้นอายุไขของ Windows 7 นั่นเอง
ตรงนี้หลายๆคนอาจจะยังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร ก็จะขอสรุปคร่าวๆไว้ซักหน่อย.. โดยคำว่าสิ้นอายุขัย หรือ EOL (End-of-Life) เนี่ย ไม่ใช่ว่า Windows 7 จะไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไปนะ แต่ทาง Microsoft ผู้ผลิตและพัฒนา Windows 7 จะเลิก Support ตัวระบบปฏิบัติการ ทำให้ไม่มีอัพเดทและฟีเจอร์ใหม่ๆเข้ามา รวมไปถึงอัพเดทด้านความปลอดภัยหรือ Security Patch ด้วย และนั่นก็ทำให้ผู้ใช้งาน Windows 7 อาจจะเจอปัญหาเกี่ยวกับความปลอดภัยได้ ถ้ายังจะใช้ Windows 7 ต่อหลังช่วง EOL
ทีนี้ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ว่า ผู้ใช้นั้นไม่อยากอัพเกรดไป Windows 10 แต่คือผู้ใช้บางรายจำเป็นต้องใช้ Windows 7 ด้วยหลายๆเหตุผล อย่างเช่นการรองรับและเข้ากันได้ของ Software นั่นเอง ทำให้ไม่ว่า Windows 10 จะดียังไง แต่ในเมื่อ Software ที่ผู้ใช้บางกลุ่มต้องการใช้นั้น มันไม่ Support แบบเต็มที่ กลุ่มผู้ใช้เหล่านี้ก็ไม่อาจจะเปลี่ยนไปใช้ Windows 10 ได้
ตรงนี้แหละครับ คือจุดที่ผู้พัฒนา Software ด้านความปลอดภัยต่างๆเห็นเป็นช่องทางในการทำการตลาด ! เพราะในเมื่อ Microsoft ไม่ออกอัพเดทด้านความปลอดภัยให้แล้ว ก็แน่นอนว่าผู้ใช้ Windows 7 ที่ยังซีเรียสเรื่องความปลอดภัยก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อ Software หรือ Solution ที่บริษัทเหล่านี้มานำเสนอ (ไม่งั้นก็อาจจะต้องเลิกต่อเน็ตแทน)
ทาง av-test.org เว็บไซต์ที่เกี่ยวกับระบบ Security ของ Operating System ต่าง ก็ได้มีการติดต่อผู้พัฒนา Antivirus หรือ Security Suite หลายเจ้า พร้อมคำถามประมาณว่าจะมีการ Support Windows 7 ต่อไปอีกนานแค่ไหน และได้มีการรวบรวมมาให้ผู้อ่านได้ดูกัน .. โดยข้อมูลที่ออกมานั้นก็เหมือนจะเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่ใช้ Windows 7 เพราะว่าเจ้าใหญ่ๆหลายเจ้านั้น ยังไม่มีประกาศวันยุติการ Support ออกมาเลยด้วยซ้ำ และการไม่ระบุวันแบบนี้ ก็สรุปไว้ก่อนได้เลยว่า ต้องมีการ Support ไปอย่างน้อยอีกสองปี
งานนี้ผู้ที่ใช้งาน Windows 7 และจำเป็นต้องต่ออินเตอร์เน็ต ก็อาจจะใจชื้นขึ้นมาบ้าง ถึงแม้ว่า Microsoft จะเลิกออกอัพเดทด้านความปลอดภัยมา ก็ยังมีผู้พัฒนา Solution แบบ Third-Party คอยรับจบปัญหาตรงนี้อยู่ ทำให้ยังคงสามารถใช้งาน Windows 7 ได้อย่างปลอดภัยระดับนึงไปอีกซักพักใหญ่ๆเลยหล่ะ