ยุคนี้จะว่าไปก็เหมือนว่าเราอยู่ในช่วงสงครามนั่นแหละครับ อาจจะไม่ได้ตีกันจนเลือดตกยางออกแบบเมื่อก่อน แต่สงครามในที่นี้มันเป็นสงครามการค้าที่รบกันด้านเศรษฐกิจ มีการ Sanction ยุติการดำเนินธุรกิจ แบนกันไปแบนกันมา เพื่อไม่ให้ค้าขายกันได้ง่ายๆ .. ที่ทะเลาะกันหลักๆเลยตอนนี้ก็คือ สหรัฐ และ จีน ที่ดูแล้วมีประเด็นมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแบนการให้บริการของฝั่งประเทศตรงข้าม อย่างจีนเองก็มีการแบน Social Media และสื่อจากฝั่งสหรัฐ ทางสหรัฐเองก็แบนสินค้าจากฝั่งจีนหลายๆอย่าง และล่าสุดนี้เหมือนจะมีเพิ่มมาอีกเจ้าแล้วครับ
ครั้งนี้เป็นคิวของ Micron ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิต Memory และ Storage ยักษ์ใหญ่จากทางสหรัฐ ที่แม้ว่าคนทั่วไปอาจจะไม่รู้จัก แต่ถ้าใครอยู่ในวงการคอมแบบลึกๆหน่อยก็จะต้องเคยได้ยินหรือเคยใช้สินค้าของเขากันมาไม่มากก็น้อย เพราะ Micron เองก็ไม่ได้ขายสินค้าในยี่ห้อ Micron ให้คนทั่วไปเป็นหลัก แต่จะเป็น Supplier ด้านชิป Memory และ Storage ให้กับบริษัทต่างๆ ยกตัวอย่างเช่นที่จีนตอนนี้ก็มี Lenovo, Xiaomi, ZTE, Oppo ที่มีการใช้ชิป Memory หรือ Storage ของทาง Micron และนี่ก็เป็นยี่ห้อที่คนไทยคุ้นๆเท่านั้นนะครับ จริงๆแล้วมีอีกหลายยี่ห้อเลย
สาเหตุในการแบนครั้งนี้ ทางจีนก็ได้บอกว่าเป็นเรื่อง "ความเสี่ยงด้านความมั่นคง" หรือจะว่าง่ายๆคือ ไม่เชื่อใจสหรัฐ ว่าถ้าใช้ชิปของทาง Micron แล้ว ข้อมูลทางการอะไรต่างๆจะปลอดภัย เหมือนกับที่สหรัฐไม่ยอมใช้ชิปอะไรต่างๆจากประเทศจีนนั่นแหละครับ เพราะข้อมูลก็จัดว่าเป็นสิ่งสำคัญมากๆในยุคสงครามการค้าแบบนี้
รายงานนี้มาจากสำนักข่าว South China Morning Post ที่บอกว่าเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ที่ผ่านมานั้น ทางการจีนได้ประกาศสั่งห้ามขายสินค้าของบริษัท Micron ในประเทศจีน โดยได้บอกว่าเป็นความเสี่ยงด้านความมั่นคง และเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติด้วย .. อันนี้ก็เป็นเพราะว่าทางองค์กร Cyber Security Review Office ที่มีหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัยเกี่ยวกับไซเบอร์ของประเทศจีนได้ บอกว่าชิปความจำของ Micron นั้นไม่ผ่านมาตรฐานการตรวจสอบด้านความปลอดภัย ทำให้หน่วยงานของรัฐไม่สามารถใช้งานอุปกรณ์ที่มีชิปของ Micron ได้อีกต่อไป
ทางสหรัฐได้ยินเช่นนี้ก็ต้องออกมาตอบโต้เช่นกัน โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ออกมาแถลงการณ์ว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง และได้บอกว่าคำตัดสินจากทางจีนที่มีต่อ Micron นั้นเป็นการโจมตีทางการค้า และได้บอกต่อด้วยว่าจะมีการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของจีนโดยตรงเพื่อที่จะชี้แจงเรื่องนี้
ข้อมูล : Reuters