ปัจจุบันกล้องติดหน้ารถ หรือ Dashcam ที่กลายเป็นสิ่งสำคัญของการใช้รถยนต์สมัยนี้ ไม่ว่าเป็นตามตัวผู้กระทำผิดที่หลบหนี การชี้ถูกผิด เป็นหลักฐานช่วยเพื่อนร่วมถนน ที่กล้องติดหน้ารถที่มีความคมชัด ให้รายละเอียดที่ดี ที่เป็นหลักฐานชั้นยอด DDPAI Z50 ที่มีความละเอียด 4K พร้อมกับทางเลือกของ GPS และ กล้องหลัง DDPAI Z50 จะมีความชัด ,การใช้งานยังไงบ้าง รวมไปถึงความพิเศษยังไงบ้าง ตามมาชมกัน
Package
แพ็คเกจที่มาในธีมสีดำ ตัวรุ่นที่เราจะมารีวิวเป็น กล้องหน้าหลัง GPS และ ชุดบันทึกเวลาจอด
คู่มือที่มีไม่มีภาษาไทย ไม้งัดขอบยางในการเก็บสายไฟ และ USB Charger รวมไปถึงเทปกาวสองหน้า 3M
ความน่าสนใจของ DDPAI Z50 คือด้านในจะมี NAND Flash ใช้เก็บข้อมูลยามที่ MicroSD เสีย และ ข้างในไม่มีแบต แต่จะมี Super Capacitor ที่ให้ไฟสำรองแก่ DDPAI Z50
Design & Detail
ตัวกล้อง DDPAI Z50 หน้าจอ LCD ขนาด 2.3 นิ้ว พร้อมปุ่มสั่งการ 4 ปุ่ม และ จะมีไฟแสดงสถานะการทำงาน ตัวเครื่องมีสีดำสีเดียว
ตัวเลนส์ Sony IMX415 ด้วยชิ้นเลนส์ 7 ชิ้น รองรับที่ความละเอียด 4K ยังสามารถปรับมุมกล้องได้จากการหมุน ที่ตัวล้องมีช่องระบายความร้อนรอบตัว
ทางด้านซ้ายจะมีสล๊อตติดตั้ง MicroSD รองรับสูงสุด 128 GB และ ปุ่มรีเซ็ต
นอกจากช่องระบายความร้อนแล้ว การช่องการเชื่อมต่อพลังงาน Type-C และ แจ็ค 2.5 มม. สำหรับกล้องตัวที่สอง
สาย TYPE C ความยาวประมาณ 3 เมตร ในการชุก ซ่อนสาย ถือว่าให้มายาวดี และ ในรุ่นที่มีกล้องหลัง สายจะยาวโดยประมาณ 6 เมตร พอกับการซุกสายได้อย่างเรียบร้อย หรือ เดินในระดับลีมูซีนสบาย
ตัวกล้องหลัง หรือ ตัวที่สอง ความละเอียด FHD สามารถหมุนบันทึกนอกรถ หรือ บันทึกในรถ ขึ้นกับความต้องการนำไปใช้งาน
เทปกาวในชุดเหนียวมาก ทาบลองดูตำแหน่งให้ดีก่อนติดตั้งจริง
Hard Wire ให้กล้องทำงานตลอดเวลา ในการติดตั้ง ที่ควรต้องให้ช่าง หรือ มีความชำนาญในระบบไฟ ที่ DDPAI ในอุปกรณ์มาครบชุด ฟิวมีทุกขนาด ไฟ Acc ไฟ 12v มาพร้อม
การใช้งานแบบไม่มีแอป
อันนี้ติดตั้งให้ดูคร่าวๆ ถ้าติดให้ดีควรจะใช้แอปช่วยดู เพราะการออกแบบ DDPAI Z50 ให้มุม 15 องศา กับกระจกรถ ถ้ามองจอจะไม่สะดวกนัก แต่ลักษณะนี้ผมถูกใจมาก จอมองเวลาที่ใช้เท่านั้น
มุมหน้าที่ 140 องศา ถือว่ากำลังดีในการใช้งาน เก็บรายละเอียดได้ครบ มุมภาพไม่เพี้ยนในการมอง
ในกรณีที่เกิดเหตุที่ไม่คาดฝัน ที่มีการกระทบกระทั้งตัว ตัวกล้องจะมีการบันทึกภาพวีดีโอให้ทันที เผื่อในกรณีฉุกเฉิน ส่วนตัวกล้องจะมีไฟแสดงสถานะการทำงาน
ในรุ่นที่มีกล้องที่สอง อย่างที่บอกไปตัวกล้องหมุนถ่ายในรถ หรือ นอกรถได้ มีไฟสีเขียวแสดงสถานะการทำงาน
ปุ่ม 4 ปุ่ม ในการควบคุมการทำงาน หน้าหลัก ปุ่มซ้ายจะสลับภาพจากกล้องตัวที่้สอง ปุ่มถัดมาการปรับค่าการใช้งาน รองสุดท้ายเข้าดูภาพหรือวีดีโดในการ์ด และ ปิดหน้าจอ
การปรับตั้งค่า จะมีโหมดหลักสามการทำงาน
การปรับความสว่างหน้าจอ ปรับเสียง และ ปรับโหมดถนอมหน้าจอ
เข้ามาดูภาพ วีดีโอ และ ที่ตัวกล้องบันทึกแบบฉุกเฉิน
เข้ามาดูวีดีโอ โดยจะแบ่งตามช่วงเวลาที่บันทึก
เมื่อเข้ามาดูแล้ว จะพบกับเวลาที่และเอียดมากขึ้น
Bluetooth ,Format MicroSD ,Factory Restore ,ภาษา ที่ไม่มีภาษาไทย ,ความช่วยเหลือ และ เกี่ยวกับกล้อง เช่นรายละเอียด Firmware
ภาพถนอมหน้าจอ หรือ ทำให้คนขับไม่เสียสมาธิ
แอปการใช้งาน
แอปการใช้งามเพิ่มเติม ที่ DDPAI มีให้ติดตั้งได้ผ่าน Google Play และ App Store
ใช้อันไหน ก็โหลดมาได้ครับ ในการใช้งานจำเป็นต้องตอบคำถามตามมาตรฐานความปลอดภัยของ OS อยู่แล้ว ทีเดียวเท่านั้น
ก่อนที่ไปปรับแต่งกล้อง มาปรับแต่งในส่วนของแอปก่อน การทำการต่างๆ เรียกได้ว่า ครบถ้วนดีครับ มีให้เลือกโหลดภาพและวีดีโอ ฉุกเฉินมาให้ทันทีที่ต่อกับกล้อง
ปรับภาษาการใช้งาน ที่มีภาษาไทยให้เราอุ่นใจ ส่วนประเทศอื่นที่มี ก็สื่อถึงประเทศที่มีความโหด(สัส) ในการใช้กล้องติดหน้ารถกัน รวมไปถึงการแสดงผลเป็น KM/h ที่เป็นที่นิยมใช้ในบ้านเรา
การเข้าถึงกล้อง ต้องเข้าไปที่ SSID ของกล้อง ที่สามารถเปลี่ยนได้ภายหลัง ใน iOS แตกต่างกับ Android เล็กน้อยในตอนแรก ในเป็นภาษาอังกฤษ จะไม่งงในเรื่อง ADAS ถ้าใช้ภาษาไทยอาจสับสนได้
ADAS แนะนำว่าอย่าไปรำคาญเสียงเตือนนัก และ เสียเวลาเซ็ตกับมันหน่อย เพราะ ADAS มันช่วยให้ผมรอดจากเหตุไม่คาดฝันมาแล้ว
การดูภาพที่สามารถได้แบบ Realtime และ แถบเวลา จะมีช่วงล่างแสดงข้อมูล GPS (ในรุ่นที่มี) และ แถบจับภาพหรือการโหลดเข้ามือถือ
สามารถเลือกภาพและวีดีโอที่ต้องการได้ และ ภาพและวีดีโอในแบบฉุกเฉินเข้ามาให้เมื่อเชื่อมต่อกับกล้อง
นี่ก็คือภาพตัวอย่าง ที่อยู่ในโหมดฉุกเฉิน ที่ได้มีการโหลดเข้ามือถือให้เราเอง มาทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว
การกะระยะ ด้วย Software หรือ SR ที่ช่วยได้พอสมควร อาจไม่แม่นมากนัก แต่ยังมีข้อมูลไว้เถียงกับเค้าได้
การปรับค่าการทำงานของกล้อง ปรับโหมดการบันทึก H.265 ,ความละเอียดในการบันทึก ,แสดงวัน เวลา ,แสดงความเร็ว ,ระดับเสียงของกล้อง ,เปิดหริอปิดไมโดรโฟน ,ฟีเจอร์ ADAS ,จับคู่รีโมท Bluetooth ,สร้างวีดีโอหลังจากถ่ายภาพ ,ความไวในการชน ที่จะถ่ายภาพให้ ,สำหสับรถยุโรปที่ไม่ตัดไฟเวลาดับเครื่องถ้าจะไม่บันทึก 24/7 ก็มาเปิดตรงนี้ด้วย และ การจัดการเกี่ยวกับ Wi-Fi ของกล้อง
ในโมเดลที่มี GPS ข้อมูลต่างๆที่แสดงออกมาถือว่าแม่นยำใช้ได้ ถ้ามองที่การ Cool Start ถือว่าทำได้รวดเร็วดี ใช้เวลาไม่นานครับ
หลังจากทำการจับการใช้งานได้แล้ว เรียกได้ว่ามันแม่ยำมาก เห็นเส้นทางอย่างชัดเจน ซึ่งถ้ามองว่า GPS ไม่จำเป็น ก็เลือกรุ่นที่ไม่มี GPS ได้ครับ
ตัวอย่างวีดีโอจากกล้องหน้าและหลัง
ไฟล์ที่อยู่ใน MicroSD การใช้งานจะมีไฟล์วีดีโอสองชุด สำหรับมือถือความละเอียดต่ำ และ ความละเอียดสูง ส่วนกล้องหลัง GPS รวมไปถึงความละเอียดที่เซ็ต ทำให้เปลืองพื้นที่แตกต่างกันออกไป รองรับ MicroSD ความจุ 32 GB สูงสุด 128 GB
ตัวอย่างแรก คือกล้องหน้า จะเป็นช่วงกลางลงอุโมงค์เพื่อดูว่ากล้องสามารถปรับแสงได้ทัน และ ความละเอียด ความคมชัด ในภาพที่ให้ออกมาดี ชัดเจน ไม่มีอาการบิดให้ได้เห็น สามารถเห็นป้ายทะเบียนคันหน้าได้ชัดเจน
ตัวอย่างที่สอง กล้องหน้าเหมือนเดิม แต่ย้ายมาช่วงค่ำ ที่ภาพยังมีความชัด และ สดใสไม่แพ้ช่วงกลางวัน แต่จะมีแสงสะท้อนจาก HeadUnit มาบ้าง แต่ไม่ขัดกับรายละเอียดที่เห็น ภาพของป้ายทะเบียนยังคงมีความชัดเจน
กล้องหลังในช่วงกลางวัน ที่ความคมชัดและลายละเอียดมีความด้อยลงไปบ้าง แต่ถ้าเทียบกับกล้องที่เคยผ่านมือมา ถือว่ากล้องหลังมีความคมชัดมาก ดีกว่ากล้องหน้าหลายตัวเสียอีก สามารถเก็บรายละเอียดได้ดี แต่จะช่วงขอบจะมีความผิดเพี้ยนอยู่บ้าง
กล้องหลังในช่วงกลางคืน ที่จะด้อยลงไปบ้างนัก เนื่องจากแสงไฟที่สาดส่องเข้ามา แต่ก็ยังมองรายละเอียดลำคัญออกมาไม่พลาดไป ที่ต้องอาศัยจังหวะช่วยบ้าง
Conclusion
DDPAI Z50 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความเด็ดของกล้องติดหน้ารถเลยก็ว่าได้ ในการเก็บรายละเอียดต่างๆ ของกล้องหน้าที่ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ให้ภาพสูงถึง 4K และ รุ่นที่มีกล้องหลังที่ยังคงสามารถให้รายละเอียดที่ชัดเจน รวมไปถึงการทำงานของแอปในฝั่ง Android และ Apple ที่สามารถปรับแต่ง และ เสริมการทำงานของ DDPAI Z50 ได้น่าสนใจ ในราคาเริ่มต้นที่ไม่ถึงสี่พันบาท สำหรับวันนี้ผมก็ต้องขอลากันแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ