ปัจจุบันนี้เรียกได้ว่า Ray Tracing นั้นจัดว่าเป็นข้อบังคับสำหรับเกมสมัยใหม่แล้วก็ว่าได้ครับ ตั้งแต่ NVIDIA เปิดตัว GeForce RTX รุ่นแรกออกมา เราก็ได้เห็นผู้พัฒนาเกมต่างๆมีการใส่ฟีเจอร์ Ray Tracing เข้าไปด้วย .. แน่นอนว่าในเรื่องคุณภาพของตัวภาพและแสงเงานั้น ก็จะสมจริงมากขึ้น แต่ด้วยหลักการทำงานของมันแล้ว การบริโภคทรัพยากรเครื่องมันก็จะสูงขึ้นด้วยเช่นกัน

ในงาน Game Developer Conference ที่ผ่านมา Microsoft ได้มีการนำเสนอให้เราดูกันว่าอนาคตของ Ray Tracing นั้นจะเป็นยังไง .. โดยทางบริษัทก็ได้เคลมไว้ว่า DirectX Ray Tracing 1.2 ตัวใหม่ จะช่วยให้ Developer แก้ปัญหาด้านประสิทธิภาพได้เป็นอย่างดี โดยมันจะทำ Performance สำหรับ Ray Tracing และ Path Tracing ได้ดีขึ้นสองเท่า

สองฟีเจอร์หลักๆก็จะประกอบไปด้วย Opacity Micromaps ตัวย่อ OMM และ Shader Execution Reordering ตัวย่อ SER .. โดย OMM นั้นจะช่วยให้เกมที่ใช้ Path Tracing ทำงานได้ดีขึ้น 2.3 เท่า ด้วยการลด Shader Invocations และ Optimaze Opacity Data เพื่อให้การ Render นั้นดีขึ้น .. ในขณะที่ SER ก็จะทำการ Group ตัว Shader Execution เพื่อลด Divergence ให้มากที่สุด .. ตรงนี้ก็จะทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้นสองเท่า

ฟีเจอร์ Ray Tracing พวกนี้ แม้ว่าสมัยก่อน อย่างในเกม Battlefield V และ Cyberpunk 2077 จะเป็นฟีเจอร์เสริม สำหรับคนที่ต้องการประสบการณ์เล่นทีเหนือกว่าเท่านั้น .. แต่สำหรับเกมใหม่ๆเช่น Star Wars - Outlaws , Indiana Jones and the Great Circle .. พวกนี้ก็ต่างเป็นเกมที่บังคับว่าต้องใช้ Ray Tracing เท่านั้น .. การมาถึงของ DirectX Ray Tracing 1.2 จึงเป็นจุดที่จะทำให้ประสิทธิภาพของการเล่นเกมใหม่ๆนั้นดีขึ้นอย่างชัดเจน

ส่วน Path Tracing ก็จะเป็นประเภทของ Ray Tracing ที่ล้ำมากกว่า ซึ่งอันนี้แหละครับ เป็นจุดที่หลายๆคนเรียกมันว่า คือ Ray Tracing ของจริง .. เพราะในเรื่องความแม่นยำของแสงแบบ Dynamic  แลพวกเงานั้น จะดีขึ้นชัดเจน แต่ว่าการกินทรัพยากรก็มากขึ้นอย่างช้ดเจนด้วยเช่นเดียวกัน .. โดยคอมที่จะสามารถรันพวกนี้ได้เต็มที่ ก็จะต้องเป็นคอมที่สเปกสูงมากๆ แม้กระทั่ง RTX 5090 ที่เป็นการ์ดจอระดับบนสุด ณ เวลานี้ ยังแทบไม่สามารถรันเกมที่เป็น Path Tracing แบบ Native 4K ได้เลย ต้องมีการเอา Upscaling และ Frame Generation เข้ามาช่วยด้วย

DirectX Ray Tracing 1.2 ที่เรากำลังพูดถึงกันนี้ จะเปิดให้ Developer ใช้งานกันตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป .. ซึ่งก็เป็นสัญญาณที่ดีที่สำหรับวงการเกมโดยรวมครับ เพราะต่อไปนี้ทั้ง Ray และ Path Tracing ก็จะกินสเปกน้อยลงมากๆ .. ส่วนการได้ API Update ก็ตามคาดเลยครับ ช่วงแรกจะเป็น NVIDIA ก่อน .. เสร็จแล้วหลังจากนั้นของ AMD , Intel , Qualcomm ก็จะตามมาทีหลัง

ข้อมูล : TechSpot